“อัจฉริยะ” ร้องแพทยสภา ตรวจสอบแพทย์นิติเวชคดีแตงโม

แพทยสภา 28 เม.ย. –  “อัจฉริยะ” ร้องแพทยสภา ตรวจสอบทีมแพทย์นิติเวช เปิดเอกสารที่ทำคดีแตงโม ส่อผิดจริยธรรม จากบาดแผลทยอยเพิ่ม 11 แผล มาเป็น 26 แผล และยังอ้างบาดแผลจากสื่อต่างประเทศว่าเข้ากันได้กับใบพัดเรือ ทั้งที่เดอะซันออกมาระบุแผลจากมีด พรุ่งนี้ (29 เม.ย.) ไปร้องดีเอสไอให้เป็นคดีพิเศษ


นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้ายื่นหนังสือต่อแพทยสภา ขอกล่าวโทษแพทย์นิติเวชทุกคนที่ให้ความเห็นและเป็นพยานในคดี น.ส.ภัทรธิดา พัชระวีระพงษ์ หรือแตงโม ที่ให้ความเห็นทางวิชาการ ที่ไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการนิติเวช เป็นผู้ประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม โดยหวังให้นายกแพทยสภา และเลขาธิการแพทยสภา เรียกเอกสารรายงานการชันสูตรมาตรวจสอบ เนื่องจากบาดแผลที่ระบุตอนแรกของการผ่าชันสูตรกับเมื่อครั้งแถลงข่าวค่อยๆ ปรากฏเพิ่มขึ้นจากการผ่าชันสูตร และแถลงข่าว รวม 4 ครั้ง จาก 11 แผล ผ่าครั้งที่ 2 เป็น 22 แผล และเพิ่มมาครั้งสุดท้ายอีก 26 แผล ไม่รู้ว่าแผลค่อยๆ เพิ่มมาได้อย่างไร ซึ่งเป็นบาดแผลก้างปลา และอ้างตามคำให้การของแซน ว่า แตงโมตกเรือทางกราบซ้ายของเหรือ แต่บาดแผลที่เกิดขึ้นที่โคนขาขวา เป็นไปไม่ได้เลยที่จะพบแผล เพราะหมายความว่าต้องคร่อมมอเตอร์เรือ และยังนำภาพบาดแผลจากต่างประเทศ อ้างว่าเข้ากันได้กับบาดแผลของแตงโม มาสรุปว่าเป็นบาดแผลที่เกิดจากใบพัดเรือ แต่ภาพดังกล่าว ทางหนังสือพิมพ์เดอะซัน ออกมาระบุแล้วว่า ที่แท้เป็นบาดแผลที่เกิดจากมีดของคม ซึ่งเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าแพทย์นิติเวชที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้ มีความผิดทางจริยธรรมวิชาชีพเวชกรรม เพราะได้ให้การกับพนักงานสอบสวน จึงต้องการให้แพทยสภาตรวจสอบและหาตัวแพทย์นิติเวชคนดังกล่าว เพราะมาจาก 4 สถาบัน

นอกจากนี้ยังระบุมีหลักฐานใหม่ที่ยังไม่เปิดเผย คือการที่แตงโมกำทรายไว้ในมือ อาจสะท้อนเชื่อมโยง แตงโมต้องการสื่อถึงคดี เจ้าหน้าที่ไม่มีการตรวจสอบทรายที่พบว่าตรงกับในแม่น้ำเจ้าพระยาหรือไม่ หรือตรงกับทรายที่จุดอื่น หรือ อาจสื่อถึงใครในคดี


นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า ยังติดใจกรณีที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 กล้านำข้อมูลอันเป็นเท็จมาแหกตาประชาชน ทั้งเรื่องแซน นั่งท้ายเรือ การเจอวัตถุพยานเส้นผมของแตงโมในครั้งที่ 4 ทั้งที่ตรวจมาหลายครั้ง และทำไมต้องเจอแค่เส้นผมของแตงโมคนเดียว ทั้งที่คนนั่งในเรือมีถึง 6 คน ทั้งนี้ตนเองเตรียมเข้าพบกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อร้องขอให้รับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ เพราะส่อไปในทางฆาตกรรมอำพราง ในวันพรุ่งนี้ เวลา 13.00 น. เนื่องจากสังคมเกิดข้อกังขาในการทำคดี อีกทั้งคดีแซน ตำรวจ สภ.นนทบุรี กลับไม่ออกเลขคดี เป็นเรื่องสำคัญมาก มีความเชื่อมโยงพลิกคดีแตงโม เพราะขณะนี้ตนมีพยานมากกว่า 7 ปาก แต่แซนกลับบ่ายเบี่ยงทำให้ไม่สามารถสอบพยานได้ ย้ำสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นไปตามการสืบสวนสอบสวน จะผิด ม.157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และ184 กรณีเอื้อประโยชน์ช่วยผู้ต้องหาพ้นผิดและรับโทษน้อยลง และไม่กลัวว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงานเพราะใช้สิทธิโดยสุจริต.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

5ตัวประกันถึงไทย

5 ตัวประกันถึงไทยแล้ว ปล่อยโฮโผกอดครอบครัว

5 ตัวประกันถึงไทยแล้ว ปล่อยโฮโผเข้ากอดครอบครัวด้วยความดีใจ “ทูตอิสราเอล” ก็มาส่งด้วย น้ำตาคลอคุยครอบครัวตัวประกัน “มาริษ” สัญญาจะนำอีก 1 คน และ 2 ร่างผู้เสียชีวิตที่เหลือกลับมาให้ได้ ด้าน 1 ในตัวประกัน พูดไม่ออก ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ทำให้ได้กลับแผ่นดินแม่

ไทยตอนบนอุณหภูมิลด 1-3 องศาฯ อีสานอากาศเย็นถึงหนาว

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนอุณหภูมิลดลง 1-3 องศาฯ กับมีลมแรง อีสานอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคเหนือ กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อากาศเย็นตอนเช้า ส่วนภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ทำแผนชิงทอง

คุมทำแผนโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท

คุมตัวทำแผน โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ในห้างฯ ย่านลำลูกกา สารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน และซื้ออุปกรณ์หลอมทองเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่