สรุปเหตุการณ์สำคัญของโลกในปี 2559

สรุปเหตุการณ์สำคัญของโลกในปี 2559


มกราคม
3 : ทางการซาอุดีอาระเบียซึ่งนับถือนิกายสุหนี่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่านนิกายชีอะห์ จากชนวนเหตุที่ซาอุดีอาระเบียประหารชีวิตอิหม่ามนิกายชีอะห์ และการประท้วงในอิหร่านบานปลายถึงขั้นบุกเผาสถานทูตซาอุดีอาระเบีย
8 : นายวาคิน เอลชาโป กุซแมน หัวหน้าแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ในเม็กซิโกพลาดท่าถูกจับตัวกลับมาได้ หลังแหกคุกออกไปนาน 6 เดือน
10 : วงการเพลงร็อคสูญเสียเดวิด โบวี นักร้องรุ่นใหญ่ชาวอังกฤษที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในวัย 69 ปีหลังป่วยมานาน
15 : กลุ่มติดอาวุธอัลมูราบิตุนในเครือข่ายกลุ่มอัลกออิดะห์อ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุบุกโจมตีโรงแรมและร้านอาหารในกรุงวากาดูกูเมืองหลวงบูร์กินาฟาโซ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 30 คนส่วนใหญ่เป็นชาวตะวันตก
16 : ข้อตกลงนิวเคลียร์ครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างอิหร่านกับกลุ่มชาติมหาอำนาจโลกมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 16 ม.ค. เป็นต้นไป โดยมีเนื้อหาให้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมดจากนิวเคลียร์ที่มีต่ออิหร่านทั้งหมด เพื่อแลกกับการให้อิหร่านยอมระงับการเดินหน้าโครงการพัฒนานิวเคลียร์ ซึ่งชาติตะวันตกหวั่นใจว่าจะนำไปสู่การพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
16 : นางไช่ อิงเหวิน จากพรรคฝ่ายค้านได้รับเลือกตั้งให้เป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของไต้หวันด้วยคะแนนเสียงถล่มทลายเหนือพรรคก๊กมินตั๋งซึ่งพ่ายเลือกตั้งอย่างย่อยยับ เพราะผู้ลงคะแนนไม่ต้องการผูกสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีนแผ่นดินใหญ่

กุมภาพันธ์
11 : วงการวิทยาศาสตร์ ได้ฮือฮาเมื่อนักวิจัยแถลงข่าวยืนยันค้นพบคลื่นแรงโน้มถ่วงเป็นครั้งแรกของโลก นับเป็นการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ที่เป็นหลักฐานยืนยันตามทฤษฏีสัมพัทธภาพของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ที่ทำให้เข้าใจในปรากฏต่างๆในจักรวาล
12 : สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกทรงพบกับผู้นำคริสตจักรออร์โธดอกซ์แห่งรัสเซีย นับเป็นการพบกันครั้งแรกของผู้นำสองนิกายคริสต์ในรอบเกือบ 1,000 ปี


มีนาคม
13 : กลุ่มอิสลามในเครืออัลกออิดะห์ก่อเหตุโจมตีที่รีสอร์ตในไอวอรีโคสต์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 19 คน
15 : บริษัทยักษ์ใหญ่กูเกิลโชว์ความเหนือชั้นพัฒนาโปรแกรมสมองกลอัจฉริยะเอาชนะ ลี เซ-ดล แชมป์หมากล้อมระดับโลกชาวเกาหลีใต้ได้เป็นครั้งแรกของโลกจากการดวลเกมกับสมองกลของกูเกิล
18 : ผู้นำตุรกีและประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป(อียู) ทำข้อตกลงสกัดคลื่นผู้อพยพเข้ายุโรป หวังบรรเทาวิกฤตผู้อพยพครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง
20-22 : ประธานาธิบดีบารัค โอบามาผู้นำสหรัฐได้หารือกับประธานาธิบดีราอูล คาสโตรแห่งคิวบาในกรุงฮาวานา โดยพักความขมขื่นระหว่างสองประเทศที่มีมานานกว่า 50 ปี
22 : เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่สนามบินและสถานีรถไฟใต้ดินในกรุงบรัสเซลส์ คาดว่ากลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) เป็นผู้ก่อเหตุ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 32 คน
27 : มือระเบิดฆ่าตัวตายในกลุ่มตอลีบานก่อเหตุระเบิดโจมตีกลางสวนสาธารณะปากีสถานซึ่งเต็มไปด้วยครอบครัวที่มาฉลองเทศกาลอีสเตอร์วันอาทิตย์ สังหาร 75 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็ก
30 : นางออง ซาน ซู จี ผู้นำเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยเข้าบริหารประเทศ โดยให้คนสนิทเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี หลังรัฐบาลที่มาจากทหารปกครองเมียนมาร์มา 50 ปี
31 : รัฐบาลแห่งชาติลิเบียที่มีสหประชาชาติสนับสนุน เข้ารับตำแหน่งในกรุงตริโปลี โดยแต่งตั้งนายฟาเอ็ด อัลซาร์ราจ นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ภายหลัง 3 เดือนที่มีการลงนามในข้อตกลงแบ่งอำนาจกัน

เมษายน
3 : แฟ้มลับปานามาเปเปอร์ กลายเป็นข่าวดังเมื่อข้อมูลความลับรั่วใหญ่ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดถึง 11.5 ล้านฉบับ แฉเส้นทางฟอกเงินและเลี่ยงภาษี โดยพัวพันรายชื่อผู้นำประเทศและคนดังระดับโลก รวมถึงนักเตะชื่อดังลิโอเนล เมสซี ดาวยิงทีมบาร์เซโลนา
16 : เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.8 สะเทือนเอกวาดอร์ มีผู้เสียชีวิตกวา 670 คน และบาดเจ็บเกือบ 6,300 คน

พฤษภาคม
9 : นายโรดริโก ดูเตอร์เต นายกเทศมนตรีของเมืองดาเวากวาดชัยชนะถล่มทลายในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์ด้วยการปราศรัยหาเสียงใช้วาจาหยาบคายประณามปัญหาภายในประเทศ
21 : นายมุลเลาะห์ อัคตาร์ มันซูร์ ผู้นำตอลีบานถูกสังหารในการปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของสหรัฐเพื่อหยุดยั้งการเคลื่อนไหวของกลุ่มติดอาวุธ
27 : ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเดินทางเยือนอนุสรณ์สถานเมืองฮิโรชิมา เพื่อแสดงความเคารพเหยื่อในเหตุการณ์สหรัฐทิ้งระเบิดปรมาณูถล่มเมื่อช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 พร้อมเรียกร้องให้ยุติการใช้อาวุธนิวเคลียร์


มิถุนายน
4 : นายมูฮัมหมัด อาลี ตำนานนักชกแชมป์โลกรุ่นเฮฟวีเวต 3 สมัยเสียชีวิตในวัย 74 ปี หลังล้มป่วยด้วยปัญหาระบบทางเดินหายใจ
12 : เกิดเหตุมือปืน ผู้อุทิศตนให้กับกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส กราดยิงสังหารหมู่ 49 ศพที่สถานบันเทิงในเมืองออร์แลนโดของรัฐฟลอริดา มือปืนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุจากการยิงต่อสู้กับตำรวจ
23 : ชาวอังกฤษมีมติออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปด้วยคะแนนเสียงสนับสนุนร้อยละ 52 นายเดวิด คาเมรอนตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และส่งไม้ต่อให้กับนางเทเรซา เมย์ในเดือน
กรกฎาคม
28 : เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายติดกัน 3 ครั้งและกราดยิงถล่มสนามบินในนครอิสตันบูลของตุรกี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 40 คน บาดเจ็บกว่า 200 คน นับเป็นการก่อเหตุนองเลือดต่อเนื่องโดยฝีมือของกลุ่มไอเอสและกลุ่มนักรบชาวเคิร์ด

กรกฎาคม
3 : กลุ่มไอเอสก่อเหตุระเบิดรถยนต์ฆ่าตัวตายบริเวณย่านช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยผู้คนในกรุงแบกแดด แรงระเบิดทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 300 คน
14 : เกิดเหตุคนร้ายชาวตูนีเซียขับรถบรรทุกพุ่งชนฝูงคนที่กำลังเฉลิมฉลองวันบัสตีย์ หรือวันชาติฝรั่งเศสบนท้องถนนในเมืองนีซ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 86 คน กลุ่มไอเอสประกาศตัวเป็นผู้ลงมือก่อเหตุความรุนแรงดังกล่าว
15 : ทหารตุรกีพยายามก่อรัฐประหารโค่นรัฐบาลของประธานาธิบดีเรเจพ ทายยิพ แอร์โดอาน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ รัฐบาลกล่าวหาว่า นายเฟทุลลาห์ กูเลน นักสอนศาสนาที่ลี้ภัยอยู่ในสหรัฐเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการก่อรัฐประหารที่ล้มเหลวในครั้งนี้ ตลอดจนนำไปสู่การกวาดล้างเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยการจับกุม ไล่ออก และสั่งระงับการปฏิบัติหน้าที่
23 : นักรบจีฮัดของไอเอสประกาศตัวเป็นผู้ลงมือก่อเหตุระเบิด 2 ครั้งโจมตีขบวนประท้วงของชาวมุสลิมชีอะห์ในกรุงคาบูล นับเป็นเหตุความรุนแรงในเมืองหลวงของอัฟกานิสถานที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตมากที่สุดถึง 85 คนนับแต่ปี 2544

สิงหาคม
5 : กีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนเปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการที่นครรีโอเดจาเนโรของบราซิล นับเป็นกีฬาโอลิมปิกครั้งแรกที่จัดขึ้นที่ลาตินอเมริกา
9 : ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียพบปะหารือกับประธานาธิบดีเรเจพ ทายยิพ แอร์โดอาน ของตุรกีเป็นครั้งแรก นับแต่เกิดความบาดหมางกรณีกองทัพตุรกียิงเครื่องบินรบรัสเซียตกบริเวณพรมแดนตุรกี-ซีเรีย
24 : เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 6.0-6.2 บริเวณเขตภูเขาทางตอนกลางของอิตาลี ยอดผู้เสียชีวิตในเมืองอมาตริเชพุ่งสูงถึง 297 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายร้อยคน
24 : ตุรกีเริ่มปฏิบัติการโจมตีในซีเรีย พุ่งเป้าไปยังกองกำลังชาวเคิร์ดและนักรบไอเอส
31 : นางดิลมา รุสเซฟฟ์ ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีของบราซิลจากกรณีตกแต่งตัวเลขงบประมาณแผ่นดิน และถูกแทนที่โดยคู่ปรับคนสำคัญอย่างนายมีเชล เตเมร์

กันยายน
4 : สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขคริสต์จักรนิกายโรมันคาทอลิกประกาศให้แม่ชีเทเรซาเป็นนักบุญ
9 : เกาหลีเหนือทดลองนิวเคลียร์ครั้งที่ 5 รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยทดลองมา
28 : นายชิมอน เปเรส อดีตประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีอิสราเอล และเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพร่วมปี 2537 ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคหลอดเลือดสมองขณะมีอายุ 93 ปี

ตุลาคม
4 : เฮอริเคนแมทธิวพัดถล่มเฮติด้วยความรุนแรงระดับ 4 ตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 546 คน ขณะที่ประเมินกันว่าตัวเลขที่แท้จริงอาจสูงถึง 1,600 คน และสร้างความเสียหายจำนวนมาก
17 : กองกำลังอิรักเปิดฉากรุกหนักหวังยึดคืนเมืองโมซูล ฐานที่มั่นสุดท้ายของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ที่อยู่ทางตอนเหนือของอิรักและถูกไอเอสยึดไว้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2557
24 : ฝรั่งเศสเริ่มรื้อถอนค่ายผู้อพยพที่ถูกขนานนามว่า “ป่า” ในเมืองกาเลส์ ทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งเป็นจุดที่ผู้อพยพมาปักหลักรอหวังข้ามอุโมงค์ช่องแคบอังกฤษต่อเข้าไปในอังกฤษ

พฤศจิกายน
8 : นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันชนะนางฮิลลารี คลินตัน จากพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ จุดกระแสประท้วงจากชาวอเมริกันที่ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง
15 : กองกำลังซีเรียและรัสเซียเปิดปฏิบัติการโจมตีครั้งใหม่หวังยึดเมืองอเลปโป ทางตอนเหนือของซีเรียคืนจากกองกำลังฝ่ายต่อต้าน หลังเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคม 2554 มีคนล้มตายแล้วกว่า 312,000 คน
24 : ประธานาธิบดีฮวน มานูเอล ซานโตสของโคลอมเบียและนายโรดริโก ทิโมเชนโก ลอนโดโน หัวหน้ากลุ่มกองโจรฟาร์กลงนามข้อตกลงสันติภาพยุติความขัดแยงที่ดำเนินมานานกว่าครึ่งศตวรรษ และเป็นเหตุผลที่ทำให้นายซานโตสได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปีนี้
25 : ฟิเดล คาสโตร ผู้นำการปฏิวัติคิวบาถึงแก่อสัญกรรมด้วยวัย 90 ปี หลังจากปฏิวัติประเทศในปี 2502 จนกระทั่งวางมือทางการเมืองและมอบอำนาจให้แก่นายราอูส คาสโตร น้องชายตั้งแต่ปี 2549

ธันวาคม
4 : ชาวอิตาลีลงประชามติไม่ยอมรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น ส่งผลให้นายกรัฐมนตรีมัตเตโอ เรนซีลาออกตามที่เดิมพันไว้
9 : สมัชชาแห่งชาติเกาหลีใต้ลงมติถอดถอนประธานาธิบดีปัก กึนฮเยออกจากตำแหน่งฐานพัวพันเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริตของเพื่อนสนิท
12 : นายอันโตนิโอ กูเตร์เรส อดีตนายกรัฐมนตรีโปรตุเกสวัย 67 ปี ได้รับเลือกตั้งเป็นเลขาธิการสหประชาชาติคนที่ 9 เริ่มทำหน้าที่ตั้งแต่ 1 มกราคม 2560
19 : ชายชาวตูนิเซีย วัย 24 ปี ขับรถบรรทุกพุ่งชนฝูงชนที่ตลาดคริสต์มาสในกรุงเบอร์ลินของเยอรมนี มีผู้เสียชีวิต 12 คน ก่อนหนีไปอิตาลีและถูกวิสามัญฆาตกรรมในอีก 4 วัน
21 : เกิดระเบิดที่ตลาดพลุใหญ่ชานกรุงเม็กซิโกซิตีของเม็กซิโก มีผู้เสียชีวิต 31 คน

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กองทัพภาคที่ 2 แชร์ข้อมูลอาวุธไฮเทคสำหรับยิงโดรน

นครราชสีมา 2 ส.ค.-กองทัพภาคที่ 2 แชร์ข้อมูลอาวุธสำหรับกำจัดโดรนโดยเฉพาะ ซึ่งล่าสุดได้ทดสอบระบบ ณ กองบิน 1 ศูนย์ทดสอบอาวุธทางอากาศ เรียบร้อยแล้ว ด้านชาวอุดรธานี แห่บริจาคหนังสติ๊กพร้อมลูกแก้ว ตามที่ทหารขอมาจำนวนมาก หลังทหารกัมพูชายังก่อกวน ยั่วยุ ทั้งขว้างก้อนหินใส่ และมีโดรนปริศนามาบินอีก จากกรณีที่ช่วงนี้ มีการตรวจพบโดรนไม่ทราบฝ่าย เข้ามาบินตรวจการณ์ในพื้นที่ที่ตั้งทางทหาร ทำให้หลายฝ่ายมีความกังวล และสงสัยว่าอาจเป็นภัยคุกคามร้ายแรงจากประเทศเพื่อบ้าน ที่กำลังมีปัญหาระหว่างประเทศกับประเทศไทย ทำให้เมื่อวานเพจกองทัพภาคที่ 2 ได้แชร์ข้อมูลอาวุธสำหรับกำจัดโดรนโดยเฉพาะ ซึ่งล่าสุดได้มีการทดสอบระบบ ณ กองบิน 1 ศูนย์ทดสอบอาวุธทางอากาศ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อวานนี้ (1 ส.ค.68) เฟซบุ๊กเพจ กองทัพภาคที่2 ได้แชร์ข้อมูลเพจ SMART Soldiers Strong ARMY พร้อมระบุข้อความว่า “หากศัตรูซ่อนตัวในเงามืด เราจะเป็นแสงที่มองเห็นมันก่อนใคร”เลเซอร์พร้อมยิง — ทหารไทยพร้อมรบโดยอาวุธชนิดนี้ คือ Directed Energy Weapon หรือ (DEW) เป็นอาวุธยุคใหม่ที่กองทัพอากาศไทยพัฒนาขีดความสามารถอย่างต่อเนื่อง […]

โฆษก ทบ. ซัดเขมรบิดเบือน กล่าวหาไทยทำร้าย 2 ทหารเขมร

2 ส.ค. – โฆษกกองทัพบก ซัด เขมรบิดเบือน กล่าวหาไทยทำร้าย 2 ทหารเขมรจนพิการและมีปัญหาทางจิต ยันมีหลักฐานชัดทำทุกอย่างภายใต้กติกาสากล จากกรณี สื่อกัมพูชาปั่นข่าวหนักโจมตีกล่าวหาไทย อ้างว่าปฏิบัติโหดกับ 2 ทหารกัมพูชาที่ถูกส่งกลับ จนพิการและมีปัญหาทางจิต พร้อมจะยื่นเรื่องถึงยูเอ็นนั้น ล่าสุดเมื่อเวลา 11.08 น. วันที่ 2 ส.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กรณีที่ทหารไทยจับกุม และควบคุมตัว ทหารกัมพูชา ภายหลังจากข้อตกลงหยุดยิง โดยกล่าวหาว่าไทยทำร้ายร่างกายอย่างไม่เป็นธรรมทำก่อนส่งกลับนั้น เป็นเพียงคำกล่าวหา บิดเบือนจากฝ่ายกัมพูชา และการหยุดยิงแบบฉับพลัน แต่สถานการณ์ความขัดแย้งที่มีการใช้อาวุธต่อกัน ยังไม่สิ้นสุดลงอย่างแท้จริงตามกฎหมายสากล กระบวนการฝ่ายทหารในการควบคุมตัวไว้ก่อน จึงยังสามารถทำได้ตามอนุสัญญาเจนีวา พล.ต.วินธัย กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ในส่วนของกองทัพบก มีแผนและพร้อมที่จะเชิญองค์กรระหว่างประเทศ เช่น ICRC มาดูความเป็นอยู่ของเชลยศึกที่ถูกควบคุมตัว ซึ่งอยู่ในกรอบการดำเนินการตามขั้นตอนของอนุสัญญาเจนีวาอย่างสมบูรณ์ และชัดเจน หากกังวลเรื่องความเป็นอยู่ เพราะรู้เท่าทันว่าฝ่ายกัมพูชาจะนำเรื่องนี้ไปบิดเบือนทำลายความน่าเชื่อถือฝ่ายทหารไทย ทางผู้แทน UNHCR และ ICRC จึงสามารถขอเข้ามาดูได้ […]

