นครราชสีมา 22 ส.ค. – ภารกิจตลอด 2 วันของการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ที่ จ.นครราชสีมา เสร็จสิ้นลงแล้ว นอกจากการรับฟังปัญหาโดยตรงจากชาวบ้านแล้ว คณะรัฐมนตรียังเห็นชอบอนุมัติงบประมาณและโครงการหลายอย่าง เพื่อพัฒนาพื้นที่อีสานให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง
ที่ประชุม ครม.สัญจรครั้งที่ 3 ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผ่านไป 2 วัน นายกฯ อารมณ์ดี คณะรัฐมนตรีเห็นชอบและอนุมัติหลายโครงการเพื่อพัฒนาภาคอีสานให้มีความสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เพราะเป็นพื้นที่มีศักยภาพ ทั้งด้านเกษตร และโลจิสติกส์ อาทิ เห็นชอบข้อเสนอสภาพัฒน์ เกี่ยวกับทิศทางพัฒนา กำหนดยุทธศาสตร์ ให้อีสานเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เชื่อมโยงการขนส่งต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และ อีอีซี พร้อมรับทราบแผนงานบริหารจัดการน้ำภาคอีสาน ครอบคลุม 8 พื้นที่ 18 จังหวัด อนุมัติโครงการเร่งด่วน 36 โครงการ 2,400 ล้านบาท ไปดำเนินการในพื้นที่โคราชและใกล้เคียง ประชาชนจะได้รับประโยชน์ 70,000 ไร่ และรับลูกแผนผันน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ส่งผ่านระบบท่อต่อมายังเขื่อนลำตะคอง รองรับการใช้น้ำของชาวโคราช และอำเภอให้เคียงให้เพียงพอ
อนุมัติให้กระทรวงคมนาคม ลงนามสัญญารถไฟไทยจีน ระยะที่ 1 กรุงเทพฯ – โคราช สัญญาที่ 1 คือ ออกแบบรายละเอียดโครงการ มูลค่า 1,700 ล้านบาท ส่วนอีก 2 สัญญา การคุมงานก่อสร้าง และระบบราง ให้สรุปก่อนนายกรัฐมนตรีจะไปประชุม BRIC SUMMIT ที่จีนต้นเดือนหน้า และอนุมัติงบ 3,500 ล้านบาท ฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานจากความเสียหายอุทกภัยภาคเหนือและภาคอีสาน เพื่อซ่อมแซมเส้นทางต่างๆ ที่ได้รับความเสียหาย
รัฐบาลยังเป็นปลื้มจากความสงบทางการเมือง อนุมัติการแสดงเจตจำนงร่วมมือกับ OECD ดำเนินโครงการ Country Programme หลังจากถูกระงับชั่วคราวในช่วงปี 57 เพื่อร่วมกับ OECD จัดทำโครงการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน การปฏิรูปกฎระเบียบ เดินหน้านโยบายไทยแลนด์ 4.0 ในช่วง 3 ปี หวังให้ไทยเข้าสู่เป็นสมาชิกของ OECD ให้หลุดพ้นจากกับดักประเทศรายได้ปานกลาง มุ่งเป็นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว นับว่า ครม.ได้ปิดทริปนี้ไปด้วยความประทับใจ สุขใจทั้งผู้ให้และผู้รับ. – สำนักข่าวไทย