รัฐสภา 23 พ.ค.-วุฒิสภาเห็นชอบ ‘ศิลักษณ์’ ฉลุยนั่งกรรมการ สตง. หลังถกลับเคลียร์ปม ‘ติดหล่ม’ คุณสมบัติกรรมการสรรหาสเปคสูงเกิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมวุฒิสภา(ส.ว.) ที่มีนายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา คนที่2 ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) โดยพล.อ.อู๊ด เบื้องบน ส.ว. ในฐานะคณะกรรมาธิการสามัญ (กมธ.) เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรม ของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการสตง. ชี้แจงผลการตรวจสอบความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของน.ส.ศิลักษณ์ ปั้นน่วม ผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการสตง. โดยมีกำหนดระยะเวลาดำเนินการ60วัน นับตั้งแต่ตั้งกมธ.ขึ้นมาในการประชุมวุฒิสภา เมื่อวันที่23ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งกมธ.พิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติแล้วเสร็จ และจัดทำสรุปผลรายงานแบบลับ
พล.อ.อู๊ด กล่าวต่อว่า กมธ.มีข้อสังเกตเกี่ยวกับกระบวนการการได้มา และการปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงใช้อำนาจของกมธ.สรรหากรรมการสตง. ตามมาตรา15 ของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2561 1.กรณีที่องค์กรอิสระไม่สามารถดำเนินการเสนอชื่อบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการสรรหากรรมการสตง. ภายใน20วันนับตั้งแต่งวันที่ได้รับแจ้งจากเลขาธิการวุฒิสภา 2.กรณีการปฏิบัติหน้าที่และใช้อำนาจของกรรมการสรรหากรรมการสตง. ในกรณีที่กรรมการสรรหามีไม่ครบ หรือพ้นกำหนดระยะเวลาการคัดเลือกแล้ว และไม่ได้มีการเสนอชื่อบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการสรรหากรรมการสตง.
จากนั้นกมธ.ได้ขอให้มีการชี้แจงสรุปผลการดำเนินงานเป็นรายงานลับตามที่กำหนดในข้อบังคับการประชุม และขอให้มีการประชุมลับก่อนเสนอรายงาน
ทำให้พล.อ.ต.เฉลิมชัย เครืองาม ส.ว. ทักท้วงขอให้ช่วยขยายความกรณีที่กมธ.ระบุว่า อาจจะส่งผลให้การสรรหาบุคคลที่สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการสตง.ไม่ชอบด้วยกฎหมายได้ ว่าหมายความว่าอย่าง เพราะกรรมการสรรหากรรมการสตง.ไม่ครบตามที่กฎหมายกำหนดเป็นสิ่งที่เรากังวลมาโดยตลอด และเป็นที่ปรากฎชัดเจนว่ามีองค์กรอิสระองค์กรหนึ่งที่มีหน้าที่ต้องส่งบุคคลเข้ามาเป็นกรรมการสรรหา แต่ปรากฎในเอกสารที่กรรมการสรรหาฝ่ายเลขาใช้คำว่ามีมติไม่ส่งบุคคลเข้ามาร่วมเป็นกรรมการสรรหา แต่ขณะที่องค์กรหนึ่งใช้คำว่าพิจารณาแล้ว ไม่อาจหาบุคคลเข้ามาเป็นกรรมการสรรหาได้ 2กรณีนี้จึงแตกต่างกัน
พล.อ.อู๊ด จึงลุกขึ้นชี้แจงว่า เราได้สอบถามไปยังคณะกรรมการสรรหา ได้รับคำตอบว่าหาคนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนมาเป็นกรรมการสรรหาไม่ได้ และไม่รู้จะทำอย่างไร เนื่องจากเวลามีจำกัดเพียง20วัน เป็นเพราะการตั้งคุณวุฒิของกรรมการสรรหาสูงเกินไป
หลังจากประชุมลับเป็นเวลาประมาณ40นาที นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานที่ประชุมต่อ ได้แจ้งผลการออกเสียงลงคะแนนลับ ปรากฎว่า น.ส.ศิลักษณ์ ได้รับความเห็นชอบด้วยคะแนนเสียง 182 คะแนน ไม่เห็นชอบ1คะแนน งดออกเสียง4 ถือว่าได้รับความเห็นชอบด้วยคะแนนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมด จึงเป็นผู้ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งกรรมการสตง. จากนั้นนายพรเพชร ได้แจ้งอ่านพระบรมราชโองการประกาศพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา พ.ศ.2566 ต่อสมาชิก และได้ปิดประชุมในเวลา14.00น.สำนักข่าวไทย