คนร้ายขับรถพุ่งชนผู้คนกลางเมืองบาร์เซโลนา ตาย 13 เจ็บกว่า 100

สเปน 18 ส.ค.-คนร้ายขับรถพุ่งชนผู้คนบนถนนย่านแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในเมืองบาร์เซโลนา สเปน เสียชีวิต 13 ราย บาดเจ็บกว่า 100 คน ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 2 คน


เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงเวลา 17.00 น.วานนี้ตามเวลท้องถิ่น หรือราว 22.00 น.ตามเวลาไทย รถตู้คันหนึ่งพุ่งชนผู้คนกำลังเดินจับจ่ายซื้อสินค้าบนถนนที่มีผู้คนพลุกพล่านที่สุดสายหนึ่งในย่านลาส รัมบลาส ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวในนครบาร์เซโลนา ผู้เห็นเหตุการณ์หลายคนบอกตรงกันว่าคนขับรถคันดังกล่าวเร่งเครื่องพุ่งเข้ามายังย่านเดินเท้าของเมืองด้วยความเร็วกว่า 80 กม./ชม. จากนั้นขับซิกแซกไปมาไล่ชนผู้คนบางส่วนล้มลง บ้างกระเด็นไปตามทางเท้า ขณะที่นักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ที่เห็นเหตุการณ์และอยู่นอกเส้นทางของรถตู้ต่างวิ่งหลบหาที่ปลอดภัยเข้าไปในร้านค้า

หลังรถจอด ผู้ต้องสงสัย 2 คน พร้อมอาวุธครบมือ ลงจากรถตู้แล้ววิ่งหลบหนี หนึ่งในผู้ต้องสงสัยเข้าไปซ่อนตัวในบาร์แห่งหนึ่ง ตำรวจได้กระจายกำลังเร่งล่าตัวผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คนทันที โดยเข้าตรวจค้นร้านอาหาร ร้านค้า และบาร์ในย่านดังกล่าว พร้อมปิดล้อมที่เกิดเหตุ สั่งปิดสถานีรถไฟและสถานีรถไฟใต้ดินใกล้เคียง รวมถึงประกาศให้ผู้คนและนักท่องเที่ยวออกจากบริเวณที่เกิดเหตุ ผู้นำแคว้นกาตาลุนญา ที่ตั้งของนครบาร์เซโลนา ระบุว่ายอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้อยู่ที่อย่างน้อย 13 คน ในจำนวนนี้เป็นหญิงชาวเบลเยียมอย่างน้อย 1 คน มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 100 คน ในจำนวนนี้หลายคนอาการสาหัส


ยืนยันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นการก่อการร้าย ขณะที่ตำรวจเผยในเวลาต่อมาว่าสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุในครั้งนี้ได้แล้ว 2 คน เป็นชาวสเปนกับชาวโมร็อกโก และเผยแพร่ภาพนิ่งของผู้ต้องสงสัยอีกคนคือ นายดริส โออูบาคีร์ ชายชาวโมร็อกโก อายุประมาณ 20 ปี ซึ่งเชื่อว่าเป็นผู้ที่ติดต่อเช่ารถตู้คันดังกล่าวจากบริษัทเช่ารถแห่งหนึ่งในเมืองบาร์เซโลนา เพื่อมาก่อเหตุครั้งนี้

อย่างไรก็ดี ยังไม่มีข้อมูลยืนยันแน่ชัดว่านายโออูบาคีร์เป็น 1 ใน 2 ผู้ต้องสงสัยที่ถูกตำรวจจับกุมได้หรือไม่ ขณะที่มีรายงานว่าคนขับรถตู้คันที่ก่อเหตุยังอยู่ระหว่างหลบหนี นอกจากนี้ตำรวจยังสกัดรถยนต์คันหนึ่งที่ฝ่าด่านจุดตรวจนอกเมืองบาร์เซโลนาหลังเกิดเหตุโจมตี ชนตำรวจ 2 นาย ได้รับบาดเจ็บ ก่อนถูกตำรวจยิงสกัดในย่านแซงต์ จุส เดสเวิร์น ไม่ไกลจากนครบาร์เซโลนา พบคนขับเสียชีวิตอยู่ในรถยนต์ ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงกับคนร้าย 2 คนที่ถูกจับกุมในเหตุขับรถตู้พุ่งชนผู้คน

ด้านสำนักข่าวอามัค ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของกลุ่มก่อการร้ายเครือข่ายรัฐอิสลาม (ไอเอส) ประกาศผ่านเครือข่ายข้อความเทเลแกรม อ้างเพียงว่านักรบที่ก่อเหตุโจมตีในนครบาร์เซโลนาครั้งนี้คือทหารของพวกเขา เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงสเปนยังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าคำกล่าวอ้างดังกล่าวเป็นความจริงหรือไม่ ส่วนบรรดาผู้นำโลกทั้งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ของอังกฤษ ต่างออกมาประณามเหตุโจมตีดังกล่าว และทั้งหมดจะอยู่เคียงข้างสเปน เพื่อทำสงครามปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง