รัฐบาลเดินหน้าปราบปรามมาเฟีย ยาเสพติด – อาวุธสงคราม

กรุงเทพฯ 6 ส.ค.- โฆษกกระทรวงกลาโหม ย้ำ รัฐบาลเดินหน้าปราบปรามมาเฟีย ยาเสพติด – อาวุธสงคราม อย่างต่อเนื่อง


พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์  โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า หน่วยงานความมั่นคงยังคงร่วมกันเดินหน้าปราบปรามผู้มีอิทธิพลตามนโยบายรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและอาวุธสงคราม ซึ่งบ่อนทำลายทั้งเสถียรภาพของสังคมและความมั่นคงของชาติ  โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานปราบปรามยาเสพติด ทำงานหนักร่วมกันให้มากขึ้น ทั้งการสืบทราบ ขยายผล ติดตามและจับกุม ผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและอาวุธสงครามรายใหญ่ ซึ่งมีเครือข่ายเชื่อมโยงกับการฟอกเงินในธุรกิจบังหน้ารูปแบบต่าง ๆ  ทั้งในและต่างประเทศ

โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า การดำเนินงานที่ผ่านมา ระหว่าง 1 ต.ค.59 – 15 ก.ค.60 เจ้าหน้าที่ความมั่นคงทุกฝ่ายได้ร่วมกันติดตามจับกุมผู้มีอิทธิพลรายสำคัญและยึดยาเสพติดจำนวนมาก มียอดสะสม ประกอบด้วย ยาบ้า 156 ล้านเม็ด เฮโรอีน 360 กิโลกรัม ยาไอซ์ 3,900 กิโลกรัม กัญชาแห้ง 8,700 กิโลกรัม โคเคน 5 กิโลกรัม ยาแก้ไอ 185,000 ขวด และใบพืช กระท่อม 13,500 กิโลกรัม นอกจากนั้น ยังขยายผลจับกุมผู้เกี่ยวข้องกับขบวนการจำนวนมาก และอายัดทรัพย์สินได้ คิดเป็นมูลค่ามหาศาล ซึ่งปรากฏเป็นผู้ต้องหาทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ นอกจากนั้นยังกวาดล้างจับกุมอาวุธสงคราม อาวุธปืน กระสุนและวัตถุระเบิดได้จำนวนมาก มีผู้เกี่ยวข้องกว่า 30,000 คน  ตามที่ปรากฏเป็นข่าวอย่างต่อเนื่องที่ผ่านมา 


พล.ต.คงชีพ กล่าวว่า กลุ่มขบวนการผู้มีอิทธิพลด้านยาเสพติดและอาวุธสงคราม เป็นเป้าหมายหลักที่รัฐบาลโดยหน่วยงานความมั่นคงให้ความสำคัญและกำลังจับตาเครือข่ายและผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง  ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นมากขึ้น เพื่อสร้างสวัสดิภาพและเปิดพื้นที่ปลอดภัยให้กับสังคม รวมทั้งให้ประชาชนได้มีเสรีภาพภายใต้กรอบกฎหมายที่ปราศจากการคุกคามจากผู้มีอิทธิพล  ขณะเดียวกันก็ไม่ยอมให้กลุ่มคนที่เอาเปรียบและทำลายสังคม สามารถฟอกตัวอยู่เหนือกฎหมายได้ 

“ขอเตือนผู้เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดและอาวุธสงคราม หยุดและถอยห่างออกมา ก่อนที่จะถูกดำเนินการตามมาตรการทางกฎหมาย   และขอขอบคุณประชาชนที่เชื่อมั่นการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐมากขึ้น  ร่วมกันให้ข้อมูลเบาะแสพฤติกรรมผู้มีอิทธิพลในพื้นที่และเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง เป็นผลให้เจ้าหน้าที่รัฐสามารถควบคุมและดำเนินการทางกฎหมายกับกลุ่มอิทธิพลดังกล่าวได้อย่างต่อเนื่องโดยตลอดมา” โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว

กะเหรี่ยงโจมตีฐานทหาร

ชาวเมียนมาหนีตายข้ามมาฝั่งไทย หลังทหารกะเหรี่ยงโจมตีฐานทหารเมียนมา

สถานการณ์แนวชายแดนไทย-เมียนมา กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังทหารกะเหรี่ยงจำนวนมากบุกโจมตีฐานทหารเมียนมา ฝั่งตรงข้าม อ.แม่ระมาด จ.ตาก ล่าสุดยังปะทะกันอย่างดุเดือด ทำให้ชาวเมียนมา 233 คน ต้องอพยพหนีตายข้ามแม่น้ำเมยมาฝั่งไทย