ภูมิภาค 24 ต.ค.-หลายภาคส่วน ต่างสวมเสื้อเหลือง รวมพลังออกมาปกป้องสถาบัน
แม้ที่บ้านวังกุ่ม หมู่ที่ 14 ตำบลในเมือง อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา จะยังคงประสบปัญหาน้ำท่วม แต่ชาวบ้านจาก 12 ตำบลของ อ.พิมาย กว่า 500 คน นำโดยนายจาตุรงค์ ถนอมกลาง อดีตปลัดอำเภอพิมายเกษียณอายุราชการ ต่างสวมเสื้อเหลือง เดินลุยน้ำท่วมเดินรณรงค์ เชิญชวนให้ประชาชนออกมาปกป้องสถาบัน เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี ขณะเดียวกันยังได้ช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบอุทกภัย บริเวณบ้านวังกุ่ม จำนวน 20 หลังคาเรือนด้วย
ที่ จ.สุราษฎร์ธานี กลุ่มพลังมวลชนจากหลายอำเภอในจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมใจกันสวมเสื้อสีเหลือง แสดงพลังปกป้องสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ทั้งยังอ่านแถลงการณ์ปกป้องสถาบันด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องจากในอดีต อำเภอพระแสงไม่มีถนน สัญจรได้เพียงทางน้ำเท่านั้น เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2511 ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรอำเภอพระแสง ทั้งพระราชทานรถแทรกเตอร์มาใช้พัฒนาพื้นที่ บุกเบิกทำถนนระหว่างตำบลให้ติดต่อกันได้ โดยเฮลิคอปเตอร์ขนาดใหญ่ขนส่งชิ้นส่วนแทรกเตอร์ลงทีละชิ้น แล้วมาประกอบตัวรถ เมื่อปลดประจำการ ประชาชนจึงร่วมใจสร้างอนุสรณ์สถานแทรกเตอร์พระราชทาน บริเวณแยกไสนา ด้วยน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น.ที่ผ่านมา ชาวสุราษฎร์ธานี หลายพันคนยังรวมพลังกันที่สะพานนริศ ริมแม่น้ำตาปี อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี โดยเดินทางมาทั้งทางบกและทางน้ำ ล่องมาตามแม่น้ำตาปี ขณะที่ตัวแทนนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี อ่านแถลงการณ์ปกป้องสถาบัน จนกว่าชีวิตจะหาไม่ สลับกันแสดงจุดยืนป้องป้องสถาบันของตัวแทนมวลชนแต่ละกลุ่ม ก่อนจะเคลื่อนขบวนไปศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานี ร่วมร้องเพลงชาติ เพลงสรรเสริญพระบารมีก่อนจะสลายตัว ขณะเดียวกัน มีจิตอาสาสามากรีนเสื้อเหลืองให้ฟรีด้วย ขณะที่บริเวณทางเท้าหน้าศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานีมีวงดนตรีร้องเพลงพระราชนิพนธ์ ร.9 มีผู้สูงอายุเต้นลีลาศอย่างสวยงาม
ชาวอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ นักเรียน นักศึกษาจากโรงเรียนต่างๆ ชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านมากกว่า 2 พันคนใส่เสื้อเหลือง รวมตัวบริเวณลานหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองประจวบ คีรีขันธ์ ต่างเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้อง รวมทั้งร้องเพลงชาติ และประกาศเจตนารมณ์ปกป้อง เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 และสมเด็จพระราชินี รวมทั้งปืนใหญ่สมัยสงคราม ที่ใช้เป็นเครื่องเตือนสติ ให้ตระหนักถึงความเป็นเอกราชของชาติไทย ที่บรรพบุรุษและสถาบันพระมหากษัตริย์ได้ร่วมกันกอบกู้เอาไว้ ก่อนถือภาพพระฉายาลักษณ์ เดินรณรงค์ไปตามถนนในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ปลูกจิตสำนึกความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ที่จังหวัดพิจิตร กลุ่มพลังมวลชนจาก 12 อำเภอกว่า 5 พันคนแสดงพลังปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ บริเวณลานศาลากลางจังหวัดพิจิตร (หลังเดิม) อำเภอเมืองพิจิตร โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเมืองพิจิตรมาตรวจคัดกรองโควิด-19 ให้กับผู้ที่จะเข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ชาวพิจิตรจัดกิจกรรมนี้ขึ้น เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยชุมนุมอย่างสงบ ไม่มีการกล่าวร้าย หรือโจมตีบุคคลอื่น เพียงขอให้กลุ่มผู้เห็นต่าง ยุติการพูดจาดูหมิ่น จาบจ้วงสถาบันฯ ซึ่งเป็นกระทำที่ไม่สมควร ทั้งยังแสดงเจตจำนงยืนยันพร้อมปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
หน้าศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก ชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จังหวัดพิษณุโลก กว่า 500 คน รวมตัวกันแสดงจุดยืน และประกาศเจตนารมณ์ปกป้องสถาบัน สร้างความสมานฉันท์ พร้อมชูป้ายพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 9 และ 10 รวมทั้งข้อความรักในหลวง ห่วงสถาบัน ช่วยกันเทิดทูน ไม่มีสถาบัน ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไร้แผ่นดินไทย เราขอปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ด้วยเลือดเนื้อและชีวิต ทั้งระบุอยากเห็นชาวไทยทุกภาครัก ความหวงแหนและพร้อมที่จะปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ด้วยชีวิต และทำให้ชาวไทยรู้คุณแผ่นดินเกิด.-สำนักข่าวไทย