พนมเปญ 17 ต.ค.- แถลงการณ์ของสหภาพยุโรป(อียู)ที่ขู่จะใช้มาตรการทางการค้ากดดันกัมพูชา ส่งผลให้เกิดความวิตกในอุตสาหกรรมสิ่งทอของกัมพูชาซึ่งเป็นรายได้หลักทางเศรษฐกิจที่มีแรงงานราว 700,000 คน แต่กลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่ยังมองในแง่ดีว่ายังมีเวลาอีกหลายเดือน
ก่อนหน้านี้อียูซึ่งเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของกัมพูชาและเป็นตลาดการค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกแถลงเตือนว่า กัมพูชาอาจเสียสิทธิพิเศษทางการค้ากับอียู เพื่อลงโทษที่ไม่เป็นประชาธิปไตย กลุ่มประเทศตะวันตกบางส่วนวิจารณ์ตำหนิการเลือกตั้งกัมพูชาเมื่อเดือนกรกฎาคมที่นายกรัฐมนตรีฮุน เซนชนะการเลือกตั้งว่าไม่ชอบมาพากล ทั้งข่มขู่ฝ่ายตรงข้ามและศาลสั่งยุบพรรคฝ่ายค้านหลัก มาตรการตอบโต้ทางการค้าของอียูจะส่งผลเสียหายต่อธุรกิจสิ่งทอของกัมพูชาซึ่งคิดเป็นร้อยละ 40 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) และอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น น้ำตาล โรงงานในกัมพูชาเป็นผู้ผลิตเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายให้กับแบรนด์ดังระดับโลก เช่น แกป เอชแอนด์เอ็ม ไนกี้ พูม่า และอาดิดาส แม้นายกรัฐมนตรีกัมพูชาจะประกาศปกป้องอธิปไตยของประเทศและไม่ยอมตามแรงกดดันจากอียู แต่ผู้นำสหภาพแรงงานบางส่วนยังคงกังวลเรื่องรายได้และอาจทำให้คนงานต้องกู้เงินมาใช้จ่าย แต่สมาคมผู้ประกอบการสิ่งทอกัมพูชาซึ่งมีโรงงานเป็นสมาชิก 600 โรงยังคงมั่นใจว่ายังมีเวลาตามแผนการทบทวนของอียูระยะเวลา 6 เดือน และยังไม่ควรกังวลไปก่อน .- สำนักข่าวไทย