กรุงเทพ 23 ธ.ค.- กระทรวงคมนาคม ผนึกกำลังเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทาง “ปีใหม่ 68 คมนาคม Connect สะดวกปลอดภัย กลับบ้านอุ่นใจ” ย้ำประชาชนเชื่อมต่อทุกระบบสะดวกไร้รอยต่อ
นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 “ปีใหม่ 68 คมนาคม Connect สะดวกปลอดภัย กลับบ้านอุ่นใจ” โดยกล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ได้ให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาได้อย่างปลอดภัยและไร้รอยต่อ โดยกระทรวงคมนาคมได้คาดการณ์การเดินทางของประชาชน ด้วยขนส่งสาธารณะระหว่างจังหวัด ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2567 – 2 มกราคม 2568 จะเพิ่มจากเทศกาลปีใหม่ ปี 2567 คิดเป็น 12.99% ดังนั้น เป้าหมายของกระทรวงคมนาคมจึงต้องการให้ประชาชนเดินทางกลับบ้านในภูมิลำเนาต่างจังหวัดได้ทุกคน และได้รับความประทับใจในการใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะจากการเดินทางในทุกมิติทั้งทางบก ทางราง ทางอากาศ และทางน้ำ อย่างไร้รอยต่อ ซึ่งได้ให้ทุกหน่วยงานในสังกัดเตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนตั้งแต่การเดินทางกลับภูมิลำเนาจนเดินทางกลับเข้ามาทำงาน ยกระดับความปลอดภัยการเดินทางให้กับประชาชน โดยเฉพาะรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถ เน้นย้ำรถโดยสารที่นำมาให้บริการต้องมีความพร้อม ชั่วโมงทำงานของพนักงานขับรถต้องไม่เกินที่กฎหมายกำหนด ไม่มีอาการเจ็บป่วยไข้ เมื่อยล้า ให้มีการตรวจสอบควบคุมพฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ ผ่านระบบ GPS ตรวจสอบและแนะนำการใช้อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยให้กับผู้โดยสาร เช่น ตำแหน่งการติดตั้งถังดับเพลิง ค้อนทุบกระจก ทางออกฉุกเฉิน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุในการเดินทางของประชาชนตลอดช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568
นายผดุงศักดิ์ สรุจิกำจรวัฒนะ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการรองรับประชาชนที่จะเดินทางร่วมงานเคาท์ดาวน์ จุดสำคัญ 3 แห่ง ในกรุงเทพฯ ได้เตรียมพร้อมระบบขนส่งสาธารณะรองรับ ดังนี้ ไอคอนสยาม ได้เตรียมรถโดยสารประจำทางรับส่งให้บริการ ถึง 24.00 น. และ Shuttle Boat ให้บริการหลัง 00.15 น. และมี BTS และสายสีทอง รองรับให้บริการ เซ็นทรัลเวิลด์ มีการปิดถนนบางเส้นทางรอบสถานที่จัดงาน ซึ่งได้ขยายเวลาให้บริการ BTS MRT และเรือโดยสารเพื่อรองรับแล้ว วันแบงค็อก ขสมก. จัดรถให้บริการพิเศษ จากสามย่านมิตรทาวน์ ถึง ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในช่วงเวลา 00.00 – 03.00 น. ทุก 5 นาที
ด้านนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ตลอดเดือนธันวาคมที่ผ่านมา กรมการขนส่งทางบกได้มีการตรวจความพร้อมรถโดยสาร ณ สถานประกอบการ และซักซ้อมการปฏิบัติหน้าที่ของ TSM รวมถึงนำร่องเริ่มใช้ระบบ “เช็กชัวร์ Ready to go” ยกระดับความเข้มงวดในการตรวจความพร้อมประจำวันก่อนปล่อยรถออกให้บริการ และสำหรับในช่วงเทศกาล จะมีการตรวจสอบความพร้อมรถโดยสารและพนักงานขับรถ ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอดทุกแห่ง Rest Area 13 จังหวัด และ Checking Point 26 จังหวัด ทั่วประเทศ พร้อมย้ำให้ผู้ประกอบการแนะนำการปฏิบัติตนบนรถโดยสารกรณีฉุกเฉิน และการใช้อุปกรณ์ความปลอดภัยต่าง ๆ ในรถโดยสารสาธารณะ เพื่อให้การเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
นายอรรถวิท รักจำรูญ กรรมการฯ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ขนส่ง จำกัด กล่าวว่า สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือ หมอชิต 2 ถือเป็นจุดศูนย์กลางในการเดินทางกลับภูมิลำเนา ไปยังภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ภาคอีสาน) ซึ่งในช่วงเทศกาลสำคัญ เช่น ปีใหม่ จะมีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก จึงได้มีการเตรียมแผนบริหารจัดการเดินรถ และการเข้าใช้พื้นที่ชานขาลา ทั้งเที่ยวไปและกลับ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมีรถโดยสาร และรถโดยสารไม่ประจำทาง (รถเสริม 30) เพียงพอกับความต้องการของประชาชน และไม่ให้เกิดความแออัดในการเข้าใช้สถานีขนส่งฯ นอกจากนี้ได้เพิ่มจุดจอดรถที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ซึ่งผู้โดยสารสามารถเดินทางเชื่อมต่อกับระบบรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และรถไฟชานเมืองสายสีแดงได้อีกด้วย
นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ กล่าวว่า ขสมก. ได้เตรียมความพร้อมของรถโดยสารเพื่อเชื่อมต่อการเดินทางให้กับประชาชนยังสถานีขนส่ง สถานีรถไฟ รถไฟฟ้า และสนามบิน ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล นอกจากนี้ ได้จัด Shuttle Bus ให้บริการฟรี รับ – ส่ง ประชาชนร่วมงานเคาท์ดาวน์เซ็นทรัลเวิลด์ และไอคอนสยาม รวมทั้งตามสถานที่สำคัญของกรุงเทพมหานคร ด้วย
นายอธิภู จิตรานุเคราะห์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางรางมีแผนการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ และจัดเจ้าหน้าที่ในการประสานงานกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินหรือเหตุขัดข้อง เพื่อดำเนินการประสานแก้ไขปัญหากับผู้ให้บริการระบบรางทุกระบบ เพื่อให้ประชาชนได้เดินทางกลับภูมิลำเนาทุกคน และการเดินทางร่วมกิจกรรมในคืนเคาท์ดาวน์อย่างมีความสุข
นายเอก สิทธิเวคิน รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ได้เตรียมพร้อมในการให้บริการประชาชน และได้พิจารณาพ่วงตู้โดยสารเพิ่ม 2-3 ตู้ไปกับขบวนรถปกติหรือพ่วงเต็มหน่วยลากจูงในขบวนที่มีการเดินทางหนาแน่น และเตรียมขบวนสำรองสายเหนือและสายตะวันตก 2 ขบวน ที่สถานีดอนเมือง สถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ และ CT Depot รวมถึงจัดเดินขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสาร โดยเชื่อมั่นว่าสามารถรองรับปริมาณการเดินทางของประชาชนได้
นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด กล่าวว่าในช่วงปีใหม่และคืนเคาท์ดาวน์ได้ให้ความสำคัญกับมาตรการรักษาความปลอดภัย บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด พร้อมขานรับนโยบายของกระทรวงคมนาคม เพื่อให้การเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ได้รับความสะดวกสบายและปลอดภัย สามารถเชื่อมต่อกับระบบขนส่งอื่นๆ อย่างไร้รอยต่อ จึงได้ขยายเวลาเปิดบริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ในคืนวันเคาท์ดาวน์ 31 ธ.ค. 67 โดยจะเปิดให้บริการจนถึงเวลา ตี 2 เพื่อเป็นการส่งมอบความสุขแทนคำขอบคุณมายังประชาชนทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงมาโดยตลอด มีการจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสุนัข K9 ตรวจตราในพื้นที่ต่าง ๆ เฝ้าระวังพื้นที่ผ่านระบบ CCTV หากเกิดเหตุด่วน เหตุร้ายขึ้นภายในสถานีรถไฟฟ้า จะสามารถดำเนินการเข้าควบคุมสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที
นายถนอม รัตนเศรษฐ ผู้ช่วยผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย กล่าวว่าในคืนวันส่งท้ายปีเก่า รฟม. ได้เพิ่มมาตรการความปลอดภัยและยกระดับการบริการด้วยการเพิ่มความถี่การบริการให้เพียงพอต่อประชาชน และขยายเวลาให้บริการรถไฟฟ้า โดยขบวนรถสุดท้ายออกจากสถานี ต้นทาง/ปลายทาง เวลา 02.00 น. ในคืนเคาท์ดาวน์วันที่ 1 มกราคม 2568 เพื่อรองรับประชาชนที่เดินทางไปร่วมงานเคาท์ดาวน์ตามสถานที่สำคัญของกรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ยังอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารด้วยการให้จอดรถ “ฟรี”ที่อาคารจอดรถและลานจอดรถทุกแห่งตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้ามหานครสายสีน้ำเงิน(สายเฉลิมรัชมงคล) สายสีม่วง(สายฉลองรัชธรรม) สายสีเหลือง(สายนัคราพิพัฒน์) สายสีชมพู รวมถึงสายสีเขียวส่วนต่อขยายเหนือและใต้ทุกแห่ง ในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 2 มกราคม 2568 เวลา 01.00 น. สายสีชมพู เวลา 02.00 น.เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568. -513-สำนักข่าวไทย