ไฟไหม้โกดังพื้นที่ภาชี คุมเพลิงได้แล้ว 100%

พระนครศรีอยุธยา 3 พ.ค. – เหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมี อ.ภาชี ผู้ว่าฯ อยุธยา ยืนยันคุมเพลิงได้ 100% แล้ว จ่อตรวจสอบชนิดของสารเคมี หาสาเหตุเพลิงไหม้ ด้าน รพ.ภาชี ยังปิดต่อเนื่อง รอให้แน่ใจไฟไม่ปะทุซ้ำ


ภาพล่าสุดบริเวณพื้นที่ไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีในอำเภอภาชี ซึ่งแม้ยังเห็นกลุ่มควันลอยอยู่บ้างในบางจุด แต่นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าฯ พระนครศรีอยุธยา ยืนยันสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย โดยเช้านี้กลุ่มความร้อน 4-5 กลุ่มที่สมาคมตอบโต้ภัยพิบัติได้ใช้โดรนบินตรวจจับความร้อนในโกดังช่วงเวลา 5 ทุ่มครึ่ง ดับสนิททุกจุด หรือเท่ากับว่าสามารถควบคุมเพลิง 100% แล้ว

อย่างไรก็ตาม ยังมีสิ่งที่น่ากังวล คือ พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ บริเวณท้ายลมในรัศมี 4-5 กิโลเมตร เพราะแม้ว่าคุณภาพอากาศจะดีกว่าเมื่อวานนี้ (2 พ.ค.) แต่ชาวบ้านยังได้กลิ่นเหม็นของสารเคมี เนื่องจากยังมีกลุ่มควันลอยอยู่ในอากาศ ประกอบกับกรมควบคุมมลพิษตรวจพบสารคลอรีน สารแอมโมเนีย และไอระเหยที่ต่ำกว่าขีดจำกัดการรับสัมผัสทางการหายใจเฉียบพลัน ในพื้นที่รอบชุมชน ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทำให้ต้องแจ้งเตือนประชาชนให้สังเกตอาการของตัวเอง และให้ทีมแพทย์ช่วยเฝ้าระวัง


นอกจากนี้ กรมควบคุมมลพิษยังพบน้ำปนเปื้อนกรดค่อนข้างสูงไหลนองเต็มพื้นที่หลังโกดัง ซึ่งพื้นที่นี้อยู่ติดชลประทาน เสี่ยงน้ำล้นออกนอกพื้นที่ ทำให้ต้องเร่งประเมินการปนเปื้อน และจัดการอย่างเหมาะสมต่อไป

รพ.ภาชี ยังปิดต่อเนื่อง รอให้แน่ใจไฟไม่ปะทุซ้ำ

ขณะที่โรงพยาบาลภาชี นายแพทย์ปรัชญา พยัคฆ์เรือง ผอ.โรงพยาบาล ระบุว่า ขณะนี้ยังงดให้บริการต่อ เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ใต้ลม และเพื่อให้แน่ใจว่าไฟไม่ปะทุซ้ำ ส่วนโรงพยาบาลสนามวัดโคกม่วง ยังเปิดรักษาผู้ป่วยทั่วไป และคัดกรองอาการสำหรับผู้ป่วยที่ได้รับควันสารเคมี ซึ่งล่าสุดมีประชาชนทยอยมารับบริการมากขึ้นกว่าเมื่อวาน


พฐ.จ่อตรวจสอบสารเคมี หลังโยธายืนยันโครงสร้างแข็งแรง

ส่วนขั้นตอนหลังจากควบคุมเพลิงได้แล้ว ผู้ว่าฯ อยุธยา บอกว่า กรมโรงงานอุตสาหกรรมจะเข้าตรวจสอบชนิดของสารเคมี เพื่อเตรียมกำจัดในวันที่ 1 มิถุนายน รวมถึงต้องเร่งสืบหาสาเหตุเพลิงไหม้ เนื่องจากโกดังดังกล่าวเก็บสารเคมีของกลางที่อยู่ระหว่างดำเนินคดี มีอาคารเก็บสารเคมี 4,000 ตัน จำนวน 5 หลัง โดยอาคาร 4 และ 5 เป็นอาคารที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ แต่เนื่องจากขณะนี้ พฐ. ยังเข้าไปเก็บหลักฐาน เพื่อตรวจหาชนิดสารเคมีไม่ได้ เพราะโกดังที่ถูกเพลิงไหม้เป็นโกดังเก่าและถูกเผาไหม้นาน ต้องรอให้กรมโยธาธิการเข้าตรวจสอบโครงสร้าง ป้องกันการพังถล่มลงมา

ทั้งนี้ ตำรวจย้ำว่า โกดังแห่งนี้เคยเกิดเหตุไฟไหม้มาแล้ว 3 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดวันที่ 29 กุมภาพันธ์ เกิดไฟไหม้ที่อาคาร 1 และ 2 และการตรวจสอบพบเป็นการวางเพลิง โดยใช้ระเบิดเพลิงวางวกระจายทั่วบริเวณอาคาร 1, 2 และ 3 โดยระเบิดมีลักษณะเป็นภาชนะพลาสติก ด้านล่างหล่อปูนซีเมนต์ภายในบรรจุน้ำมัน ดัดแปลงติดประทัดไล่นกไว้กับก้านธูปเพื่อจุดระเบิด ใกล้กันพบขวดแก้วบรรจุอลูมิเนียม พาวเดอร์ ซึ่งไม่เคยพบเห็นในโกดังนี้มาก่อน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว

กะเหรี่ยงโจมตีฐานทหาร

ชาวเมียนมาหนีตายข้ามมาฝั่งไทย หลังทหารกะเหรี่ยงโจมตีฐานทหารเมียนมา

สถานการณ์แนวชายแดนไทย-เมียนมา กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังทหารกะเหรี่ยงจำนวนมากบุกโจมตีฐานทหารเมียนมา ฝั่งตรงข้าม อ.แม่ระมาด จ.ตาก ล่าสุดยังปะทะกันอย่างดุเดือด ทำให้ชาวเมียนมา 233 คน ต้องอพยพหนีตายข้ามแม่น้ำเมยมาฝั่งไทย