กองทัพบก 8 พ.ค.-คสช.ระบุตลอด 3 ปี ได้ดูแลให้ประเทศสงบเรียบร้อย มีพัฒนาการทุกมิติ เตรียมเผยแพร่ผลงานให้ประชาชนทราบสิ้นเดือนนี้ พร้อมเดินหน้างานจัดระเบียบและช่วยเหลือประชาชนรับมือวาตภัย
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เปิดเผยว่า พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ รองเลขาธิการคสช.เป็นประธานประชุมสำนักเลขาธิการคสช. โดยกล่าวว่า คสช.เข้ามาดูแลการบริหารราชการแผ่นดินแก้ไขปัญหาและขับเคลื่อนประเทศทุกด้านมาจะครบ 3 ปีในเดือนนี้ ซึ่งที่ผ่านมาได้ดูแลให้ประเทศเกิดความสงบเรียบร้อย มีพัฒนาการทุกมิติ ขณะนี้คสช.อยู่ระหว่างเตรียมนำข้อมูลผลการปฏิบัติงานและความคืบหน้า รวมทั้งสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยในอนาคตมาเผยแพร่ให้ประชาชนได้รับทราบในปลายเดือนนี้
“รองเลขาธิการคสช.กำชับให้เร่งรัดการจัดระเบียบพื้นที่สาธารณะ โดยเฉพาะพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่ถูกบุกรุก โดยให้ใช้แนวทางการสร้างความเข้าใจและการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ในลักษณะเช่นเดียวกันกับการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งถือว่าเป็นต้นแบบการบริหารจัดการที่ดินที่ถูกบุกรุกได้เรียบร้อย เป็นไปตามกฎหมาย และชุมชนสามารถใช้ประโยชน์จากที่ดินได้อย่างเหมาะสม โดยให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย(กกล.รส.) ในพื้นที่ที่มีการบุกรุกป่าหรือที่สาธารณะประสานการปฏิบัติกับส่วนราชการต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด” รองโฆษกคสช. กล่าว
รองโฆษกคสช. กล่าวว่า สำหรับการจัดระเบียบพื้นที่อื่น ๆ ที่เป็นสถานที่สำคัญ อาทิ การช่วยพัฒนาชุมชนป้อมมหากาฬ รวมทั้งการพัฒนาพื้นที่ริมคลองลาดพร้าว และวัดมงคลบพิตร จ.พระนครศรีอยุธยา รองเลขาธิการคสช.กำชับให้กกล.รส.กองทัพภาคที่ 1 เร่งรัดประสานการทำงานร่วมกับส่วนงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เป็นไปตามแผนงานและนโยบายที่ภาครัฐกำหนด โดยขณะนี้การพัฒนาชุมชนป้อมมหากาฬอยู่ระหว่างการจัดทำสวนสาธารณะขนาดเล็กในพื้นที่ที่รื้อถอนบ้านออกไปแล้ว และการพิจารณาอนุรักษ์บ้านบางส่วนที่มีคุณค่าไว้ รวมทั้ง กทม. มีแผนจะซ่อมแซมหลังคาของป้อมมหากาฬบางส่วนที่ชำรุด สำหรับโครงการพัฒนาริมคลองลาดพร้าวปัจจุบันอยู่ระหว่างการรื้อย้ายบ้านเรือนและตอกเสาเข็มฐานรากของเขื่อนคลองลาดพร้าว ซึ่งดำเนินการเสร็จแล้วร้อยละ 15 ควบคู่ไปกับการสร้างที่พักอาศัยให้กับชุมชนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งสร้างบ้านเสร็จแล้ว 726 หลังคาเรือน
รองโฆษกคสช. กล่าวว่า สำหรับการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบวาตภัย ในห้วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา กกล.รส.ได้เข้าดูแลผู้ประสบวาตภัยใน 35 จังหวัด ทั้งนี้ รองเลขาธิการคสช.มีความห่วงใยในภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงนี้ โดยเฉพาะพายุฤดูร้อน จึงกำชับให้กกล.รส.เตรียมการและดำรงการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนการสนับสนุนการแก้ปัญหาผักตบชวา รองเลขาธิการคสช.ย้ำให้กกล.รส.ร่วมกับทุกภาคส่วนดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดกิจกรรมกำจัดผักตบชวาและการสร้างการมีส่วนร่วมดูแลแหล่งน้ำของชุมชน
“สัปดาห์ที่ผ่านมากกล.รส.ร่วมกับทุกภาคส่วนกำจัดผักตบชวาใน 14 จังหวัด รวม 96,724 ลูกบาศก์เมตร และจัดตั้ง “ชุมชนริมน้ำ รักษ์น้ำ อาสากำจัดผักตบชวา” ในพื้นที่ภาคกลางไปแล้ว 287 ชุมชน จัดตั้งเครือข่ายชมรมคนริมน้ำในพื้นที่ภาคเหนือแล้ว 43 ชมรม รวมทั้งเดินหน้าโครงการค่ายทหารปลอดผักตบชวาไปแล้ว 19 ค่าย ในพื้นที่ 9 จังหวัด” รองโฆษกคสช. กล่าว.-สำนักข่าวไทย