กรุงเทพฯ 7 พ.ค.-มหาดไทยสั่งด่วนทุกจังหวัดรับมือภัยแล้ง นำแนวพระราชดำริบริหารจัดการน้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนด้วยกลไกประชารัฐ
นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์พายุฤดูร้อนและฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ว่า ในเดือนพฤษภาคมนี้ จะมีปริมาณฝนตกมากกว่าทุกปี และจะเกิดภาวะฝนทิ้งช่วงในเดือนมิถุนายน เพื่อเป็นการกักเก็บน้ำฝนที่ตกลงมาในช่วงนี้ไว้ใช้ในช่วงขาดแคลนน้ำ กระทรวงมหาดไทยจึงกำชับให้ทุกจังหวัดนำแนวทางการบริหารจัดการน้ำตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และประสบการณ์การแก้ปัญหาด้านน้ำในพื้นที่มาทบทวนและเพิ่มความระมัดระวังในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำ
“ให้เร่งสร้างแหล่งกักเก็บน้ำ ทั้งการสำรวจและดัดแปลงสภาพธรรมชาติของพื้นที่ เช่น ทางน้ำไหลเดิมหรือเหมืองฝายที่ตื้นเขินหรือที่ราบลุ่มเชิงเขาหรือแอ่งน้ำเดิม เหมืองฝายชะลอน้ำ หลุมขนมครกและแก้มลิงมาทำเป็นแหล่งกักเก็บน้ำใหม่ เร่งสร้าง ปรับปรุงซ่อมแซมแหล่งกักเก็บน้ำเดิมประจำหมู่บ้านให้ใช้ได้ปกติ และให้ประสานกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั้ง 6 แห่งทุกภูมิภาคและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ สถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านการพัฒนาแหล่งน้ำ รวมถึงผู้นำ ชุมชนหรือปราชญ์ชาวบ้านที่มีความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำมาเป็นวิทยากรในการแนะนำและสอนวิธีการจัดทำแหล่งกักเก็บน้ำ” ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าว
นายกฤษฎา กล่าวว่า ให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดหรือปลัดจังหวัดเป็นหัวหน้าคณะทำงานบริหารจัดการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันติดตามแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำประจำจังหวัด ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดต้องอาศัยความร่วมมือกันจากทุกภาคส่วน กลไกประชารัฐจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้การบริการจัดการน้ำมีความเพียงพอต่อเนื่อง และเกิดความยั่งยืนอย่างแท้จริง.-สำนักข่าวไทย
