ทำเนียบ วันนี้ ( 24 มี.ค.) นายกฯ มอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นปี 2565 ชื่นชมความมุ่งมั่นของทุกหน่วยงาน ขอให้พัฒนาให้ดียิ่งขึ้น เกิดภาพลักษณ์ที่ดีสู่สายตาประชาชน ย้ำไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวการทำงาน ดูแลเชิงบริหาร รู้ข้อมูลและตรวจสอบตลอดเวลา
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล รัฐวิสาหกิจดีเด่นปี 2565 “เก้าสู่ยุควิถีใหม่ด้วยพลังรัฐวิสาหกิจไทยอย่างยั่งยืน” ที่ตึกสันติไมตรีหลังนอก ทำเนียบรัฐบาล โดยปีนี้มีการมอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจำปี 2565 ทั้งสิ้น 11 ประเภทรางวัล อาทิ รางวัลคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจดีเด่น รางวัลบริหารจัดการองค์กรดีเด่น รางวัลการพัฒนาองค์กรดีเด่น และรางวัลผู้นำองค์กรดีเด่น
นายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชมกับรัฐวิสาหกิจที่ได้รับรางวัล แล้วขอบคุณในความร่วมมือต่างๆในการพัฒนาด้านรัฐวิสาหกิจของเราให้มีประสิทธิภาพและคุณภาพ ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการทำงาน อย่างเต็มกำลังตลอดเวลาที่ผ่านมา วันนี้ถือเป็นเครื่องยืนยันความสำเร็จในการมุ่งมั่นบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพและพัฒนาองค์กรสู่ความเป็นเลิศ รวมถึงให้ความสำคัญกับการยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการอย่างต่อเนื่อง จนเป็นที่ประจักษ์ และหวังว่าทุกคนจะรักษามาตรฐานและทำให้ดียิ่งขึ้นต่อไปอีกของการบริการของรัฐวิสาหกิจไทย เพื่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีของภาครัฐสู่สายตาของประชาชนและต่างประเทศ รวมถึงเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่หน่วยงานอื่นๆต่อไป
นายกรัฐมนตรี ยืนยันให้ความสำคัญกับรัฐวิสาหกิจมาโดยตลอด ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ได้มีการพัฒนาหลายอย่างด้วยกัน เดินหน้าไปสู่เศรษฐกิจ BCG ซึ่งปัจจุบันโลกใบเดิม แต่ทุกอย่างความสลับซับซ้อน และมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงไป ในเรื่องการใช้เทคโนโลยี รวมถึงมีสถานการณ์ต่างๆมีความผันผวน โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจ มีความขัดแย้งทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ วันนี้สิ่งที่จะต้องร่วมมือกันว่าทำอย่างไรให้ประเทศของเราปลอดภัย มีแผนรับมือในการแก้ปัญหา และเตรียมที่จะแก้ปัญหาเหล่านั้นให้บรรเทาลงหรือหมดสิ้นไปโดยเร็วที่สุด ซึ่งต้องมีความพร้อม ต้องศึกษาข้อมูลและแนวทางของโลกในปัจจุบันว่าเกิดอะไรขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐวิสาหกิจถือเป็นหน่วยงานที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประเทศไทยในการพัฒนา เพราะให้บริการประชาชน รวมถึงมีรายได้ให้กับรัฐด้วย ซึ่งจะต้องสร้างความเชื่อมั่นและไว้วางใจให้กับประชาชน และร่วมกันแก้ปัญหาให้มากที่สุด
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอบคุณทุกคนที่มีความตั้งใจจริง จึงไม่อยากให้มีอะไรมากดดัน ซึ่งเห็นได้ว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตนไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่จะกำกับดูแลในเชิงบริหาร ผ่านคณะทำงานคณะกรรมการ ซึ่งเป็นแนวทางการทำงานของตน แต่ก็รู้ทุกเรื่องเพราะ มีข้อมูลและมีการรายงาน การตรวจสอบตลอดเวลา ทั้งนี้ หลายรัฐวิสาหกิจอาจจะไม่มีกำไรและขาดทุน แต่เป็นสิ่งที่ต้องพัฒนาต่อไป ขอให้ทุกคนตั้งใจทำงานเพื่อประเทศชาติต่อไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะต้องเตรียมพร้อมในทุกมิติ และต้องมีร่วมมือกันทำให้ประเทศไทยผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤตินี้ไปให้ได้โดยเร็วที่สุด รวมไปถึงอนาคต .-สำนักข่าวไทย