บูดาเปสต์ 11 เม.ย.- ประธานาธิบดียาโนช อาแดร์ของฮังการีลงนามกฎหมายมหาวิทยาลัยต่างชาติที่ทำให้ชาวฮังการีชุมนุมประท้วงใหญ่เมื่อวันอาทิตย์ เพราะอาจทำให้มหาวิทยาลัยของนายจอร์จ โซรอส พ่อมดการเงินชาวอเมริกันเชื้อสายฮังการีต้องปิดตัว
ประธานาธิบดีอาแดร์ พันธมิตรทางการเมืองของนายกรัฐมนตรีวิคเตอร์ ออร์บานกล่าวกับสำนักข่าวเอ็มทีไอของทางการว่า กฎหมายนี้ไม่ได้ละเมิดเสรีภาพทางวิชาการหรือกฎหมายสากล ขอให้รัฐบาลเร่งทำความเข้าใจกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เพื่อให้สิ่งดีงามที่มหาวิทยาลัยต่างชาติในฮังการีได้สร้างสมไว้เดินหน้าต่อไปและเพื่อไม่ให้งานทางวิชาการต้องสะดุด
ชาวฮังการีหลายหมื่นคนชุมนุมประท้วงใหญ่ในรอบหลายปีเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ประณามกฎหมายของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีออร์บานว่ามุ่งเป้าไปที่มหาวิทยาลัยเซ็นทรัลยูโรเปียน (ซีอียู) ที่นายโซรอสตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2534 เพื่อรณรงค์เรื่องการมีสังคมเปิดกว้างและเสรี หลังจากระบอบคอมมิวนิสต์ล่มสลาย เนื่องจากนายโซรอสมักแสดงความเห็นขัดแย้งกับนายกรัฐมนตรีออร์บานที่มองว่าวัฒนธรรมยุโรปกำลังถูกคุกคามจากคนเข้าเมือง ผู้ประท้วงเคลื่อนขบวนไปหน้าที่ทำการวิทยุของรัฐเมื่อคืนวานนี้ ปักธงสหภาพยุโรป (อียู) หน้าอาคารและเผชิญหน้ากับตำรวจที่ใช้สเปรย์พริกไทย เหตุการณ์เพิ่งยุติไปเมื่อเวลา 07.20 น.วันนี้ตามเวลาในไทย
ซีอียูแถลงว่า พร้อมเจรจากับรัฐบาลเพื่อให้สามารถเปิดการเรียนการสอนได้ต่อไป แต่จะไม่ยอมเจรจาเรื่องเสรีภาพทางวิชาการ นายกรัฐมนตรีออร์บานซึ่งบริหารประเทศมา 7 ปีและจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในปีหน้าแถลงต่อรัฐสภาเมื่อวันจันทร์ว่า ขณะนี้มีความพยายามเผยแพร่ข้อมูลให้ร้ายฮังการีในลักษณะเดียวกับที่สมาชิกในอียูวิพากษ์วิจารณ์ฮังการีเรื่องใช้มาตรการแข็งกร้าวกับผู้อพยพและคนเข้าเมือง กฎหมายนี้ต้องการสร้างหลักประกันว่ามหาวิทยาลัยทุกแห่งในฮังการีอยู่ภายใต้ระเบียบเดียวกันด้วยการกำหนดให้มหาวิทยาลัยต่างชาติในกรุงบูดาเปสต์ต้องมีวิทยาลัยในประเทศบ้านเกิดด้วย ซีอียูเป็นมหาวิทยาลัยต่างชาติในฮังการีแห่งเดียวที่ไม่มีวิทยาเขตในประเทศบ้านเกิด โดยอ้างว่าได้ขึ้นทะเบียนทั้งในสหรัฐและฮังการี.-สำนักข่าวไทย