นายกฯ ยก 3 ทางรอด สร้างโอกาสประเทศไทย

ทางรอดประเทศไทย

ศูนย์สิริกิติ์ 21 พ.ย.-นายกฯ ชี้กระตุ้นเศรษฐกิจเป็นเรื่องแรก ยก 3 ทางรอด สร้างโอกาสประเทศไทย “อาหาร-สุขภาพ-อุตสาหกรรมใหม่” ดึงซอฟต์พาวเวอร์ไทย สร้างรายได้เข้าประเทศ ยันรัฐบาลอยู่ครบเทอม เตรียมแถลงผลงานรัฐบาล 90 วัน 12 ธ.ค.นี้ พร้อมนโยบายเศรษฐกิจใหม่-แพ็กเกจของขวัญปีใหม่

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานสัมมนา PRACHACHAT THAILAND 2025 โอกาส,ความหวัง,ความจริง และกล่าวปาฐกถาพิเศษ “ประเทศไทย : โอกาส- ความหวัง-ความจริง” มีนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เดินทางร่วมงาน


ก่อนเริ่มงาน นายกรัฐมนตรีเดินชมบูธหนังสือมติชน พร้อมกับซื้อหนังสือจำนวน 8 เล่ม อาทิ “สมรภูมิพลิกอำนาจโลก” ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองโลกในปัจจุบัน และทำความเข้าใจจุดปะทุทางภูมิศาสตร์ใหม่ภายใต้เกมอำนาจของสามขั้วพร้อมร่วมหาจุดยืนให้ไทยท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงสู่โลกหลายขั้ว ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็ววัน , หนังสือ ไทยในภายในระเบียบโลก, การออกแบบเมืองของญี่ปุ่น“ เป็นต้น และถ่ายภาพหมู่ร่วมกับคณะผู้บริหาร

น.ส.แพทองธาร กล่าวปาฐกถา ว่า รัฐบาลพยายามสร้างโอกาสให้กับประเทศไทยได้มากที่สุด ซึ่งจะเป็นโอกาสแบบไหนก็ต้องเป็นโอกาสที่จับต้องได้ส่วนตัวชอบคำนี้เพราะการที่จะทำให้คนมีชีวิตที่ดี โอกาสเป็นคำที่สวยหรูแต่โอกาสที่จะจับต้องได้ต้องดูว่าเป็นการที่เราจะใช้โอกาสนั้นให้เกิดประโยชน์กับชีวิตเราได้นี่ คือสิ่งสำคัญที่ต้องการให้เกิดขึ้น


เรามองเห็นศักยภาพของคนไทยว่ามีศักยภาพที่สูงมากแต่บางทีโอกาสเขาไม่ถึงหรือมีการซัพพอร์ตที่ไม่เพียงพอ ดังนั้นการกระจายโอกาสจึงสำคัญมาก รัฐบาลจึงเร่งทำในเรื่องนี้ แต่บางอย่างเกิดปัญหาสะสมมานาน เราไม่สามารถใช้วิธีสองวิธีเพื่อการแก้ปัญหาได้ต้องใช้หลายวิธีในการผลักดันประเทศชาติและผลักดันเศรษฐกิจให้ไปข้างหน้าได้อย่างแข็งแรง

อย่างแรกสิ่งที่รัฐบาลต้องการจะทำคือการกระตุ้นเศรษฐกิจการพัฒนาในเรื่องเศรษฐกิจเพราะเป็นสิ่งสำคัญทำให้ประเทศชาติและคนในประเทศมีการกินอยู่ที่สบายขึ้น ซึ่งเราพูดมาตลอดว่าถ้าคนไทยปากท้องอิ่ม จะดึงศักยภาพที่ซ่อนในตัวจะออกมาเอง ถ้าเบสิกพื้นฐานยังไม่ถูกเติมเต็มการที่จะมีความคิดสร้างสรรค์ การผลักดันประเทศจะเป็นไปได้ยาก ฉะนั้นเราถึงพยายามกระจายโอกาสให้ได้มากที่สุดเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ

ส่วนแบ็กกราวด์เศรษฐกิจมีการคาดเดาเรื่องการเติบโตของจีดีพีถ้ารวมทั้งปีประมาณ 2.7% ซึ่งเป็นช่วงที่อยู่ในระหว่างการฟื้นตัวแต่ละควอเตอร์ และเราทำได้ดีกว่าที่คาดการณ์โดยสภาพัฒน์ฯประกาศว่าจีดีพีโตขึ้น 3% เป็นสิ่งที่น่าภูมิใจโดยส่วนใหญ่ที่เศรษฐกิจเติบโตได้มาจากการลงทุนของรัฐบาลและภาครัฐและที่สำคัญคือการท่องเที่ยวเพราะก่อนหน้านี้ก่อน โควิด-19 มีนักท่องเที่ยวประมาณ 40ล้านคน และตัวเลขได้หายไปอย่างน่าตกใจ ก่อนที่ตนจะเข้ามาการเมืองได้ทำโรงแรมอยู่ เห็นได้ชัดว่าตัวเลขได้หายไปแบบน่าตกใจ และคาดว่าในปีนี้ตัวเลขของนักท่องเที่ยวน่าจะกลับใกล้ 36 ล้านคน และเพิ่มขึ้นกว่าปีที่แล้ว โอกาสที่ตัวเลขเพิ่มขึ้นมาจากการผลักดันหลายส่วน และโควิดเบาแล้ว มีฟรีวีซ่าตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน รวมถึงการพัฒนาสนามบิน ที่อยากให้เป็นสมาร์ทแอร์พอร์ตให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาสามารถเช็กอินได้โดยไม่ต้องเสียเวลาในการรอคิว แต่ทำเอกสารต่างๆ ที่สนามบินได้ และเราต้องการจะทำให้ต่อเนื่องมากขึ้นนอกจากนั้นยังมี festival country ทำให้เมืองไทยทุกที่สามารถท่องเที่ยวได้และให้ต่างชาติรู้จักเมืองรองด้วย โดยใช้วัฒนธรรมที่มีเสน่ห์ เช่น ลอยกระทง สงกรานต์ เพื่อให้ต่างชาติรู้ว่าไม่ได้ท่องเที่ยวแค่จังหวัดใดจังหวัดหนึ่งแต่สามารถเที่ยวได้ทั่วประเทศไทย และอยู่ได้ยาวนาน ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลกำลังรณรงค์อยู่


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในปีหน้าเศรษฐกิจที่เราต้องสร้างไว้จะโตกว่าปีนี้ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดี เพราะจากการที่ไปประชุมต่างประเทศได้คุยกับต่างชาติ ทุกคนสนใจลงทุนในประเทศไทยเพราะภาคการเมืองมีเสถียรภาพมากขึ้น นักธุรกิจและชาวต่างชาติ จะมั่นใจในการลงทุนมากยิ่งขึ้น ตนมีหน้าที่บอกทุกคนถึงความเชื่อมั่นว่าเราจะอยู่จนครบจนมีการเลือกตั้งได้ เพื่อให้ชาวต่างชาติมั่นใจว่าการลงทุนไม่ได้เปลี่ยนแปลง และสิ่งที่นายเศรษฐา เคยได้บอกทั่วโลกไว้ว่าไทยน่าลงทุนอย่างไร และตนก็สานต่อนโยบายเหล่านี้เพื่อให้การลงทุนไม่สะดุด เช่น การที่กูเกิลเข้ามาลงทุน ถือเป็นการตอกย้ำว่าเรายังทำสิ่งนี้อยู่

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลต้องรีบทำคือการใช้งบลงทุน 9.6 แสนล้านบาทให้มีประสิทธิภาพ รวมถึงงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ เพราะปกติยุคนี้จะใช้ไม่ค่อยหมด เนื่องจากความล่าช้า ของระบบราชการ ดังนั้นในปี 2568 กำชับต้องใช้เรื่องนี้ให้หมดให้คุ้มค่ากับภาษี

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ขณะนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงของโลกและสหรัฐได้ประธานาธิบดีคนใหม่ ซึ่งสิ่งที่เขาทำจะออกไปทางอนุรักษ์นิยมเล็กน้อยจึงมีมีคำถามว่าน่าเป็นห่วงหรือไม่ และเราจะมีการปรับเรื่องการค้าการลงทุนในประเทศอย่างไร เพราะสหรัฐฯจะพุ่งมาที่ประเทศที่มีสินค้าส่งออกเกินดุลการค้า และสินค้าไทยก็จะถูกจับจ้อง เช่นเดียวกับจีน เพราะไทยส่งออกไปอเมริกาจำนวนมาก ต้องพึ่งพาการส่งออก 60% ของจีดีพี และส่งออกอเมริกา10% ของการส่งออกทั้งหมด ตรงนี้เราต้องมาปรับว่าจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เสียโอกาส

นอกจากนั้นต้องผลักดันเครื่องยนต์เศรษฐกิจตัวใหม่ต้องคำนึงถึง economy scale ที่ไทยเสียเปรียบจีน เพราะเขามีกำลังผลิตมากและการแข่งขันจะสูง จะเกิดสงครามการผลิตที่รัฐบาล จะต้องช่วยเรื่องของภาษีและการดูข้อกฎหมายและข้อบังคับต่างๆ ให้หนักขึ้น ทั้งการซื้อขายออนไลน์ให้ถูกกฎ ให้เคร่งครัดมากยิ่งขึ้น เพื่อสกรีนและช่วยในเรื่องของเอสเอ็มอีประเทศไทย โดยภาพรวมของประเทศจีน มีพื้นที่เกษตรของเขาไม่พอต่อการจะผลิตเพื่อบริโภคในประเทศ ยังต้องพึ่งพาสินค้าเกษตรจากประเทศอื่นและประเทศไทย ที่มีการเกษตรที่แข็งแรง การส่งออกแข็งแรง เราจึงต้องช่วยเพิ่มตรงนี้มากยิ่งขึ้น ทั้งการถนอมอาหาร ถนอมสินค้า ให้ไปถึงปลายทางอย่างมีคุณภาพเหมือนกับต้นทาง

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราต้องหาทางรอดว่าจะต้องทำอย่างไรให้คนไทยมีทางรอด และหาเม็ดเงินใหม่เข้าประเทศ เพราะขณะนี้หนี้ครัวเรือนมากมาย โดยเรามี 3 ทางรอด ที่เป็นโอกาสให้จับต้องได้และเรากำลังพัฒนาอยู่ 1.อาหาร ที่เรามีจุดเด่น คือครัวไทย ที่ต้องการฟื้นครัวไทยสู่ครัวโลก และประเทศไทย สามารถทำการเกษตรที่ฝากอาหารไว้ในประเทศเราได้โดยการถนอมอาหาร ก่อนการส่งออก ยกตัวอย่างในการประชุม GMS ที่ สปป ลาว ที่ทั่วโลกให้การยอมรับยอมและมีความ ต้องการเรื่องเนื้อวัว โดยให้ช่วยดูเรื่องคุณภาพ ความปลอดภัย และยังโครงการหนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งอาหารไทย ที่ได้การออกใบประกาศเป็นการรับรอง ให้กับเชฟและร้านอาหารไทย

2.สุขภาพ เรามี 30 บาทรักษาทุกที่ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงนโยบายได้อย่างง่ายดายและไม่เสียเวลาในการรอคอย โดยเป็นสิ่งที่ทั่วโลกยอมรับ นอกจากนั้นต้องพัฒนาโรงพยาบาลให้มีคุณภาพ ซึ่งเรามีโรงพยายาลเอกชนที่มีชื่อเสียง ทางการแพทย์และการบริการที่เป็นทองไทยในระดับโลก และมีธุรกิจที่เกี่ยวกับการออกกำลังกาย เช่น มวยไทย มวยไทย ที่เรามีค่ายมวยในต่างประเทศกว่า 40,000 แห่ง ที่ยังไม่ได้รับการรับรอง จึงต้องมาเพิ่มทักษะให้ได้รับการรับรองเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน และใช้เทคโนโลยีมาช่วยเรื่องการสกัดสมุนไพรให้เป็นยา เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของสุขภาพ

3.โอกาสทางอุตสาหกรรม ที่สร้างซอฟต์พาวเวอร์ ที่จะช่วยหาเม็ดเงินเข้าประเทศ และแข่งขันกับประเทศอื่นได้ โดยนำซอฟต์พาวเวอร์จากวัฒนธรรมไทย ที่มีมีโอกาสและมีเสน่ห์ที่ต่างชาติสนใจ จึงต้องให้คุณค่าในเรื่องนี้ โดยนำวัฒนธรรมของทุกจังหวัด เข้ามารวมด้วยกันเพื่อให้ประเทศน่าเที่ยวทั้งปี ให้มีเงินหมุนเวียนเข้าประเทศ เช่น การผลักดันเรื่องภาพยนตร์ เมื่อปี 2567 มี 40 ประเทศ เข้ามาถ่ายทำในประเทศไทยประมาณ 450 เลือก สร้างมูลค่า 190 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และส่วนใหญ่มาจากสหรัฐ ดังนั้นจะเพิ่มการลงทุนเรื่องนี้ 30% เพื่อให้เกิดการเงินหมุนเวียนและการจ้างงาน ทำเกมไทย เช่น โฮมสวีทโฮม ที่นำความเชื่อมาบวกรวมเรื่องราวไสยศาสตร์แบบไทยมาสร้างเอกลักษณ์ให้กับเกมไทยผสมกับเทคโนโลยี และภาพยนตร์เรื่องหลานม่า ที่ได้รับการชื่นชมในต่างประเทศอย่างมาก

นอกจากนั้นยังมีเรื่องของพลังงานพลังงาน คือ ก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย ที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าอีกประมาณ 10 ปี ก๊าซเหล่านี้หมดไปและขณะนี้เป็นกระแสกันอยู่เรื่องเอ็มโอยู 44 กับทางกัมพูชา ที่เราจะต้องคุยเรื่องนี้ว่าจะต้องแบ่งใช้ก๊าซธรรมชาติร่วมกันอย่างไร จึงต้องมีคณะกรรมการพูดคุยในเรื่องนี้ด้วยโดยไม่เกี่ยวเรื่องเกาะกูด ไม่เกี่ยวและไม่ใช่เพราะเป็นของเราอยู่แล้ว นอกจากนั้นรัฐบาลและเน้นเรื่องพลังงานสะอาดและพลังงานทางเลือก รวมถึงโซลาร์เซลล์ที่จะต้องผลักดัน และโอกาสที่เราจะผลักดันเรื่องเซมิคอนด็อกเตอร์ ที่กำลังศึกษาว่าประเทศไทยจะเข้าไปมีส่วนร่วมกับอุตสาหกรรมนี้ได้อย่างไร เพื่อให้ทุกคนจับต้องเข้าถึงโอกาสได้และรัฐบาลกำลังทำให้เกิด

ช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทั้งหมดนี้รัฐบาลมองเห็นโอกาสของประเทศไทยและพยายามหาเม็ดเงินมาเพิ่มทั้งจากต่างชาติและสร้างงานใหม่ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย จึงขอฝากทุกคนว่ารัฐบาลจะมีการแถลงสิ่งที่ได้ทำมาในรัฐบาลครบ 90 วันในวันที่ 12 ธ.ค.โดยรับรองว่าจะมีเรื่องของนโยบายที่ดีมาเล่าให้ฟังว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตและจะมีของขวัญปีใหม่ ที่จะมอบอย่างไรให้กับประชาชน.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง

กทม. 9 ส.ค.-กรมอุตุฯ รายงาาน 10-15 ส.ค. ไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 30% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 10 – 15 ส.ค. ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากจะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. […]

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]