ศาลปกครอง 2 เม.ย.-ศาลปกครองกลาง พิพากษาเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ให้ “ยิ่งลักษณ์” ชดใช้ค่าเสียหาย 3.5 หมื่นล้าน จากกรณีการทุจริตโครงการระบายข้าวและจำนำข้าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(2เม.ย.) ศาลปกครองกลางออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 135/2559 ลงวันที่ 13 ต.ค. 2559 ที่ให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวและเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ เป็นเงิน 35,000 ล้านบาท ในคดีที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี ร่วมกันยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ,รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ,ปลัดกระทรวงการคลัง ,สำนักนายกรัฐมนตรี ,กระทรวงคลัง ,กรมบังคับคดี ,อธิบดีกรมบังคับคดี และเจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีแพ่ง ,กรุงเทพมหานคร รวม 9 คน กรณีที่ร่วมกันมีคำสั่งดังกล่าวโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยศาลให้เหตุผลว่า เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะการทุจริตเกิดขึ้นในเจ้าหน้าที่ระดับปฎิบัติ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่หลายคนเกี่ยวข้อง แต่การสอบสวนของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดกลับมิได้มีการดำเนินสอบสวนให้ได้ว่าเจ้าหน้าที่คนใดควรต้องรับผิดเป็นจำนวนเท่าใดจากการทุจริต อีกทั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ในฐานะนายกรัฐมนตรี รับรู้เกี่ยวข้องเฉพาะขั้นตอนการทำเอ็มโอยู เพื่อให้มีการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ แต่ในส่วนการทำสัญญาระบายข้าวไม่ได้เกี่ยวข้อง อีกทั้งกระทรวงการคลังก็รับว่า ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นผู้กระทำให้เกิดความเสียหายโดยตรง และขั้นตอนการตรวจสอบของคณะกรรมการสอบสวนความรับผิดทางละเมิดก็ไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด
ด้านนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผลการพิพากษาในวันนี้เป็นคุณกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ส่วนหากกระทรวงการคลังยื่นอุทธรณ์จะดำเนินการต่อไปอย่างไร เราต้องเตรียมความพร้อม เพราะว่าเป็นเพียงคำพิพากษาของศาลปกครอง แต่สิ่งที่สำคัญจากคำพิพากษาในวันนี้ นอกจากการเพิกถอนคำสั่งที่ให้ชดใช้เงิน ยึดและอายัดเงินแล้วนั้น คือ ในคำพิพากษา ระบุ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่มีส่วนในการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ทั้งนี้จะนำคำพิพากษาศึกษาอย่างละเอียดเพื่อการต่อสู้ครั้งต่อไป.-สำนักข่าวไทย