กรุงเทพฯ 20 ธ.ค.- บอร์ดมรดกภูมิปัญญาฯ (ICH) มีมติเห็นชอบเสนอ “ผ้าขาวม้า” และรายการมรดกร่วม 4 ประเทศ “เคบายา” ขึ้นทะเบียนยูเนสโก พร้อมประกาศรายชื่อผู้ทำคุณประโยชน์ในการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ปี 65
นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) ประธานกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาฯ ครั้งที่ 1/2565 ว่า ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการเสนอ “สงกรานต์ในประเทศไทย” เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (The Representative List of the Intangible Cultural Heritage of Humanity) ต่อองค์การยูเนสโก ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้ลงมติเห็นชอบไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2563 และกรมส่งเสริมวัฒนธรรมดำเนินการเสนอเอกสารต่อองค์การยูเนสโกเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่าจะได้รับการพิจารณาในปลายปี พ.ศ.2566 และจะมี “ต้มยำกุ้ง” ที่ ครม.ลงมติเห็นชอบไปเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2564 ซึ่งคาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาของยูเนสโกในปี 2568 ต่อไป
นายอิทธิพล เปิดเผยต่อว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ICH ครั้งนี้ ยังพิจารณาเห็นชอบให้ “ผ้าขาวม้า” เป็นรายการมรดกภูมิปัญญาฯ ที่เตรียมเสนอขึ้นบัญชีกับยูเนสโกลำดับถัดไป ด้วยเห็นว่าผ้าขาวม้าขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติไปแล้วเมื่อ พ.ศ.2556 ในสาขางานช่างฝีมือดั้งเดิม ประเภทผ้าและผลิตภัณฑ์จากผ้า ผ้าขาวม้าเป็นผ้าทอพื้นเมือง มีลวดลายโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ แตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น พบได้ทุกภาคของประเทศ มีความผูกพันกับวิถีชีวิตคนไทยในหลายมิติ สารพัดประโยชน์ในการใช้สอย เช่น เครื่องนุ่งห่ม ใช้ทำความสะอาดเช็ดถู หรือมอบเป็นของขวัญให้แก่ผู้ใหญ่ และใช้ในงานพิธีกรรมต่างๆ ซึ่งปัจจุบัน ผ้าขาวม้า ถูกนำมาต่อยอดพัฒนาคุณภาพ แปรรูปให้ใช้ประโยชน์ได้อย่างหลายหลาย จึงเห็นชอบให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรมจัดทำข้อมูลตามหลักเกณฑ์ เพื่อเสนอรายการ “ผ้าขาวม้า” ต่อองค์การยูเนสโกต่อไป
และที่ประชุมคณะกรรมการ ICH ยังเห็นชอบให้เสนอรายการมรดกร่วม “เคบายา” ต่อองค์การยูเนสโก จากการที่รัฐบาลของประเทศมาเลเซียมีหนังสือขอเชิญประเทศไทยขึ้นทะเบียนร่วม (multi-national nomination) รายการ “เคบายา” (Kebaya) โดยมีประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ บรูไน ดารุสซาลาม และสิงคโปร์ พิจารณาเข้าร่วมในการเสนอรายการเคบายา เพื่อขอขึ้นทะเบียนมรดกร่วมต่อยูเนสโกด้วย ซึ่งมีกำหนดยื่นภายในวันที่ 31 มีนาคม 2566
ความเกี่ยวข้องกับประเทศไทย “เคบายา” คือ เสื้อพื้นเมืองชนิดหนึ่งของผู้หญิงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย บรูไน ดารุสซาลาม สิงคโปร์ และทางภาคใต้ของไทย ผลิตโดยผ้าที่มีน้ำหนักเบา เช่น ผ้าฝ้าย ฝ้าโปร่ง ผ้าลูกไม้ ประดับด้วยดิ้น ด้านหน้าติดกระดุมหรือเข็มกลัด มีการออกแบบ การเย็บปักถักร้อยที่ประณีตงดงาม สอดคล้องกับการแต่งกายบาบ๋า-เพอรานากัน ภาคใต้ของไทย ที่ได้รับการขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ เมื่อปี 2555 ถือเป็นการผสมผสานวัฒนธรรมของคนหลายชนชาติ เคบายา (Kebaya) เป็นเสื้อสตรีที่เป็นส่วนหนึ่งของการแต่งกายบาบ๋า-เพอรานากัน ซึ่งสมาคมเพอนารากันประเทศไทย จังหวัดภูเก็ต พร้อมให้ความร่วมมือจัดทำข้อมูลเอกสาร เพื่อนำเสนอยูเนสโกต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบ การประกาศขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมประจำปี พ.ศ.2565 รวมทั้งสิ้น 14 รายการ ดังนี้ สาขาวรรณกรรมพื้นบ้านและภาษา ได้แก่ ตำนานนางผมหอม ตำนานหลวงพ่อพระใส, สาขาแนวปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรม ประเพณี และงานเทศกาล ได้แก่ แห่นกบุหรงซีงอ ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ, สาขาความรู้และการปฏิบัติเกี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล ได้แก่ บ่อเกลือ นาเกลือ น้ำผักสะทอน, สาขางานช่างฝีมือดั้งเดิม ได้แก่ ผ้าไหมหางกระรอกโคราช ผ้าซิ่นตีนแดงบุรีรัมย์ ผ้าโฮลสุรินทร์ เมรุลอย, การเล่นพื้นบ้าน กีฬาพื้นบ้าน และศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว ได้แก่ การเส็งกลองกิ่ง การเล่นโหวด และเรือบก โดยทางกรมส่งเสริมวัฒนธรรมจะดำเนินการประกาศในราชกิจจานุเบกษา และเผยแพร่คุณค่าความสำคัญ รวมทั้งให้การส่งเสริมสนับสนุนในด้านต่างๆ เพื่อให้เกิดการดำรงรักษาต่อไป
นายอิทธิพล ยังเปิดเผยอีกว่า ที่ประชุมคณะกรรมการฯ ให้ความเห็นชอบผลการพิจารณาคัดเลือกบุคคล กลุ่มบุคคล ชุมชน องค์กร หรือหน่วยงานที่ทำคุณประโยชน์ในการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม พ.ศ.2565 ดังนี้ ประเภทกลุ่มบุคคล ชุมชน องค์กร หรือหน่วยงาน จำนวน 7 ราย ได้แก่ สถาบันอนุรักษ์คัมภีร์ใบลาน วัดสูงเม่น, กลุ่มรักษ์คอน, เทศบาลนครพิษณุโลก, ชมรมมวยไทยโรงเรียนเทพบดินทร์วิทยา เชียงใหม่, ชมรมอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทหล่ม กลุ่มมูลมังวัดท่ากกแก, สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา, ชุมชนคุณธรรมบ้านน้ำเลา
ประเภทบุคคล จำนวน 16 ราย ได้แก่ นายอำไพ บุญรอด, นายทรงชัย สมปรารถนา, นายบุญสม สังขสุข, นายจรัสเดช อุลิต, นายประเสริฐ รักษ์วงศ์, นางทองลี้ คณทา, นายวิษณุ ผดุงศิลป์, นายนิเวศ แววสมณะ, นายพุทธิชัย โชติประดิษฐ์, นายอรุณ พุ่มไสว, นายสมชาย ฐานเจริญ, รศ.สมบัติ ประจญศานต์ ผศ.อภิลักษณ์ เกษมผลกูล พระครูนิปุณพัฒนวงศ์, นายธนวัฒน์ ราชวัง, นางจินตนา เย็นสวัสดิ์ เพื่อให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ดำเนินการประกาศเผยแพร่สู่สาธารณะ ซึ่งผู้ที่ทำคุณประโยชน์นี้จะได้รับโล่ยกย่องเชิดชูเกียรติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมต่อไป.-สำนักข่าวไทย