กรุงเทพฯ 30 มิ.ย.-ตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ข้อเท็จจริงและข้อน่าสังเกตในสภาพการซื้อขายหลักทรัพย์ TPL และขอให้ผู้ลงทุนพิจารณาข้อมูลอย่างรอบคอบก่อนเข้าซื้อขาย
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ข้อเท็จจริงและข้อน่าสังเกตในสภาพการซื้อขายหลักทรัพย์ บริษัท ไทยพาร์เซิล จำกัด (มหาชน) (TPL) และขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อขาย เนื่องจากพบว่าสภาพการซื้อขาย
ภาคเช้าของวันนี้ (30 มิ.ย. 66) มีข้อน่าสังเกตหลายประการและมีแรงเก็งกำไรสูง ดังนี้
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงขอให้ผู้ลงทุนพิจารณาข้อมูลอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อขาย และขอให้บริษัทสมาชิกทุกรายกำกับดูแลการซื้อขายและการดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์ TPL อย่างใกล้ชิดและเคร่งครัด เพื่อป้องกันการส่งคำสั่งซื้อขายที่อาจไม่เหมาะสม หรือไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า TPL เข้าซื้อขายตลาด mai วันแรก พุ่งทะยาน 109.09% ปิดตลาดภาคเช้า ราคา 6.90 บาท โดยราคาเปิดซื้อขายที่ 5.90 บาท เพิ่มขึ้น 2.60 บาท คิดเป็น 78.79% เปรียบเทียบจากราคาไอพีโอที่ 3.30 บาทต่อหุ้น และเมื่อเวลา 15.07 น. เคลื่อนไหวที่ 6.00 บาท โดยพบว่ามีนักลงทุนรายใหญ่ และสายวีไอ เข้าเก็บหุ้น TPL เป็นจำนวนมาก
นายภัทรลาภ ทวีวงศ์ ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TPL เปิดเผยว่า ราคาหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นและมีมูลค่าการซื้อขายคึกคักอย่างมาก สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ โดยเป็นบริษัทชั้นนำในธุรกิจโลจิสติกส์ของประเทศไทย ปัจจุบันบริษัทให้บริการจัดส่งสินค้าและสิ่งของประมาณ 3.5-6 แสนชิ้นต่อเดือน มีจุดให้บริการกว่า 120 แห่งทั่วประเทศ และยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากสอดคล้องกับทิศทางของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของไทย พร้อมเดินหน้าลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในการให้บริการอย่างต่อเนื่อง ทั้งการลงทุนในศูนย์คัดแยกและกระจายสินค้าระดับภูมิภาค (Regional Hub) ที่จังหวัดนครสวรรค์ นครราชสีมา สุราษฎร์ธานี และการลงทุนในศูนย์กระจายสินค้า (Distribution Center) ในเขตกรุงเทพมหานคร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการคัดแยกและกระจายสินค้า
โดยตั้งเป้าหมายจะสามารถเพิ่มศักยภาพการจัดส่งสินค้าเต็มความสามารถอยู่ระดับ 1 ล้านชิ้นต่อเดือนภายใน 3 ปี และลงทุนรถขนส่ง EV ทั้ง 6 ล้อและ 4 ล้อ รวมถึงการสร้างสถานีชาร์จ เพื่อใช้ในการขนส่งสินค้าในพื้นที่กรุงเทพมหานครและภาคกลาง ที่คาดว่าจะสามารถลดต้นทุนพลังงานเชื้อเพลิงได้กว่า 50% ช่วยสนับสนุนให้รายได้และกำไรเพิ่มขึ้น ซึ่งปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 15-20% .-สำนักข่าวไทย