กรุงเทพฯ 19 ส.ค. – “บิ๊กฮง” ชนะ “เอสวัน” 9-4 เสียง ได้เป็นนายกสมาคมกีฬาบิลเลียดฯ สมัยที่ 2 ติดต่อกัน แย้มไทยอาจได้จัด 6 แดงชิงแชมป์โลก ช่วงปลายเดือนกันยายนนี้
สมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย จัดการประชุมวิสามัญ ครั้งที่ 2 ประจำปี 2565 ที่ภัตตาคารโฮคิทเช่น พระราม 3 เมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมีคณะกรรมบริหารสมาคมฯ จำนวน 18 คน พร้อมด้วยสโมสรสมาชิกจำนวน 13 สโมสรจากทั้งหมด 15 สโมสร เข้าร่วมประชุม ซึ่งมีวาระสำคัญของการประชุมคือการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทยคนใหม่แทนนายกสมาคมและคณะกรรมการบริหารชุดเดิมที่กำลังจะหมดวาระลง ซึ่งเป็นการจัดเลือกตั้งใหม่อีกครั้งหลังจากที่เมื่อวันที่ 20 ก.ค.65 ไม่สามารถทำการเลือกตั้งได้เนื่องด้วยหลักฐานการยืนยันตัวตนของตัวแทนสโมสรสมาชิกต่างๆ นั้นมีไม่ครบตามกฎระเบียบข้อบังคับ
บรรยากาศในการประชุมเป็นไปอย่างเคร่งเครียด สมาคมฯ จัดประชุมแบบปิด ห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม โดยมีการนำป้ายมาติดประกาศห้ามบุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกหรือได้รับมอบฉันทะเข้าห้องประชุมอย่างเด็ดขาด รวมทั้งห้ามมีการไลฟ์สด โดยไม่ได้รับอนุญาติจากสมาคมฯ มิเช่นนั้นจะดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้สโมสรสมาชิกที่มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง มีดังนี้ 1 การท่าเรือ, 2 ชมรมบิลเลียดสนุกเกอร์ธนาคารออมสิน, 3 กสท.โทรคมนาคม (CAT & TOT ), 4 ชมรมสนุกเกอร์การนิคมอุตสาหกรรม (กนอ.), 5 ชมรมกีฬาบิลเลียดสนุกเกอร์สมาคมสโมสรการประปาส่วนภูมิภาค, 6 ชมรมบิลเลียดสนุกเกอร์การไฟฟ้าภูมิภาค, 7 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, 8 ชมรมสนุกเกอร์สวนกุหลาบวิทยาลัย, 9 สมาคมศิษย์เก่าอัสสัมชัญศรีราชา, 10 สมาคมอัสสัมชัญ, 11 แม็กซ์ บี สนุกเกอร์ แอนด์ พูลเฮ้าส์,
12 สมาคมศิษย์เก่าเซนต์คาเบรียล, 13 สโมสรราชพฤกษ์, 14 ราชกรีฑาสโมสร และ 15 ราชกรีฑาสโมสร โปโล คลับ โดยในการเลือกตั้งครั้งนี้มีตัวแทนมาร่วมทั้งหมด 13 สโมสร โดยมี 2 สโมสรคือชมรมสนุกเกอร์สวนกุหลาบวิทยาลัยและราชกรีฑาสโมสรที่ยื่นความประสงค์ไม่ส่งผู้แทนเข้าร่วมการประชุมและการเลือกตั้งไว้ล่วงหน้าแล้ว จึงไม่ได้เดินทางมาร่วม แต่จำนวนตัวแทนมาร่วมมีเกินครึ่งหนึ่งนั่นคือ 8 สโมสรขึ้นไป จึงสามารถจัดการเลือกตั้งได้
ในวาระการเลือกตั้งได้มี นายสมพร ชัยสงคราม ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย พร้อมด้วย นางสาวกมลวรรณ สุทธิบุตร หัวหน้างานทะเบียนสมาคมกีฬาประจำกรุงเทพมหานค, นายจามร จามรี นิติกร 3, น.ส.ศศิธร สุคนธ์ นิติกร 3 และ นายณัฐพงษ์ อ้วงเฮง ผู้ช่วยปฏิบัติงานฯ เป็นตัวแทนจากการกีฬาแห่งประเทศไทยร่วมเป็นสักขีพยานการเลือกตั้ง
