ศรีลังกา 15 พ.ค.-สถานการณ์ในศรีลังกาวุ่นวายอย่างหนัก หลังเกิดเหตุม็อบบุกทำลายมัสยิด บ้านเรือน และร้านค้าของชาวมุสลิม เพื่อแก้แค้นเหตุการณ์โจมตีครั้งใหญ่เมื่อเดือนที่แล้ว
สถานการณ์ในศรีลังกายังคงตึงเครียดอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เกิดเหตุระเบิดโจมตีโบสถ์คริสต์ 3 แห่ง และโรงแรมหรูอีก 3 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความโกรธแค้นให้แก่ชาวสิงหลที่พากันรวมตัวก่อเหตุโจมตีมัสยิด บ้านเรือนและร้านค้าของชาวมุสลิมในหลายเมืองทางภาคตะวันตก
และเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (13 พ.ค.) มีชายชาวมุสลิมถูกแทงเสียชีวิตไป 1 คน สถานการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้นทำให้รัฐบาลต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ก่อนจะยกเลิกไปเมื่อวานนี้ (14 พ.ค.)
ขณะที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 23 คน ที่มีส่วนร่วมในการก่อเหตุโจมตีบ้านเรือน และร้านค้าของชาวมุสลิม ส่วนทหารได้ส่งรถยนต์หุ้มเกราะออกลาดตระเวนตามเมืองต่างๆ ที่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น
ล่าสุดตำรวจแถลงว่าสามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้แล้ว และไม่มีรายงานการก่อความรุนแรงครั้งใหม่ ทางการระบุว่า เหตุการณ์รุนแรงเริ่มปะทุขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (12 พ.ค.) โดยกลุ่มม็อบของคนที่ต่อต้านชาวมุสลิมพากันบุกไปก่อเหตุตามเมืองต่างๆ โดยเฉพาะทางตะวันตกเฉียงเหนือ มีทั้งการขว้างปา เผาทำลายบ้านเรือน และทรัพย์สินของชาวมุสลิม ตลอดจนทำร้ายร่างกาย และเผาคัมภีร์อัลกุรอาน เพื่อแก้แค้นเหตุการณ์โจมตีเมื่อเดือนที่แล้วซึ่งมีผู้เสียชีวิตไป 253 คน และกลุ่มหัวรุนแรงรัฐอิสลามอ้างว่าเป็นผู้ลงมือ.-สำนักข่าวไทย