บรัสเซลส์ 11 ธ.ค.- นายกรัฐมนตรีเบนยามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลแสดงความคาดหวังว่า ยุโรปจะเดินตามรอยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐเรื่องให้การรับรองเยรูซาเล็มว่าเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล
นายเนทันยาฮูซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีอิสราเอลที่ไปเยือนสหภาพยุโรป (อียู) เป็นคนแรกในรอบ 22 ปีกล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันนี้ยกย่องประธานาธิบดีทรัมป์ที่ประกาศรับรองเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงว่า ทำให้สันติภาพมีโอกาสเป็นจริง เพราะการรับรองความเป็นจริงคือหัวใจและพื้นฐานของสันติภาพ ถึงเวลาที่ปาเลสไตน์จะต้องยอมรับรัฐอิสราเอลและยอมรับว่าเมืองหลวงของอิสราเอลคือเยรูซาเล็ม เขาเชื่อว่าสิ่งนี้จะต้องเกิดขึ้นในอนาคตแม้ยังไม่มีข้อตกลงในเวลานี้ และเชื่อว่าประเทศยุโรปทั้งหมดหรือส่วนใหญ่จะรับรองเยรูซาเล็มว่าเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลเช่นเดียวกันและย้ายสถานทูตจากเทลอาวีฟไปยังเยรูซาเล็ม เพื่อร่วมกับอิสราเอลทำให้เกิดเสถียรภาพ ความรุ่งเรืองและสันติภาพ
ผู้นำอิสราเอลย้ำด้วยว่า ข่าวกรองอิสราเอลได้ช่วยป้องกันการเกิดเหตุร้ายในยุโรปหลายครั้ง นอกจากนี้อิสราเอลยังมีบทบาทด้านความมั่นคงในตะวันออกกลางช่วยยับยั้งการแผ่อิทธิพลของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) และมีส่วนสร้างสรรค์เทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ทางเศรษฐกิจ
ด้านนางเฟเดริกา โมเกรินี หัวหน้านโยบายต่างประเทศอียูกล่าวว่า อียูและอิสราเอลเป็นมิตรและหุ้นส่วนกัน อียูจะยึดมั่นตามมติเอกฉันท์สากลเรื่องเยรูซาเล็ม จะยึดมั่นทางออกเรื่องการตั้งรัฐอิสราเอลและรัฐปาเลสไตน์ โดยเห็นว่าการหาทางออกที่ยั่งยืนเรื่องความขัดแย้งกับปาเลสไตน์คือสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่ออิสราเอล อียูจะเพิ่มความพยายามสร้างสันติภาพและจะเปิดการหารือกับประธานาธิบดีมาห์มุด อับบาสของปาเลสไตน์ในเดือนหน้า ขณะเดียวกันขอประณามผู้ก่อเหตุร้ายกับอิสราเอลและชุมชนชาวยิวทั่วโลกรวมทั้งในยุโรป.-สำนักข่าวไทย