รัฐสภา 23 พ.ค.-“คุณหญิงหมอพรทิพย์” รับแยกกันตามคดี “แตงโม” กับ “อัจฉริยะ” ยึดหลักนิติวิทยาศาสตร์ ปชช.ได้รับความเป็นธรรม ติดใจเรื่องแผลก้างปลา ชี้คราบเลือดพิสูจน์ได้
พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค สมาชิกวุฒิสภา และอดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมยื่นหนังสือต่อกรรมาธิการฯ และพูดคุยส่วนตัวประมาณ 5 นาที ว่า เป็นครั้งแรกที่ตนได้เจอกับนายอัจฉริยะ ซึ่งวันนี้มายื่นในมุมของกมธ.สิทธิมนุษยชน วุฒิสภา ที่พยายามทำหน้าที่ช่วยประชาชน ซึ่งได้พูดคุยและแนะนำเพื่อให้เกิดความแน่นหนาทางวิทยาศาสตร์
เมื่อถามว่ามองสถานการณ์อย่างไร เพราะเหมือนเรื่องจะบานปลาย พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า มองว่าไม่ได้บานปลาย แต่เป็นสิ่งที่อยู่ภายใต้ภูเขาน้ำแข็ง เป็นปัญหาที่หมักหมมมานาน ไม่มีใครกล้าทำ หากมีใครกล้าทำจะถูกคุ้ยแคะสารพัด เพราะก่อนนายอัจฉริยะจะทำ ตนได้ทำมาแล้ว
“แต่เมื่อมีบทบาทเป็นส.ว. เราทำไม่ได้ เราจึงแยกกันทำหน้าที่ แต่มีวัตถุประสงค์เดียวกันคือประชาชนได้รับความยุติธรรม และกระบวนการยุติธรรมโปร่งใส ดังนั้น คนที่สนับสนุนหรือติดตาม อยากให้นิ่ง ๆ แต่ถ้ามีข้อมูล ส่งให้นายอัจฉริยะหรือกมธ.ได้ ขออย่ามองว่าเป็นการทำให้ยุ่ง” พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าว
พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ในส่วนของคราบเลือด อยู่ในส่วนของวิทยาศาสตร์ ซึ่งสามารถตรวจหาได้ แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานขนาดไหน หากมีอยู่จริง ตนและนายอัจฉริยะแยกกันทำงาน ยืนยันว่าตนทำงานด้วยวิทยาศาสตร์ ด้วยหน้าที่ที่เป็นกรรมการ เป็นที่ปรึกษา ได้เห็นแผลถลอกก้างปลา บอกได้ว่าสิ่งหนึ่งที่จะนำไปสู่กุญแจตัวหนึ่ง แต่เวลานั้นพูดไม่ได้เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทำงาน จะผิดจริยธรรมของส.ว. แต่เมื่อตำรวจทำงานเสร็จแล้ว เราพูดคุยได้ เมื่อมีผู้มาถาม
“สำหรับความสนใจในแผลก้างปลา เพราะเป็นแผลวิทยาศาสตร์ที่บอกจุดตก ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านเรือและอื่น ๆ ยืนยันตรงกันหมดว่าจุดตกคือหัวเรือ เมื่อจุดตกไม่ตรงกับคำให้การ เราต้องฟังวิทยาศาสตร์ แต่จะทำอะไรได้หรือไม่ ดิฉันไม่ทราบ ซึ่งแผลดังกล่าวนี้เป็นแผลถลอกตื้น ขนานกันที่ต้นขา ด้านหลังและที่น่องด้านหลังตั้งแต่บนลงล่าง เฉียงจากนอกเข้าในสม่ำเสมอ นั่นแปลว่าไม่ใช่มนุษย์ทำ สิ่งที่เป็นไปได้คือ ถูกใบพัดเรือ และใบพัดที่จะพัดตรงขนาดนี้ กระแสน้ำต้องพาร่างตรง ๆ ผ่านใบพัด ต้องไปดูว่าส่วนไหนที่กระแสน้ำจะตรง และอีกส่วนหนึ่งที่แผลไม่ลึก เพราะฟินเรือบังจึงกดร่างไม่ให้โดนใบพัดไม่ให้บาดลึก” พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย