ลอสแอนเจลิส 8 ม.ค.- ไฟป่าที่เกิดขึ้นในมหานครลอสแอนเจลิสหรือแอลเอ (LA) รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐกำลังไหม้ลามอย่างรวดเร็ว เผาบ้านเรือนและทำให้การจราจรติดขัดเนื่องจากประชาชน 30,000 คนเร่งอพยพออกจากพื้นที่ เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า ไฟป่าแปซิฟิก พาลิเซดส์ (Pacific Palisades) เผาไหม้พื้นที่ในเขตแปซิฟิก พาลิเซดส์ ซึ่งอยู่ระหว่างเมืองซานตาโมนิกากับเมืองมาลิบูที่เป็นชุมชนริมชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกไปแล้วกว่า 7,300 ไร่ ทำให้พื้นที่ในเขตเมืองถูกปกคลุมไปด้วยกลุ่มควันขนาดใหญ่ ประชาชน 30,000 คนต้องอพยพ จนเกิดปัญหาการจราจรติดขัดบนทางหลวง หลายคนจึงต้องใช้วิธีเดินเท้าออกไปยังที่ปลอดภัย ขณะนี้ยังไม่สามารถควบคุมไฟป่าได้เนื่องจากมีกระแสลมแรง ประกอบกับสภาพอากาศที่แห้งแล้งทำให้ไฟป่าลุกลามอย่างรวดเร็ว หัวหน้าหน่วยดับเพลิงแอลเอเตือนว่า สถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายลงอีก และมีความเป็นไปได้ที่ประชาชนจะต้องอพยพเพิ่มขึ้น โดยมีประชาชนกว่า 25,000 คน ในบ้านเรือน 10,000 หลังที่ตกอยู่ในความเสี่ยง สถานที่สำคัญอย่างเก็ตตีวิลลา ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงงานศิลปะล้ำค่า ได้ตกอยู่ในวงล้อมของไฟป่าด้วยเช่นกัน แต่ทรัพย์สินทุกอย่างยังปลอดภัยดีเพราะมีการป้องกันด้วยการตัดทางไฟเอาไว้โดยรอบ และมีการเตรียมน้ำเอาไว้พร้อมสำหรับการดับไฟ ทางพิพิธภัณฑ์ต้องปิดให้บริการไปจนถึงวันที่ 13 มกราคมเป็นอย่างน้อย ด้านนายเกวิน นิวซอม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า รถดับเพลิง เครื่องบิน จากที่อื่นๆ ในเซาท์เทิร์นแคลิฟอร์เนีย เนื่องจากสถานการณ์ไฟป่าในขณะนี้ยังเป็นอันตรายและมีโอกาสลุกลามขยายวงกว้างออกไปอีก.-816(814).-สำนักข่าวไทย