นายกฯ มอบผู้ว่าฯ กำหนดพื้นที่ควบคุมโรค

ทำเนียบฯ 24 ธ.ค.- นายกรัฐมนตรี ยันสถานการณ์โควิด 19 ในไทยรับมือได้ ถ้าทุกคนร่วมมือ ยังไม่ล็อกดาวน์ประเทศ แต่มอบผู้ว่าฯ – สสจ.จังหวัด กำหนดโซนควบคุมโรคตามการแพร่ระบาด ไม่แบ่งเป็นสีพื้นที่ น้อมรับคำติไม่โทษใคร เตรียมขอมติ ครม.ลงทะเบียนแรงงานต่างด้าวชั่วคราว


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแถลงภายหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ว่า จากนี้จะเป็นการยกระดับการทำงานของ ศบค.ให้เข้มข้นขึ้น และจะมีการแถลงข่าวชี้แจงสรุปสถานการณ์ข้อเท็จจริงทุกวัน เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนของข้อมูล โดย นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. ซึ่งข้อมูลที่จะสื่อสารกับประชาชน มีทั้งที่ออกจาก ศบค.และจากสื่อมวลชนที่ไปติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ ดังนั้นจึงขอความร่วมมือสื่อมวชนให้ใช้ข้อมูลจาก ศบค.เป็นหลัก เพื่อให้เกิดการสื่อสารไปในทิศทางเดียวกัน ประชาชนได้ประโยชน์นำไปใช้ ส่วนข้อเสนอใดเพิ่มเติมก็ให้ส่งมายังรัฐบาลได้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ศบค.ได้กำหนดโซนพื้นที่แบ่งเป็นตามความรุนแรงของสถานการณ์การแพร่ระบาด ซึ่งจะมีการกำหนดเป็นจุด ไม่ใช่เหมารวมทั้งจังหวัด แต่จัดเป็นพื้นที่เฝ้าระวังสูงสุด มอบอำนาจให้ผู้ว่าฯ และ สสจ.จังหวัด พิจารณากำหนดโซนพื้นที่เนื่องจากรัฐบาลให้อำนาจผู้ว่าฯ ไปแล้ว ไม่ได้เป็นการโยนความรับผิดชอบของจังหวัด แต่เป็นการมอบอำนาจให้ตัดสินใจ ขณะที่มาตรการหลักจะออกโดย ศบค. ซึ่งทุกจังหวัดต้องปฎิบัติตาม การกำหนดพื้นที่จะไม่มีการแบ่งกำหนดเป็นสี แต่จะแบ่งตามระดับความเสี่ยง


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยอมรับว่ากังวลการจัดกิจกรรมที่ไม่รู้ที่มาของผู้ร่วมงาน จึงต้องกำหนดขอบเขตการจัดกิจกรรม งานสาธารณะ ให้ชัดเจนโดยเฉพาะต้องรู้ที่มาของผู้ร่วมกิจกรรมทั้งหมด ซึ่งส่วนตัวไม่อยากตัดสินใจห้ามทำกิจกรรมใด ๆ แต่จำเป็นเพราะต้องบริหารความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น กับประเทศ

“กิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในช่วงปีใหม่ ศบค.จะหามาตรการที่เหมาะสม เพราะเข้าใจความรู้สึกของประชาชนที่อยากเฉลิมฉลองในช่วงปีใหม่ และยืนยันว่า จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข ยังอยู่ในสถานการณ์รับมือได้ และระดับน่าพอใจ ที่เหลือคือขอความร่วมมือจากทุกคน รวมใจสร้างชาติ หากทุกคนมีวินัยปฎิบัติตามสาธารณสุข หลีกเลี่ยงแหล่งที่ชุมนุมคนจำนวนมากที่มีการตะโกนใส่กัน ไม่ไปรับฟังคนที่ไปพูด แล้วมีน้ำลายกระเด็นออกมา ก็จะเป็นปัจจัยสำคัญในการควบคุมโรคในขณะนี้ บวกกับการไม่รับเชื้อและแพร่เชื่อต่อ ใครรู้ตัวเป็นกลุ่มเสี่ยงก็ตรวจเชื้อ และกักตัว” นายกรัฐมนตรี กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลเป็นห่วงทุกกิจกรรมจึงต้องกำหนดมาตรการที่เหมาะสม และไม่อยากให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนก หรือเดือดร้อน ขณะที่อาหารทะเลที่หลายคนกังวลว่าจะมีการปนเปื้อนเชื้อโควิดนั้น กรมควบคุมโรคกำลังตรวจสอบอยู่ขอให้รอความชัดเจน เพราะข้อมูลที่ออกมาก่อนหน้านี้อาจจะไม่ใช่ข้อเท็จจริงทั้งหมด และเมื่อนำไปเผยแพร่จะส่งผลกระทบต่อส่งออก จึงอยากทำความเข้าใจกับทุกคนด้วย


นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาแรงงานต่างด้าว ว่า สัปดาห์หน้าจะนำเข้าที่ประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยจะอนุญาตทำงานได้ชั่วคราว สำหรับผู้ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน เพราะแรงงานต่างด้าวยังมีความจำเป็นในสถานประกอบการ และ ธุรกิจ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ใช้แรงงานหลัก หากพบผู้ป่วยทั้งคนไทย และแรงงานต่างด้าว รัฐบาลพร้อมดูแลช่วยเหลือทุกคนตามหลักมนุษยธรรม ซึ่งขณะนี้ยา และเวชภัณฑ์เพียงพอในการรับมือ ไม่อยากให้มีใครเสียชีวิต เหมือนการระบาดในรอบแรก เพราะขณะนั้นยาที่ใช้รักษาไม่มีความพร้อม

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอความร่วมมือผู้ประกอบการต้องใช้แรงงานที่ถูกกฎหมาย ป้องกันปัญหาในด้านต่าง ๆ รวมถึงตัดตอนขบวนการหาประโยชน์ ซึ่งขณะนี้กำลังสืบสวนอยู่ เพราะมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และคาดว่าไม่นานจะจับกุมได้ ขณะนี้ได้รับข้อมูลทั้งจากโซเซียลมีเดีย และ คณะทำงาน ซึ่งส่วนตัวรับทุกเสียงสะท้อน ที่มีการตำหนิ ส่วนตัวไม่โกรธ เพราะรัฐบาลมีหน้าที่ดูแลคนไทย กว่า 70 ล้านคน และขอให้ทุกคนช่วยส่งข้อมูลการทุจริตต่าง ๆ เข้ามา รัฐบาลพร้อมตรวจสอบ ไม่มีใครใช้อำนาจสวนทางกับนโยบายของรัฐบาลได้ รวมถึงเรื่องที่มีข้อมูลอ้างว่าผู้มีอำนาจสั่งรถตู้ขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาในพื้นที่ ก็ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ใครจะมาใช้อำนาจแบบนั้น ตนจะปลดให้หมดทุกคน และเป็นเรื่องปกติที่ไม่สามารถทำให้ถูกใจคนทั้งหมดได้ แต่ขอความร่วมมือให้ทุกคนทำบ้านเมืองให้เกิดความปลอดภัย วันนี้รัฐบาลทำเต็มที่ และวางแผนบริหารจัดการเมื่อได้รับวัคซีนในอนาคต แต่ระยะนี้ต้องอยู่กับโควิด 19 ไปก่อน ผ่านสถานการณ์นี้ไปได้ ส่วนการล็อกดาวน์ ก็ต้องดูสถานการณ์นับจากนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรีได้จัดทำโพเดี้ยมใหม่ สำหรับนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน มีการนำแผ่นอะคลีลิค มากั้นป้องกันการแพร่เชื้อ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง