สกลนคร 28 ก.ค.-สกลนครฝนตกหนักทั้งคืน ประกาศเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ส่วนน้ำป่าที่ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เริ่มลดลงแล้ว ขณะที่ขอนแก่น กำแพงกั้นน้ำโรงเรียนการศึกษาคนตาบอดพัง น้ำทะลักไหลเข้าท่วมสูงกว่า 1 เมตร ครูต้องเคลื่อนย้ายนักเรียนไปอาศัยอยู่ชั้น 2
อิทธิพลของพายุเซินกา ที่พาดผ่านประเทศไทย ส่งผลกระทบต่อภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะ จ.สกลนคร ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากมีฝนตกติดต่อกันนาน 2 วัน ทำให้ปริมาณน้ำตามอ่างเก็บน้ำต่างๆ เพิ่มระดับอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ หนองสนม แหล่งรับน้ำกลางใจเมืองสกลนคร มีปริมาณเกินความจุ เจ้าหน้าที่เร่งนำเครื่องสูบน้ำขนาด 14 นิ้ว นำมาติดตั้งเพิ่มเป็น 4 เครื่อง เพื่อระบายน้ำอย่างเต็มกำลังลงสู่หนองหาร แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะป้องกันน้ำท่วมได้หรือไม่ เพราะระดับน้ำหนองหารมีมีปริมาณน้ำเกินความจุแล้วที่ 266 ล้านลูกบาศก์เมตร และมีแนวโน้มจะไหลย้อนกลับเข้าเอ่อท่วมเขตเทศบาลสกลนครได้ หากฝนยังไม่หยุดตก จึงมีการประกาศเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และประกาศเตือนให้ประชาชนอพยพขึ้นสู่ที่สูง
ส่วนที่บริเวณศูนย์พักพิงช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ผู้ประสบภัยกว่า 50 คน ได้เข้ามาพักอาศัยชั่วคราว โดยได้นำสัตว์เลี้ยง ตลอดจนสิ่งของต่างๆ มารวบรวมไว้ที่บริเวณศูนย์ด้วย โดยมีเจ้าหน้าที่จัดเวรยามดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ขณะที่บริเวณชุมชนโรงฆ่าสัตว์ และบริเวณบ้านห้วยพอก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ติดกับลำห้วยขะยุง เจ้าหน้าที่จากเทศบาลเมืองกันทรลักษ์ได้จัดเรือท้องแบนไว้คอยอำนวยความสะดวก รวมถึงออกตรวจร่วมกับทหารและฝ่ายปกครองบริเวณบ้านเรือนของประชาชนที่ถูกน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยดูแลรักษาและป้องกันทรัพย์สินของผู้ประสบภัย สำหรับสถานการณ์ล่าสุด ระดับน้ำเริ่มลดระดับลงแล้ว ซึ่งก็ต้องคอยติดตามปริมาณฝนที่ตกจากเทือกเขาพนมดงรักอย่างใกล้ชิด
ส่วนที่ จ.ขอนแก่น ครูและเจ้าหน้าที่ช่วยกันเคลื่อนย้ายนักเรียนการศึกษาคนตาบอดขอนแก่น 100 กว่าคน ไปพักอาศัยอยู่บนอาคารเรียนชั้น 2 หลังกำแพงกั้นน้ำพังทลาย ทำให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมบริเวณภายโรงเรียนอย่างรวดเร็ว ไม่ถึงชั่วโมงน้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร อุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงาน สื่อการเรียนการสอนเครื่องใช้ไฟฟ้าที่อยู่บริเวณชั้น 1 ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด โชคยังดีที่น้ำไม่ท่วมอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ชั้น 1 ของอาคารห้องเก็บของ ที่เพิ่งได้รับการจัดสรรงบประมาณจัดซื้อมาในราคากว่า 10 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังขนย้ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั้งหมดไปอยู่บนที่สูง เพื่อป้องกันความเสียหาย แต่การเคลื่อนย้ายเป็นไปอย่างลำบาก เพราะมีกำลังเจ้าหน้าที่มีน้อย อย่างไรก็ตาม ยังคงเฝ้าระวังระดับน้ำ ที่อาจจะเพิ่มสูงขึ้นหากมีฝนตกลงมาอีก
ขณะที่เช้าวันนี้ โรงเรียนจะประสานผู้ปกครองมารับบุตรหลานกลับไปพักอาศัยที่บ้านชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ด้าน พ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ มณฑลทหารบกที่ 23 ได้นำกำลังทหารกว่า 20 นาย รวมถึงจิตอาสาอีกกว่า 30 คน ได้นำเรือท้องแบนจำนวน 3 ลำ ไปช่วยครูและเจ้าหน้าที่โรงเรียนคนตาบอดขนย้ายอุปกรณ์และสิ่งของไปอยู่บนที่สูง พร้อมทั้งดูแลและอำนวยความสะดวกกับประชาชนที่สัญจรเข้าออกภายในหมู่บ้านบริเวณที่ถูกน้ำท่วมด้วย.-สำนักข่าวไทย