พรรคชาติไทยพัฒนา 26 ก.ย.-“กัญจนา” ยื่นลาออก หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เตรียมประชุมใหญ่ 3 ต.ค. นี้ เลือก กก.บห.ชุดใหม่ พร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง มองพรรค รบ. ได้เปรียบลงพื้นที่ช่วย ปชช.
นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา รักษาการผู้อำนวยการพรรค แถลงว่า นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา ได้ลงนามในหนังสือลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคแล้ว เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา ดังนั้นจึงส่งผลให้กรรมการบริหารพรรคต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ ตามข้อบังคับพรรคชาติไทยพัฒนาระบุว่าจะต้องมีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่กรรมการบริหารพรรคพ้นจากตำแหน่ง
นอกจากนั้นยังส่งผลให้กรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคชาติไทยพัฒนา ในสัดส่วนของกรรมการบริหารพรรคทั้ง 4 คน ต้องพ้นจากตำแหน่งไปด้วยเช่นกัน ประกอบกับกรรมการสรรหาฯในสัดส่วนของหัวหน้าสาขาพรรคทั้ง 4 สาขา และตัวแทนพรรคประจำจังหวัด 3 คน ก็ได้ลาออกจากตำแหน่งด้วย
ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคชาติไทยพัฒนา เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2565 จึงได้มีมติเห็นชอบให้มีการจัดประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ 2/2565 พรรคชาติไทยพัฒนา ในวันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม 2565 เวลา 07.30 – 12.30 น. ณ ห้องแกรนด์ A-Bโรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ โดยมีวาระสำคัญคือ การแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรคใหม่ในหลายข้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มจำนวนกรรมการบริหารพรรค เพื่อรองรับการเติบโตของพรรคที่จะเกิดขึ้น และเพิ่มคณะกรรมการอำนวยการขึ้นใหม่อีก 1 คณะจากที่มีอยู่เดิม 5 คณะ
นายนิกร กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีวาระที่สำคัญยิ่งคือการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่แทนชุดเก่าที่พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ เนื่องจากหัวหน้าพรรคลาออกไป อันเป็นการแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง ผู้บริหารพรรคชาติไทยพัฒนาครั้งใหญ่ เพื่อการเติบโตรองรับกับความเปลี่ยนแปลงต่อไปในอนาคต และนอกจากนั้น ยังมีการเลือกตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคชุดใหม่ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมที่จะเข้าสู่การเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้
นายนิกร ยังกล่าวถึงระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ที่ออกมา พรรคจะเสนอแย้งหรือไม่ เนื่องจากพรรครัฐบาลมีความได้เปรียบมากกว่าพรรคการเมืองอื่นๆ ในการลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนในด้านต่างๆ เช่น อุทกภัย นายนิกร มองว่า เรื่องกรอบ 180 วัน กกต. จำเป็นต้องออกประกาศ เพราะเป็นหน้าที่ ซึ่งยังมีรายละอียดค่อนข้างมาก และอาจสร้างความสับสน ซึ่ง กกต.จะเป็นผู้ชี้แจงกับคณะกรรมาธิการ กิจการสภาผู้แทนราษฎร และเชื่อว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น
ส่วนปัญหาเรื่องความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างพรรครัฐบาลกับพรรคการเมืองอื่น นายนิกร กล่าวว่า ก็เป็นเช่นนั้น เพราะในการทำงานมีความคาบเกี่ยวกัน แม้ว่าจะเป็นนอกเวลาราชการก็ตาม ซึ่งเมื่อทำในฐานะผู้แทนรัฐบาล ก็น่าจะมีผลทางการเมืองเช่นกัน ซึ่งแยกกันค่อนข้างลำบาก ดังนั้นอีกฝ่ายก็ต้องติดตามเรื่องนี้ และเชื่อว่าในอนาคตคงจะมีการฟ้องร้องกันตามปกติ ขณะที่ทางพรรคคงไม่มีการแย้งอะไร และพรรคเองก็ต้องมีการประชุมสัมมนากันในรายละเอียดต่างๆ ด้วย.-สำนักข่าวไทย