ออกหมายจับมือยิงกลางตลาดสดภูเก็ต ดับ 2 เจ็บ 3

ภูเก็ต 7 ม.ค. – สามีแม่ค้ากุ้งในตลาดเกษตรภูเก็ต กราดยิงยกครัวเพื่อนร่วมแผง เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 3 ราย ก่อนเผ่นหนี สาเหตุจากแย่งลูกค้า ล่าสุดศาลอนุมัติหมายจับแล้ว


เกิดเหตุสลดที่ จ.ภูเก็ต เมื่อตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต รับแจ้งเหตุใช้อาวุธปืนยิงกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง เหตุเกิดบริเวณแผงขายอาหารทะเลสด ตลาดสดเทศบาลนครภูเก็ต 2 (ตลาดเกษตร) ฝั่งติดกับห้างโรบินสันภูเก็ต มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 5 ราย โดยมีอาการสาหัส 2 ราย บาดเจ็บตามร่างกาย 3 ราย จากนั้นได้รายงานตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต นำกำลังชุดสืบสวน-พิสูจน์หลักฐานภูเก็ต และหน่วยกู้ชีพมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต รุดไปตรวจสอบและให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าแผงขายกุ้งทะเลและอาหารทะเลสด ด้านข้างห้องน้ำของตลาดดังกล่าว พบประชาชนมุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก ขณะเดียวกันที่พื้นพบผู้บาดเจ็บสาหัส 2 ราย เป็นชาย 1 ราย และหญิง 1 ราย นอนจมกองเลือดหายใจรวยริน ทีมกู้ชีพฯ เข้าช่วยเหลือปั๊มหัวใจอย่างเร่งด่วน ก่อนลำเลียงนำส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต


นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 3 ราย เป็นชาย 2 ราย และหญิง 1 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต คือ
นายศรายุธ อายุ 57 ปี บาดเจ็บสาหัส, นางอาพร อายุ 52 ปี, นายเกรียงไกร อายุ 56 ปี และนายพรชัย บาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนอีกคนคือ นางต้อย เป็นภรรยาของนายเกรียงไกร ทั้งหมดเป็นคนครอบครัวเดียวกัน

เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ พบหัวกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 2 หัว ตกอยู่ที่พื้นถนน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุทราบว่าเป็นชายฉกรรจ์ อายุระหว่าง 40-45 ปี แต่งกายใส่เสื้อยืดสีดำ นุ่งกางเกงขาสั้นไม่ทราบสี หลังก่อเหตุได้ขับรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีดำ ทะเบียน กอ 1631 ภูเก็ต หลบหนีไป

ตรวจสอบผู้ครอบครองรถคันดังกล่าวคือ นายมณีนพ อายุ 49 ปี อาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นสามีของแม่ค้าขายกุ้งใกล้จุดเกิดเหตุ ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการติดตามตัวนายมณีนพมาสอบสวนข้อเท็จจริง


จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ พ่อค้าและแม่ค้าขายกุ้งบริเวณที่เกิดเหตุมีเปิดขายปกติ และเกิดมีปากเสียงกันขึ้นเกี่ยวกับลูกค้า จากนั้นคนร้ายที่ยืนฟังพ่อค้าแม่ค้าเถียงกันได้เดินออกจากบริเวณแผงกุ้งไป และกลับมาอีกครั้งพร้อมกับชักปืนกราดยิงพ่อค้าแม่ค้าแผงใกล้กันดังกล่าว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 รายดังกล่าว โดยทั้งหมดเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ล่าสุดทราบว่าในจำนวนดังกล่าวมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย ตำรวจอยู่ระหว่างการติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป

ญาติของผู้ถูกยิงกล่าวด้วยน้ำเสียงโมโหว่า ผู้ก่อเหตุกับผู้ถูกยิงนั้นรู้จักกัน เพราะขายของติดกัน ที่ผ่านมามีปากเสียงกันอยู่เป็นประจำ โดยผู้ก่อเหตุมักคิดว่าตัวเองเป็นใหญ่ เพราะมีเงิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คนที่เสียชีวิตคือ นายศรายุธ และนางต้อย โดยไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ล่าสุดตำรวจขอศาลออกหมายจับมือยิงแล้ว แจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่มีเหตุอันควร หรือมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ และยิงปืนในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร.-สำนักข่าวไทย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

หมายจับแก๊งไทใหญ่

ออกหมายจับ 2 คนร้ายแก๊งไทใหญ่ 999 ยกพวกไล่ฟันเพื่อนร่วมชาติ

ออกหมายจับ 2 คนร้ายแก๊งไทใหญ่ 999 ยกพวกบุกใช้มีดไล่ฟันเพื่อนร่วมชาติย่านประชาสงเคราะห์ เร่งตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

การประชุมเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่เริ่มแล้ว

การประชุมลับเพื่อเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่ ที่จะเป็นพระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ที่นครรัฐวาติกัน ได้เริ่มขึ้นต้นแล้วในวันนี้

ระอุอีกครั้ง KNLA ร่วม KNDO โจมตีทหารเมียนมา

ชายแดนไทย-เมียนมา ด้านตรงข้าม จ.ตาก กลับมาระอุอีกครั้ง กองกำลัง KNLA ร่วมกองกำลัง KNDO โจมตีทหารเมียนมา ฐานเรปะนาดิ ผู้อพยพทะลักข้ามฝั่งเข้าไทยกว่า 100 คน