กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – สสว.เผยน้ำท่วมกระทบเอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชน 1,326 ราย คาดกระทบรายได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท
นางสาลินี วังตาล ผู้ล ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) เปิดเผยผลสำรวจความเสียหายของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ภาคอีสานจากเหตุการณ์น้ำท่วมว่า เอสเอ็มอีใน 12 จังหวัดได้รับความเสียหายรวม 230,897 ราย เป็นนิติบุคคล 10,398 ราย บุคคลธรรมดา 207,672 ราย และวิสาหกิจชุมชนอีก 12,827 ราย กลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ การขายส่ง การขายปลีก รองลงมาคือ การผลิตและการก่อสร้าง
สำหรับที่สกลนคร สสว.โดยศูนย์บริการ SME ครบวงจร ได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น จังหวัดสกลนคร พัฒนาชุมชน พาณิชย์จังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด หอการค้า สภาอุตสาหกรรม สมาพันธ์ SME ประจำจังหวัด สำรวจผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ได้รับความเสียหายทั้งจากการต้องหยุดกิจการและความเสียหายบางส่วน เช่น โรงงาน เครื่องจักร เครื่องมือ-อุปกรณ์ ไม่สามารถดำเนินการได้ รวมทั้งสูญเสียรายได้หรือมียอดขายลดลง พบว่า มีจำนวนผู้ประกอบการ SME และวิสาหกิจชุมชนได้รับผลกระทบทั้งสิ้น 1,326 ราย จากจำนวนผู้ประกอบการทั้งสิ้น 18,690 ราย ในจังหวัดสกลนคร และประเมินว่า ผลกระทบต่อรายได้ที่อยู่ในเขตน้ำท่วมน่าจะไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท
สสว.มีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ที่ประสบภัยน้ำท่วม ด้วยการให้กู้ยืมเพื่อฟื้นฟูกิจการ สำหรับ Micro SME และวิสาหกิจชุมมชน วงเงินรายละไม่เกิน 200,000 บาท โดยไม่คิดดอกเบี้ยและไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ส่วน SME ขนาดย่อมสามารถยื่นขอกู้ได้รายละไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยไม่เสียดอกเบี้ยเช่นกัน เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนและปรับปรุงสถานประกอบการ
และเพื่อให้ความช่วยเหลือเป็นไปอย่างรวดเร็ว สสว. จะจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่จังหวัดสกลนครเพื่อรับคำขอกู้ ระหว่างวันที่ 15-19 สิงหาคม 2560 โดยจะพิจารณาอนุมัติสินเชื่อเป็นกรณีเร่งด่วน ปัจจุบันผู้ประกอบการในจังหวัดสกลนคร ได้รับอนุมัติเงินกู้แล้ว 21 ราย คิดเป็นวงเงิน 4 ล้านบาท หรือเฉลี่ยรายละ 190,476 บาท ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ประกอบการ SME ในเขตภาคเหนือและภาคอีสานที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ในช่วงเวลาต่าง ๆ กัน นับตั้งแต่ต้นปี 2560 และได้ยื่นขอกู้เงินแล้วรวม 3,898 ราย
สำหรับผู้ประกอบการที่ประสบภัยสามารถยื่นเรื่องขอรับความช่วยเหลือได้ที่ Call Center 1301 หรือศูนย์ OSS หรือศูนย์ Rescue Center ในพื้นที่ได้ไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย.นี้
นางสาลินี ยังเปิดเผย ผลการสำรวจสำมะโนธุรกิจการค้าและอุตสาหกรรม ปี 2560 รวมกับสำนักงานสถิติแห่งชาติ ซึ่งการสำรวจสำมะโน จะดำเนินการทุกๆ 4 ปี และข้อมูลการจัดตั้งธุรกิจจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จนถึงวันที่ 11 ก.ค. 2560 ในเบื้องต้น พบว่า จำนวนวิสาหกิจขนาดกลางกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี)เพิ่มขึ้นเป็น 3,004,679 ล้านราย จากเดิมที่มียอดรวม 2,765,966 ราย เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 8.63 โดยเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยภาคบริการเพิ่มขึ้นมากที่สุด 135,153 ราย ตามด้วยภาคการค้า 80,984 ราย ภาคผลิต 16,517 ราย มีการจ้างงานเฉพาะคนไทยไม่รวมต่างชาติ 11,747,093 ราย เทียบกับปีก่อนที่มียอดทั้งสิ้น 10,751,965 ราย เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 9.30 เป็นการเพิ่มขึ้นทุกกลุ่มธุรกิจเช่นกัน ภาคบริการเพิ่มมากที่สุด 552,532 ราย ภาคการค้า 325,907 รายและภาคการผลิต 113,722 ราย-สำนักข่าวไทย