ทำเนียบรัฐบาล 24 ก.ค.-ที่ประชุมป.ย.ป.ชุดใหญ่ เห็นชอบร่างสัญญาประชาคมสร้างปรองดอง เตรียมประกาศร่าง 28 ก.ค.นี้ ขณะที่ป.ย.ป.ยังทำหน้าที่ขับเคลื่อนงานทั้ง 4 ด้านถึงก.ย.61
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ว่าเป็นการประชุมร่วมกันครั้งที่ 2 ของป.ย.ป.ชุดใหญ่ ซึ่งคณะกรรมการเตรียมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการเตรียมการปฎิรูปประเทศจะทำงานอีกประมาณ 10-14 เดือนหรือสิ้นสุดเดือนสิงหาคม 2561 และได้วางกรอบการทำงานด้านต่าง ๆ ไว้หมดแล้ว ทั้งเรื่องยุทธศาสตร์ชาติและการปฎิรูปประเทศ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกเรื่องเกี่ยวข้องกับกฎหมายที่ต้องปรับปรุงให้มีความทันสมัย เพิ่มเติมกฎหมายที่จำเป็น ให้ประชาชนมีส่วนร่วม ด้วยการสร้างการรับรู้ และเกิดการเรียนรู้กฎหมาย เพื่อให้เกิดการบังคับใช้โดยได้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนอย่างบูรณาการทำให้เกิดการทำงานร่วมกัน ทั้งในส่วนของการวางแผนพัฒนาคน แผนพัฒนางบประมาณ และแผนพัฒนาโครงการ เพื่อให้มีประสิทธิภาพ เช่นการบริหารจัดการน้ำ การพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐาน
“ตลอด 3 ปีที่ผ่านมารัฐบาลเดินหน้าโครงการจำนวนมาก แต่ยังไม่ครอบคลุมในบางพื้นที่ ทั้งการพัฒนาระยะสั้นและระยะยาว รวมถึงการจัดระเบียบพื้นที่ให้สอดคล้องกับการประกอบอาชีพค้าขายของประชาชน ซึ่งการลงพื้นที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) สัญจร หรือติดตามงานของรัฐบาลนับจากนี้ จะเป็นการรับฟังความต้องการของประชาชนในทุกพื้นที่ ไม่เลือกปฎิบัติในพื้นที่ใดเป็นพิเศษ ส่วนในอนาคตประชาชนจะเลือกรัฐบาลใดเข้ามาแล้วแต่การตัดสินใจ ซึ่งที่ผ่านมาประเทศเสียเวลากับเรื่องของความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจ และการที่คนไม่เคารพกฎหมาย ต่อต้านทุกอย่าง” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ด้านนายสุวิทย์ เมษิณทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการ ป.ย.ป กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบร่างสัญญาประชาคม ภายหลังผ่านเวทีรับฟังความคิดเห็น 4 ภาคแล้ว โดยในวันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคมนี้กระทรวงกลาโหมจะประกาศร่างสัญญาดังกล่าว และเตรียมไปสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนผ่านกลไกกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหมและกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.)
“นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำให้นำไปขับเคลื่อนแผนงานได้ทันที และปลดล็อคกฎหมายทุกอย่าง ส่วนกรอบเวลาจะสร้างความเข้าใจกับประชาชนยังไม่ได้กำหนด รายละเอียดต้องถามจากปลัดกระทรวงกลาโหมที่รับผิดชอบโดยตรง โดยร่างดังกล่าวมี 10 ข้อเดิม รวมกับข้อสังเกตที่นายกรัฐมนตรีเพิ่มเข้าไปอีก 15 ข้อเพื่อให้การทำงานเป็นรูปธรรม นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีย้ำว่าการปฎิรูปสามารถเริ่มได้ทันทีหากเรื่องใดผลักดันได้ เช่น การปฎิรูปตำรวจ เป็นต้น” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
นายสุวิทย์ กล่าวว่า ส่วนการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติทั้ง 6 มิติ จะต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาทั้ง 6 ภูมิภาคลงไปสู่ระดับกลุ่มจังหวัด นอกจากนี้ยังต้องเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์กระทรวงและการปฎิรูปทั้ง 11 ด้าน ส่วนกรอบการทำงานของป.ย.ป.ชุดใหญ่ หลังจากที่พ.ร.บ.ว่าด้วยยุทธศาสตร์ชาติและการปฎิรูปมีผลในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ จึงมีขั้นตอนของการเตรียมการตั้งคณะกรรมการปฎิรูป 11 ด้าน และมีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ อีก 1 คณะ ซึ่งระหว่างเดือนกันยายน 2560 ถึง เมษายน 2561 คณะกรรมการทั้ง 2 คณะ จะต้องไปจัดทำแผนปฎิรูประเทศให้แล้วเสร็จเดือนพฤษภาคม 2561 ก่อนประกาศยุทธศาสตร์ชาติประมาณเดือนกันยายน 2561
“ป.ย.ป. ยังจำเป็นจะต้องทำหน้าที่ขับเคลื่อน ทั้งงานการปฎิรูป ยุทธศาสตร์ชาติ และการขับเคลื่อนการสร้างความปรองดองต่อไป จนกว่าจะมีแผนการปฎิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติหรือขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีจะเปลี่ยนแปลง” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย