รัสเซีย 14 ก.พ.- เจ้าหน้าที่สืบสวนรัสเซียเผย น้ำแข็งเกาะบนเซนเซอร์จับความเร็วอาจเป็นสาเหตุทำเครื่องบินโดยสารตกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าการสอบสวนสาเหตุการตกของเครื่องบินโดยสาร รุ่น แอนโตนอฟ เอเอ็น – 148 ของสายการบินซาราตอฟ แอร์ไลน์ ใกล้กรุงมอสโกของรัสเซียเมื่อวันอาทิตย์ที่ ทำให้คนบนเครื่อง 71 คนเสียชีวิตยกลำ ทีมสอบสวนของรัสเซียระบุว่าอุปกรณ์ตรวจวัดความเร็วหรือสปีดเซนเซอร์ถูกน้ำแข็งเกาะอาจทำให้เครื่องบินตก และยังพบด้วยว่าขณะตัวสปีดเซนเซอร์ถูกน้ำแข็งเกาะ ระบบทำความร้อนกลับถูกปิด จึงทำให้ระบบอ่านค่าความเร็วของเครื่องบินไม่ถูกต้อง ทำให้ลูกเรือที่ตรวจพบ ได้ปิดระบบการบินอัตโนมัติ หรือออโตไพลอต นำไปสู่การดิ่งลงพื้นโลก แต่ขณะนั้นไม่มีไฟลุกไหม้บนเครื่อง
ด้านสื่อรัสเซียรายงานว่ากัปตันที่มีชั่วโมงบิน 5,000 ชั่วโมง ปฏิเสธการทำละลายน้ำแข็งบนเครื่องก่อนขึ้นบิน แต่กระบวนการนี้เป็นทางเลือก และการตัดสินใจของลูกเรือส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ส่วนการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นจากล่องบันทึกการบินหรือกล่องดำ พบว่าเครื่องบินมีปัญหาหลังการขึ้นบินได้ 2 นาทีครึ่ง หรือขณะบินอยู่ระดับความสูงราว 1,300 เมตร หรือ 4,265 ฟุตเท่านั้น
ข่าวระบุด้วยว่าปัญหาน้ำแข็งเกาะตัวสปีดเซนเซอร์ เคยถูกระบุว่าน่าจะเป็นสาเหตุการตกของเครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ฟรานซ์กลางมหาสมุทรแอตแลนติก ที่มีผู้เสียชีวิตยกลำ 228 คนเมื่อปี 2552 ด้วย ส่วนการค้นหาในพื้นที่เกิดเหตุ พบชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์กว่า 1,400 ชิ้นและซากเครื่องบินกระจัดกระจายหลายร้อยชิ้น เจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวจสอบดีเอ็นเอเพื่อพิสูจน์เอกลักษณ์ผู้โดยสารต่อไป.-สำนักข่าวไทย