ออตตาวา 22 ก.พ.- นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดของแคนาดาเผยว่า จะเปิดพรมแดนรับผู้ขอลี้ภัยที่ลอบเดินทางข้ามมาจากสหรัฐต่อไป ขณะเดียวกันจะดำเนินมาตรการดูแลความปลอดภัยให้แก่ชาวแคนาดา
นายกรัฐมนตรีทรูโดแถลงต่อรัฐสภาว่า เหตุผลหนึ่งที่แคนาดายังคงเป็นประเทศเปิดก็คือ ชาวแคนาดาเชื่อมั่นในระบบคนเข้าเมืองและเอกภาพชายแดน และการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ต้องการความปลอดภัย โดยจะรักษาสมดุลระหว่างระบบที่เคร่งครัดกับการรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ ด้านนายอาเหม็ด ฮุสเซน รัฐมนตรีคนเข้าเมืองแคนาดากล่าวว่า แคนาดาจะปฏิบัติตามข้อตกลงความปลอดภัยประเทศที่สามแคนาดา-สหรัฐต่อไปในระหว่างที่ให้ความช่วยเหลือผู้ขอลี้ภัยที่ลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย เป็นข้อตกลงที่กำหนดให้ต้องส่งกลับผู้ขอลี้ภัยที่ยื่นคำขอที่ชายแดนแคนาดา-สหรัฐ ขณะที่กลุ่มสิทธิตำหนิว่า ข้อตกลงนี้ผลักดันให้ผู้ขอลี้ภัยลอบข้ามพรมแดนในจุดห่างไกลที่เสี่ยงอันตรายต่อชีวิต และมองว่าสหรัฐไม่ใช่สถานที่ปลอดภัยสำหรับผู้ขอลี้ภัย
หลายสัปดาห์มานี้มีผู้ขอลี้ภัยลอบข้ามพรมแดนตามด่านห่างไกลของสหรัฐที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแลเข้ามาในแคนาดามากขึ้น เพราะเกรงนโยบายประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐที่จะกวาดล้างผู้ลอบเข้าเมือง พรรคอนุรักษ์นิยมซึ่งเป็นฝ่ายค้านแคนาดาต้องการให้รัฐบาลพรรคเสรีนิยมยับยั้งคลื่นผู้ขอลี้ภัยจากสหรัฐเพราะกังวลเรื่องความปลอดภัยและการไม่มีทรัพยากรดูแลคนเหล่านี้ ด้านตำรวจแคนาดาเผยว่า ได้เพิ่มกำลังคนที่ด่านควิเบกและตั้งศูนย์ผู้ลี้ภัยชั่วคราวเพื่อดำเนินการเรื่องผู้ขอลี้ภัย เดือนมกราคมที่ผ่านมามีผู้ยื่นขอลี้ภัยที่ด่านนี้ 452 คน เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าจากเดือนเดียวกันปีก่อนที่มีเพียง 137 คน.-สำนักข่าวไทย