29 ต.ค.- อาจารย์อ๊อด พาตัวแทนผู้เสียหายที่สมัครเรียนหลักสูตรนายช่างซ่อมเครื่องบินมหาวิทยาลัยดัง ร้องโอนคดีฉ้อโกงมาให้บช.ก.รับผิดชอบ หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม
ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง-29 ตุลาคม 2567 รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรืออาจารย์อ๊อด เลขาธิการศูนย์ประสานงานบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ พาผู้เสียหายที่สมัครเรียนหลักสูตรนายช่างซ่อมเครื่องบิน ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ มาแจ้งความดำเนินคดีฐานฉ้อโกง
รศ.ดร.วีรชัย กล่าวว่า เนื่องจากหลักสูตรดังกล่าว มีการโฆษณาเชิญชวนเกินจริงทางสื่อต่างๆ ให้ประชาชนหลงเชื่อมาลงทะเบียนเรียน ซึ่งมีนักศึกษารวมตัวกันได้ประมาณ 20 คน มาร้องเรียนและประสานมาที่ตัวเอง จึงได้พาเดินทางไปยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ให้ตรวจสอบกรณีที่ไปเรียนแล้วไม่ได้รับวุฒิเอียซ่า หรือใบรับรองมาตรฐานยุโรป ตามที่โฆษณาไว้ แต่ได้เพียงใบรับรองจากบริษัทที่มาจัดหลักสูตร ทำให้นำไปใช้สมัครเข้าทำงานยาก
ผู้เสียหายส่วนใหญ่ เมื่อทราบว่าหลักสูตรไม่เป็นไปตามที่โฆษณา จึงลาออกกลางคัน และพยายามขอเงินคืน แต่กลับถูกข่มขู่ ขณะที่บางส่วนก็เรียนจนจบ แต่วุฒิที่ได้ นำไปใช้สมัครเข้าทำงานไม่ได้ ต้องไปเรียนหลักสูตรที่อื่นเพิ่มเติมอีก โดยค่าเทอมของหลักสูตรนี้อยู่ที่ประมาณ 5 แสนบาท รวมมูลค่าความเสียหายจากกลุ่มนักศึกษาที่รวมตัวกันตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 10 ล้านบาทแล้ว หนึ่งในผู้เสียหายอีกรายได้ไปแจ้งความไว้ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ แต่รู้สึกว่ามีความไม่ชอบมาพากล เพราะผู้บริหารของมหาวิทยาลัยมีความสนิทสนมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ วันนี้จึงเดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อจะขอให้โอนคดีมาที่นี่
นอกจากนี้รศ.ดร.วีรชัย ยังได้เปิดคลิปเสียง ที่เป็นการพูดคุยกันของผู้บริหารมหาวิทยาลัย หลังจากมีกลุ่มนักศึกษารวมตัวกันมาลาออก โดยในคลิปเสียงจะเห็นว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์ อธิการบดี มีการบอกว่า “ฝรั่งจะแฉทั้งหมดว่าใครเรียกรับเงินไปบ้าง” หมายถึงว่า หลักสูตรนี้ถูกซื้อแฟรนไชส์ จากบริษัทของประเทศเยอรมนี ซึ่งเมื่อผู้เสียหายจ่ายเงินค่าเรียนให้กับมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยก็จะนำไปจ่ายให้บริษัทนี้ และมีเงินทอนกลับมาที่อาจารย์ประจำหลักสูตร
คุณเอ ผู้เสียหายที่ได้ไปแจ้งความไว้ว่า สน.ทุ่งมหาเมฆ เมื่อปี 2566 เปิดเผยว่า ตัวเองได้ไปแจ้งความไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วแต่คดีไม่มีความคืบหน้า จนกระทั่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาหลังเป็นข่าว ทางสารวัตรที่รับผิดชอบคดีได้โทรศัพท์มาและเร่งรัดให้ไปพบที่สถานีตำรวจ แต่ตัวเองได้ยินเสียงปลายสายว่ามีคนที่สั่งสารวัตรอีกที โดยได้ยินว่า “ให้เรียกมันมาให้ได้” ทำให้ขาดความเชื่อมั่นกับตำรวจพื้นที่ และต้องการให้ย้ายคดีมาที่กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
ส่วนผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า ที่มาร้องเรียนเพราะหวังจะได้รับเงินค่าหลักสูตรคืน เพราะไปเรียนแล้วไม่ได้เป็นไปตามที่โฆษณาไว้ตั้งแต่แรก ที่การันตีว่ามีงานทำในสายการบินยุโรปแน่นอน ซึ่งตอนนั้นครอบครัวก็ได้เสียสละเงินที่จะผ่าตัดรักษาพ่อ เพื่อมาจ่ายค่าเรียนให้กับตัวเอง เพราะหวังว่าจบไปแล้วจะมีงานทำ มีเงินเดือนสูง มาดูแลครอบครัวได้ แต่ก็ต้องผิดหวัง .419 สำนักข่าวไทย