สำหรับครั้งนี้มี พล.ต.ต.ดิษทัต ภูริประโชติ ทำหน้าที่ประธานการเลือกตั้ง โดยมีผู้ลงสมัครชิงตำแหน่ง 2 คน คือ นายสุนทร จารุมนต์ รักษาการนายกสมาคมฯ กับ “เอสวัน” นายไชยพงศ์ กรวสุรมย์ ผู้จัดการสนุกเกอร์ทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 31 โดยใช้วิธีลงคะแนนลับในการเลือกตั้ง ซึ่งผลการเลือกตั้งปรากฏว่า นายสุนทรชนะ 9-4 เสียง ได้เป็นนายกสมาคมกีฬาบิลเลียดฯ เป็นวาระที่ 2 ติดต่อกัน โดยจะดำรงค์ตำแหน่งไปอีก 4 ปี
นายสุนทร กล่าวหลังได้รับตำแหน่งต่ออีกสมัยว่า ขอบคุณทุกคนที่เลือกให้เป็นนายกอีกสมัย ซึ่ง 4 ปีที่ผ่านมาตนพยายามทำงานเพื่อวงการทุกอย่าง ไม่เคยมีเรื่องผลประโยชน์ ตนสอนลูกอยู่เสมอว่าไม่ว่าจะอย่างไร ธรรมะย่อมชนะอธรรมอยู่แล้ว ในอีก 4 ปีข้างหน้าทุกอย่างจะดีขึ้นอย่างแน่นอน แต่การจัดการแข่งขันจะให้มีมากกว่านี้ก็คงลำบาก เพราะตอนนี้ก็ถือว่ามีการแข่งขันถี่มากแล้ว เดือนละ 2 รายการ ส่วนการแข่งขันในต่างประเทศ ก็มีนักกีฬาไทยไปแข่งขันหลายรายการ ขอรับปากกับพี่น้องชาวไทยและวงการสนุกเกอร์ทุกคนว่าจะทำให้วงการสนุกเกอร์ยิ่งใหญ่ขึ้น ให้เดินไปได้ในทางที่ถูกต้อง ส่วนคณะกรรมการบริหารชุดใหม่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงบางคนในการหมดวาระล่าสุด และจะเอาคนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาช่วยให้สมาคมยิ่งใหญ่ขึ้น
“บิ๊กฮง” กล่าวอีกว่า การแข่งขันสนุกเกอร์ 6 แดงชิงแชมป์โลก ที่ไทยเป็นเจ้าภาพในเดือนกันยายน ทาง มร.เจสัน เฟอร์กูสัน ประธานสมาคมกีฬาบิลเลียดและสนุกเกอร์อาชีพโลก ได้แจ้งว่าถ้าเสร็จสิ้นการเลือกตั้งให้แจ้งเขาทันที จะสนับสนุนให้ไทยจัดรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สามารถช่วยได้ ขึ้นอยู่กับว่าการกีฬาแห่งประเทศไทยจะช่วยสนับสนุนขนาดไหน เพราะงบประมาณไม่พอ สปอนเซอร์หายาก เศรษฐกิจไม่ดีจากผลกระทบโควิด-19 ทำให้จัดยาก
“6 แดงชิงแชมป์โลก ผมว่าถ้าจัดในช่วงปลายเดือนกันยายนนี้ น่าจะเป็นไปได้ แต่ถ้าเกินจากนี้ไม่น่าทัน เพราะโปรแกรมแข่งทั่วโลกแน่นมาก คงจัดไม่ได้ แต่ปีหน้าจะทำได้แน่นอน น่าเสียดายที่มีปัญหาการเลือกตั้งในเดือนที่แล้ว ทำให้การเตรียมการชะงักไป ” นายสุนทรกล่าว
ด้าน เอสวัน” นายไชยพงศ์ กรวสุรมย์ ที่พ่ายแพ้ในการเลือกตั้ง กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับผู้ชนะการเลือกตั้ง การที่ออกมาชิงตำแหน่งในครั้งนี้ เพื่อต้องการสะท้อนให้เห็นปัญหา แต่ถึงแม้จะแพ้ก็จะอยู่พัฒนาวงการสนุกเกอร์ในรูปแบบของตัวเอง อยากจะฝากไปถึงผู้ชนะให้เข้าถึงปัญหาของนักกีฬาให้มากขึ้น เพราะหลังจากเป็นผู้จัดการทีมชุดซีเกมส์ที่ผ่านมา ได้เห็นปัญหามากมาย .-สำนักข่าวไทย