วอชิงตัน 5 มิ.ย.- ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียปฏิเสธเรื่องรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐปีก่อนและเรื่องสายสัมพันธ์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ รวมถึงเรื่องที่บุตรเขยทรัมป์เสนอเปิดสายด่วนก่อนทรัมป์รับตำแหน่ง
ประธานาธิบดีปูตินให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีของสหรัฐที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กและมีการออกอากาศเมื่อวันอาทิตย์ ปฏิเสธน้ำเสียงราบเรียบกรณีที่หน่วยข่าวกรองสหรัฐสรุปว่ารัสเซียใช้การเจาะระบบและวิธีอื่น ๆ แทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐเพื่อช่วยให้ทรัมป์ชนะเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายนปีก่อนว่า อาจเป็นแฮกเกอร์ที่ไม่ใช่ชาวรัสเซียซึ่งอยู่ที่ใดก็ได้ ส่วนเรื่องที่นายเซอร์เก คิสลาก เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหรัฐได้ติดต่อกับคณะหาเสียงทรัมป์ก่อนการเลือกตั้ง ขอบอกตามตรงว่าเอกอัครราชทูตรัสเซียทั่วโลกไม่ได้รายงานเขาทุกเรื่องว่าแต่ละวันได้พบใครบ้าง เช่นเดียวกับเรื่องที่หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ของสหรัฐรายงานว่า นายเจเรด คุชเนอร์ บุตรเขยทรัมป์เสนอเปิดสายด่วนระหว่างพบกับนายคิสลากที่ทรัมป์ทาวเวอร์เมื่อเดือนธันวาคม หากมีข้อเสนอแบบนั้นและน่าสนใจ รัฐมนตรีต่างประเทศก็คงรายงานเขาไปแล้ว แต่ไม่มีเรื่องอะไรเช่นนั้น เขาเองรู้สึกทึ่งที่สื่ออเมริกันสร้างเรื่องตื่นเต้นได้จากเรื่องที่ไม่มีอะไรเลยแล้วก็ใช้เป็นอาวุธทำร้ายประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ชีวิตชาวอเมริกันคงน่าเบื่อมาก
ผู้นำรัสเซียกล่าวถึงความสัมพันธ์กับ พล.ท.ไมเคิล ฟลินน์ ที่ถูกประธานาธิบดีทรัมป์ปลดจากตำแหน่งที่ปรึกษาแห่งชาติเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่า ภาพการนั่งร่วมโต๊ะมื้อค่ำด้วยกันที่กรุงมอสโกเมื่อปี 2558 เป็นเรื่องปกติ เขาไปกล่าวสุนทรพจน์ในงานนั้น ทักทายผู้ร่วมโต๊ะแล้วก็ออกจากงาน หลังจากนั้นถึงได้รับรายงานเรื่องชายอเมริกันคนหนึ่งพัวพันกับเรื่องบางอย่างและเคยทำงานในหน่วยข่าวกรอง เขาไม่ได้คุยกับ พล.ท.ฟลินน์อย่างจริงจังเสียด้วยซ้ำ.-สำนักข่าวไทย
