ภูมิภาค 18 ก.ย. – ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา วันพรุ่งนี้ วันนี้นายกรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการต่างๆ ในจังหวัดสุพรรณบุรี และพระนครศรีอยุธยา
ตลอดทั้งวัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำ ครม.ลงพื้นที่ติดตามงานในภาคกลางที่จังหวัดสุพรรณบุรีและพระนครศรีอยุธยา เริ่มตั้งแต่เช้า จุดแรกที่วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ทันทีที่มาถึง ได้เข้ากราบและห่มผ้าหลวงพ่อโต พร้อมสนทนาธรรมกับเจ้าอาวาสวัด ซึ่งเจ้าอาวาสบอกให้นายกรัฐมนตรีมีสติ อดทน ใจเย็น ไม่แบกรับปัญหาไว้คนเดียว ขณะที่นายกรัฐมนตรีสัญญาว่าจะพยายามทำอย่างเต็มที่ แต่ยอมรับกดดันเรื่องการทำงานในเวลาที่จำกัด
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ทุกครั้งที่นั่งสมาธิและสวดมนต์ไหว้พระ ไม่เคยขอพรให้ตัวเอง แต่ขอทำงานให้สำเร็จเพื่อประเทศชาติและประชาชน จะได้มีความเป็นอยู่ที่ดี ทั้งนี้ ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อคำบิดเบือน ทั้งการที่ขึ้นภาษี การซื้ออาวุธ และการสืบทอดอำนาจ
ส่วนการเลือกตั้ง ย้ำว่าเป็นไปตามโรดแมป แต่เมื่อถึงเวลาขอให้ประชาชนเลือกคนดี ได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล ไม่ให้เกิดปัญหาความขัดแย้งเหมือนในอดีต ยืนยันคดีความต่างๆ เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ไม่เคยกลั่นแกล้งใคร
จากนั้นนายกรัฐมนตรีเดินทางไปเยี่ยมชมโรงเรียนเกษตรกรชาวนา ชมแปลงนาสาธิต และขี่รถไถหว่านข้าว ลีลาไม่ธรรมดา ทะมัดทะแมงสมเป็นลูกหลานเกษตรกรเก่า ที่นี่ยังได้พบกับอดีต ส.ส.ของจังหวัด แลกเปลี่ยนความคิดเห็นพูดคุยกันถูกคอ โดยเฉพาะการช่วยเหลือชาวนา โดยเฉพาะนายประภัตร โพธสุธน และนายวราวุธ ศิลปอาชา ที่ทำให้นายกถึงกับอารมณ์ดี
นายกรัฐมนตรียังย้ำว่าจะสานต่อโรงเรียนเกษตรกรชาวนาให้ครอบคลุมทั้งประเทศ ขอชาวนาช่วยกันพัฒนาตัวเอง ส่งเสริมการปลูกข้าวพันธุ์ใหม่ และปลูกข้าวอินทรีย์เพื่อยกระดับการขายข้าว และการตลาดอย่างข้าวน้ำตาลน้อย หรือ กข.43 เช่นตอนนี้สามารถผลิตข้าวกลิ่นใบเตย ในอนาคตควรมีข้าวกลิ่นช็อกโกแลตหรือสตรอว์เบอร์รี รวมทั้งแปรรูปเป็นเครื่องสำอาง พร้อมพัฒนาการทำนาให้เป็นการท่องเที่ยวและบริการด้วย
จากนั้น ในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงบ้านแพน อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อเปิดประตูระบายน้ำตามโครงการปล่อยน้ำเข้านา ปล่อยปลาเข้าทุ่ง ซึ่งเป็น 1 ใน 7 ทุ่งรับน้ำของจังหวัดที่ทำเป็นแก้มลิงรองรับน้ำหลาก และเปลี่ยนระบบการปลูกข้าวเหลื่อมเวลา เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยวันนี้นายกรัฐมนตรีได้ปล่อยพันธุ์ปลาและกุ้ง รวมกว่า 940,000 ตัว ด้วย ต่อมานายกรัฐมนตรีได้ประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดภาคกลาง ผู้บริหารท้องถิ่นและตัวแทนภาคเอกชน เพื่อรับฟังการนำเสนอทิศทางการพัฒนาภาคกลางและโครงการสำคัญด้วย. – สำนักข่าวไทย