เชียงใหม่ 26 พ.ค. -วันนี้เป็นวันที่ 3 แล้วที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในเมืองเชียงใหม่ ต้องเผชิญกับฝูงกิ้งกือตะเข็บที่ไต่ยั้วเยี้ยรอบบ้าน สร้างความหวาดกลัวและความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านที่นั่น ซึ่งทำทุกวิธีเพื่อกำจัดแต่ยังมีเพิ่มเติมมาเรื่อยๆ ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากหลายปัจจัย แต่ไม่เป็นอันตรายต่อคนหรือพืช อาจจะสร้างความรำคาญบ้าง พร้อมแนะวิธีแก้ไข
ชาวบ้านในหมู่บ้านป่าข่อยเหนือ ตำบลสันผีเสื้อ ในอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ยังรู้สึกหวาดกลัวและเดือดร้อนกับฝูงกิ้งกือตะเข็บจำนวนมากที่ไต่ยั้วเยี้ยอยู่ตามบ้านเกือบ 50 หลัง มา 3 วันแล้ว หลายคนกวาดทิ้งวันเป็นสิบรอบ บ้างก็ใช้มือบี้ตัวที่เข้ามาในบ้าน แต่พบว่ามีกลิ่นเหม็น เคยเอาไก่มาปล่อยเพื่อให้จิกแต่ไก่ไม่ยอมกิน บางคนซื้อผงแป้งกำจัดเห็บมาโรย หรือใช้ยาฆ่าแมลงและคลอรีนมาฉีดพ่น ทำให้กิ้งกือตะเข็บตายไปบ้าง แต่ไม่นานจะโผล่ขึ้นมาไต่ยั้วเยี้ยชวนขนลุกเหมือนเดิม ล่าสุด อสม.บ้านป่าข่อยเหนือ ระดมกำลังกันฉีดพ่นสารเคมีเพื่อช่วยบรรเทาปัญหาไปได้บ้าง แต่ยังพบกิ้งกือตะเข็บโผล่มาเรื่อยๆ
ผู้เชี่ยวชาญด้านแมลง ภาควิชากีฏวิทยาและโรคพืช คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระบุว่าเป็นฝูงกิ้งกือตะเข็บ 3 สี กลุ่มสัตว์ขาปล้อง ซึ่งพบมากถึง 195 สายพันธุ์ในไทย ไม่กัดหรือทำอันตรายมนุษย์ บางสายพันธุ์ปล่อยสารป้องกันตัวที่มีสารประกอบไซยาไนด์ได้ แต่ไม่อันตรายนอกจากคนที่มีอาการแพ้เท่านั้น ปรากฏการณ์ฝูงกิ้งกือตะเข็บเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งความชื้นและอาหาร ทำให้ตัวเต็มวัยขึ้นมาผสมพันธุ์บนผิวดิน ใช้เวลาราว 2สัปดาห์ก็จะหายไปตามวงจรชีวิต
ทั่วโลกมีรายงานการระบาดของกิ้งกือตะเข็บ ทั้งในญี่ปุ่นจนกระทบต่อรางรถไฟหรืออีกหลายประเทศในยุโรป รวมทั้งไทยที่พบการระบาดครั้งแรกเมื่อ 58 ปีก่อน ซึ่งพบอีกหลายครั้งทั่วประเทศ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า สามารถใช้สารเคมีในกลุ่มคาร์บาริล หรือ ฟิโปรนิล ในสัดส่วนที่ปลอดภัย หรือใช้วิธีง่ายๆ ด้วยการสร้างแหล่งความชื้นให้ฝูงกิ้งกือตะเข็บอยู่ห่างจากบ้าน
ผู้เชี่ยวชาญทิ้งท้ายว่า จริงๆ แล้วกิ้งกือตะเข็บช่วยย่อยสลายใบไม้และอินทรีย์วัตถุในดิน เป็นอาหารของสัตว์บางชนิด แม้จะดูน่ากลัวน่าขยะแขยงไปบ้าง แต่ยังมีประโยชน์ต่อระบบนิเวศ. – สำนักข่าวไทย