อสมท โชว์ผลงานไตรมาส 3 ปี 2564 มีรายได้ 392 ล้านบาท

กรุงเทพฯ 10 พ.ย.- อสมท โชว์ผลงานไตรมาส 3 ปี 2564  มีรายได้ 392 ล้านบาทธุรกิจโทรทัศน์และธุรกิจวิทยุ ยังเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้ เดินหน้าเร่งสร้างรายได้จากธุรกิจดิจิทัลและธุรกิจใหม่พัฒนาต่อยอดสินทรัพย์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ควบคู่การบริหารค่าใช้จ่ายต่อเนื่องเพื่อสร้างผลกำไรอย่างยั่งยืน 


รศ.เกษมศานต์  โชติชาครพันธุ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่  บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า “บมจ.อสมท รายงานงบการเงินไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2564 ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2564 มีกำไรต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน เป็นกำไรสำหรับงวด 3 เดือน (ก.ค. – ก.ย. 2564) จำนวน 21 ล้านบาท และกำไรสำหรับงวด 9 เดือน (ม.ค. – ก.ย. 2564) มีกำไรสุทธิ 100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากช่วงเดียวกันของปี 2563 (ขาดทุนสุทธิ 372 ล้านบาท) เป็นผลจากความสามารถในการหารายได้ที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจโทรทัศน์ และธุรกิจดิจิทัลและ   ธุรกิจใหม่ ที่มีการปรับปรุงการบริหารต้นทุน มุ่งเน้นการบริหารค่าใช้จ่ายด้าน Content โดยร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำ ทำให้โครงสร้างค่าใช้จ่ายเปลี่ยนแปลงและเห็นผลในปี 2564 จากค่าใช้จ่ายที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ”

รศ.เกษมศานต์ กล่าวต่อไปว่า “สำหรับธุรกิจการให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิตอล นั้น ล่าสุดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา  โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้รับอนุญาตจาก สำนักงาน กสทช. ให้ดำเนินโครงการทดลองส่งสัญญาณโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล เพื่อส่งเสริมยุทธศาสตร์ประเทศด้านการท่องเที่ยวและกีฬา ภายใต้ชื่อ  “ช่อง T Sports 7 ช่องหมายเลข 7” โดยออกอากาศผ่านโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลของ บมจ. อสมท แบบความคมชัดปกติ (Standard Definition) เป็นระยะเวลา 6 เดือน (เริ่ม ก.ค. 2564 –  ม.ค. 2565) และเริ่มสะท้อนรายได้เข้ามาในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นจากเดิม และเสริมความมั่นคงด้านรายได้จากธุรกิจการให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิตอลของ 


ทั้งนี้ บมจ.อสมท ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการโครงข่ายฯ จำนวน 4 ช่องรายการ ซึ่งเป็นช่องรายการโทรทัศน์ดิจิตอลแบบความคมชัดสูง (High Definition)  จำนวน 2 ช่องรายการ ได้แก่ ไทยรัฐทีวี ช่องหมายเลข 32 ดำเนินการโดย บริษัท ทริปเปิ้ลวี บรอดคาสท์ จำกัด และ MCOT HD  ช่องหมายเลข 30 ดำเนินการโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และ ช่องรายการโทรทัศน์ดิจิตอลแบบความคมชัดปกติ (Standard Definition) จำนวน 2 ช่องรายการ คือ สถานีโทรทัศน์รัฐสภาช่องหมายเลข 10 ดำเนินการโดยสำนักงานเลขานุการสภาผู้แทนราษฎร และล่าสุดคือช่อง T Sports 7 ช่องหมายเลข 7  มั่นใจว่าด้วยศักยภาพความพร้อมด้านเทคโนโลยีและบุคลากรของ บมจ.อสมท จะพร้อมสนับสนุนการออกอากาศของ ช่อง T Sports 7 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย บมจ.อสมท ได้เตรียมความพร้อมในการร่วมประมูลคลื่นวิทยุตามที่สำนักงาน กสทช.ประกาศว่าจะมีขึ้นในช่วงต้นปี 2565 ซึ่งธุรกิจวิทยุ ถือเป็นธุรกิจที่แข็งแกร่งและสร้างรายได้ให้กับบมจ.อสมท เป็นอย่างมาก โดยพร้อมเข้าสู่กระบวนการประมูลใบอนุญาตประกอบกิจการวิทยุฯตาม Roadmap ของสำนักงาน กสทช.”  

รศ.เกษมศานต์  กก.ผอ.ใหญ่ บมจ.อสมท กล่าวเพิ่มเติมว่า “บมจ.อสมท ให้ความสำคัญกับการสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจเดิม โดยมุ่งพัฒนาเนื้อหารายการให้ตอบสนองความต้องการของผู้ชม  ผู้ฟังมากขึ้น  พร้อมปรับปรุงการนำเสนอรายการข่าว เพื่อช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงให้กับสังคม  ยึดหลัก “เป็นผู้นำเสนอเนื้อหาที่น่าเชื่อถือ เที่ยงตรง และรวดเร็ว” และเพิ่มเนื้อหาความบันเทิงที่สร้างสรรค์พร้อมร่วมพันธมิตรมุ่งสู่  “สื่อที่ดีของสังคม  ที่มีส่วนร่วมสร้างสังคมที่ดี”  เดินหน้าสร้างแหล่งรายได้จาก ธุรกิจดิจิทัลและธุรกิจใหม่  พัฒนาการใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทั้งหมดให้เกิดประโยชน์สูงสุด สร้างผลกำไรอย่างยั่งยืน” รศ.เกษมศานต์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

ทำแผนชิงทอง

คุมทำแผนโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท

คุมตัวทำแผน โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ในห้างฯ ย่านลำลูกกา สารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน และซื้ออุปกรณ์หลอมทองเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่

จับเรือประมงเมียนมา

จับเรือประมงเมียนมา รุกล้ำน่านน้ำไทย

ศรชล.ภาค 3 จับกุมเรือประมงเมียนมาพร้อมลูกเรือ 13 คน ขณะลักลอบนำเรือประมงจอดลอยลำในทะเลอาณาเขตของไทย บริเวณ จ.ระนอง ใกล้เกาะค้างคาว