ชาวบ้านร่วมวางดอกไม้ไว้อาลัยเหตุกัมพูชายิงจรวดใส่ร้านสะดวกซื้อ

ศรีสะเกษ 2 ส.ค.-เช้านี้บรรยากาศที่ปั๊มน้ำมันบ้านผือ อ.กันทรลักษ์ เต็มไปด้วยความสลด ชาวบ้านร่วมกิจกรรมวางดอกไม้แสดงความไว้อาลัยผู้เสียชีวิต จากเหตุถูกกัมพูชายิงจรวดใส่ และจับกลุ่มพูดคุยกันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ชาวบ้านจากหมู่บ้านต่างๆในอำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทยอยเดินทางมาที่ปั๊ม ที่ถูกกัมพูชาโจมตีโดยการยิงจรวด BM-21 ใส่ เมื่อวันที่24 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยจรวจตกใส่บริเวณร้านสะดวกซื้อ ส่งผลให้มีประชาชนเสียชีวิต 8 ราย และบาดเจ็บอีก 15 คน ในจำนวนผู้เสียชีวิตมีแม่และลูกวัย 8 ขวบ ชาวบ้านร่วมกันเขียนข้อความแสดงความไว้อาลัย ก่อนร่วมกันนำข้อความพร้อมดอกไม้ชูขึ้น เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ว่าการที่ทหารกัมพูชาโจมตีพื้นที่พลเรือนถือเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม จากนั้นได้รวมกันนำดอกไม้ไปวางเพื่อแสดงความไว้อาลัยบริเวณด้านหน้าร้านสะดวกซื้อที่ถูกกัมพูชายิงจรวดใส่ นอกจากชาวบ้านแล้วยังมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร ที่มาร่วม วางดอกไม้ แสดงความไว้อาลัย ตัวแทนชาวบ้านบอกว่า การร่วมวางดอกไม้ในครั้งนี้เพื่อต้องการให้ผู้เสียชีวิตไปสู่ภพภูมิที่ดี พร้อมขอประณามกัมพูชา ที่เลือกยิงเป้าหมายเป็นประชาชน ทั้งที่ตำบลเมืองถือเป็นพื้นที่สีเขียว แต่ยังมีกระสุนตกใส่ และการที่เป็นพื้นที่สีเขียว จึงไม่ได้มีการอพยพประชาชน หากตกใส่หมู่บ้าน เชื่อว่าจะมีความสูญเสียเกิดขึ้นมากกว่านี้.-สำนักข่าวไทย

กองทัพบก ยกระดับมาตรการรับมือภัยคุกคามจากโดรน

กทม. 2 ส.ค.-กองทัพบกบูรณาการทุกภาคส่วน ยกระดับมาตรการรับมือภัยคุกคามจากโดรน หลังพบมีความพยายามบินตรวจการณ์ที่ตั้งทางทหาร ตามที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ได้ออกประกาศ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ.2568 เรื่องห้ามมิให้ผู้ใดบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน หรือ “โดรน” ที่ควบคุมการบินจากภายนอก, ทุกวัตถุประสงค์การใช้งาน, และทุกพื้นที่ทั่วราชอาณาจักรโดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศจากสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาในปัจจุบัน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารหรือหน่วยงานด้านความมั่นคงที่ได้รับมอบหมาย มีอำนาจในการใช้ระบบต่อต้านโดรน (Anti-Drone System) รวมถึงสามารถดำเนินการทำลายโดรนจากภาคพื้นดินได้ทันที ในการนี้ พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก/รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ถึง 4 และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 1 ถึง 4 ดำเนินมาตรการตามแนวทางดังต่อไปนี้ •ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด โดยมีรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด (ฝ่ายทหาร) เป็นผู้รับผิดชอบในการหารือและประสานการปฏิบัติกับส่วนราชการ หน่วยงาน และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง โดยให้ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาคเป็นผู้ทำหน้าที่ควบคุมและวางแผนภาพรวมในการป้องกันและต่อต้านการใช้โดรนไม่ทราบฝ่าย •ให้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ได้แก่ จังหวัด ตำรวจภูธรจังหวัด หน่วยงานความมั่นคง ภาคเอกชน และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งจัดตั้งชุดเคลื่อนที่เร็ว ประกอบด้วยกำลังจากฝ่ายพลเรือน ตลอดจนตำรวจจากสถานีตำรวจภูธร […]