กรุงเทพฯ 29 ส.ค. – นายกฯ เตรียมลงนามรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-นครราชสีมา 2 สัญญา ออกแบบ-จ้างที่ปรึกษา 4 กันยายน และเริ่มก่อสร้าง ช่วงที่ 1 ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร ปลายเดือนตุลาคมนี้
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า วันที่ 4 กันยายนนี้นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปประเทศจีน เพื่อลงนามในสัญญาโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ประกอบด้วย สัญญา 2.1 การออกแบบรายละเอียดในกรอบวงเงินค่าจ้าง 1,706 ล้านบาท และสัญญา 2.2 ที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง 3,500 ล้านบาท หลังจากนั้นสามารถดำเนินการก่อสร้างช่วง ที่ 1 สถานีกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กิโลเมตรได้ตามแบบของจีนปลายเดือนตุลาคม ส่วนที่เหลือ อีก 3 ช่วง ช่วงที่ 2 ระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตร ช่วงที่ 3 ระยะทางประมาณ 119 กิโลเมตร ช่วงที่ 4ระยะทางประมาณ 119 กิโลเมตร จะต้องรอแบบจากจีน ซึ่งกำหนดเวลาจะต้องส่งมาให้ครบภายใน 8 เดือน ซึ่งจะมีการเร่งรัดให้ส่งแผนเร็วกว่าที่กำหนด
นอกจากนี้ ยังรายงานการดำเนินโครงการบริหารจัดการตั๋วร่วม โดยจะจัดตั้งบริษัทเพื่อบริหารจัดการและบำรุงรักษาระบบตั๋วร่วม โดยระบบศูนย์บริหารจัดการรายได้กลางจะไปอยู่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เพื่อเร่งให้การเชื่อมต่อได้ตามแผนที่วางไว้ โดยวันที่ 1 ตุลาคมนี้ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จะนำร่องเชื่อมต่อระบบรถเมล์ทุกสาย จากนั้นจะขยายการให้บริการไประบบรถไฟฟ้าทั้ง 4 ระบบ แอร์พอร์ตเรลลิงค์ รถไฟฟ้าสายสีเขียว สายสีม่วง และสายสีน้ำเงิน และระยะต่อไปจะครอบคลุมทุกระบบขนส่ง เช่น รถไฟฟ้าสายใหม่ ๆ ทางพิเศษ เรือโดยสาร รวมทั้งยังสามารถชำระค่าสินค้าและใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐกับระบบขนส่ง
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างสัญญาการออกแบบรายละเอียดออกแบบและงานก่อสร้างระบบโยธา หรือสัญญา 2.2 โครงการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วง กทม. – หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพ-นครราชสีมา) มูลค่าสัญญาค่าจ้าง 1,706 ล้านบาท เพื่อนำระบบการรักษาความปลอดภัยและการจ้างวิศวกรคนไทยเพิ่ม ทำให้งบประมาณเพิ่มเป็น 2,600 ล้านบาท การปรับเพิ่มดังกล่าวไม่กระทบต่อวงเงินลงทุนรวมทั้งหมด 179,000 ล้านบาท เมื่อนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุมผู้นำกลุ่มประเทศ BRIC ณ สาธารณรัฐประชาชนจีนต้นเดือนกันยายนนี้ รฟท.เตรียมลงนามกับจีน เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างโครงการทั้งหมดให้เดินหน้าต่อไปได้ ทั้งเรื่องระบบอาณัติสัญญาณ หัวรถจักรไฟฟ้า
นายกอบศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุม ครม.ยังเห็นชอบให้การเคหะแห่งชาติกู้เงินโดยกระทรวงการคลังค้ำประกัน วงเงิน 413 ล้านบาท จากโครงการลงทุนทั้งหมด 464 ล้านบาท สร้างบ้านกับผู้มีรายได้ปานกลางตามแนวรถไฟฟ้า บริเวณประชานิเวศน์ 3 จำนวน 556 ยูนิต จากเป้าหมายการสร้างที่อยู่อาศัย 4 พื้นที่ ได้แก่ ร่มเกล้า ลำลูกกาคลอง 2 บางปู ประชานิเวศน์ 3 เพื่อให้คนมีรายได้ปานกลางอาศัยอยู่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า.-สำนักข่าวไทย