กรุงเทพฯ 21 พ.ย. – นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือวอนนายกรัฐมนตรีสั่งการกรมศุลกากรให้ตรวจตู้สินค้านำเข้าอย่างเข้มงวด ป้องกัน “หมูเถื่อน” ลอตใหม่ เนื่องจากเป็นด่านแรกที่สินค้าจากต่างประเทศจะเข้าสู่ราชอาณาจักร ย้ำสิ่งที่ต้องทำควบคู่ไปกับการปราบปรามคือ การรักษาเสถียรภาพราคาและการฟื้นฟูผู้เลี้ยงสุกรรายเล็กรายย่อยที่ต้องหยุดเลี้ยงเพราะขาดทุนจากที่ “หมูเถื่อน” แทรกแซงกลไกตลาด
นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือกล่าวว่า ขอบคุณนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่ให้ความสำคัญกับการปราบปราม “หมูเถื่อน” หากดำเนินการอย่างต่อเนื่องและจริงจัง มั่นใจว่า จะจับขบวนการลักลอบนำเข้าและค้า “หมูเถื่อน” ได้ โดยเฉพาะรายใหญ่ที่จะต้องสาวไปให้ถึงเพื่อหยุดยั้งการกระทำผิด พร้อมตรวจสอบเส้นทางการเงินเพื่อยึดทรัพย์ตามกฎหมาย
ทั้งนี้ขอให้นายเศรษฐาซึ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กำกับดูแลกรมศุลกากร ต้องสั่งการให้กรมศุลกากรเข้มงวดในการตรวจสอบสินค้านำเข้า ไม่ให้ปล่อยปละละเลยเหมือนที่ผ่านมา จนทำให้ “หมูเถื่อน” ทะลักเข้ามาในประเทศไทย ด้วยการสำแดงเท็จเป็นสินค้าสัตว์น้ำและพอลิเมอร์ แล้วผ่านช่อง GREEN LINE ที่ยกเว้นการตรวจ
ทั้งนี้ด่านศุลกากรทุกแห่งมีเครื่องเอกซเรย์ที่สามารถตรวจเบื้องต้นได้ทุกตู้อยู่แล้ว ตู้ที่ต้องสงสัยต้องเปิดตรวจ ส่วนสินค้าที่มักมีการสำแดงเท็จ ต้องให้ผ่านช่อง Red Line ที่ต้องเปิดตรวจ 100%
นายสิทธิพันธ์กล่าวว่า การกวาดล้าง “หมูเถื่อน” อย่างจริงจังของรัฐบาล ส่งผลให้เกษตรกรผู้เลี้ยง โดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อย เริ่มมีกำลังใจในการที่จะเดินหน้าเลี้ยงต่อเนื่อง แต่ขอให้ช่วยดำเนินมาตรการรักษาเสถียรภาพราคา ลดต้นทุนด้านวัตถุดิบอาหารสัตว์ รวมถึงเพิ่มโอกาสให้ผู้เลี้ยงเข้าถึงแหล่งทุนเพื่อฟื้นฟูอาชีพ จากที่ก่อนหน้านี้ต้องแบกภาระขาดทุนสะสมนานหลายเดือน โดยผู้เลี้ยงส่วนหนึ่งต้องหยุดเลี้ยงไป
ล่าสุดมีรายงานว่า ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ลงนามแต่งตั้งชุดเฉพาะกิจปราบปรามสินค้าเกษตรผิดกฎหมายที่ขึ้นตรงต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยตรง ชื่อชุด “พญานาคราช” ทำหน้าที่ปราบปรามสินค้าเกษตรเถื่อนทั้งด้านพืช ปศุสัตว์ และประมง โดยจะมีการประชุมเพื่อมอบนโยบายและเน้นย้ำภารกิจในช่วงบ่ายวันนี้.-สำนักข่าวไทย
