นายกฯ ยก 3 ทางรอด สร้างโอกาสประเทศไทย

ทางรอดประเทศไทย

ศูนย์สิริกิติ์ 21 พ.ย.-นายกฯ ชี้กระตุ้นเศรษฐกิจเป็นเรื่องแรก ยก 3 ทางรอด สร้างโอกาสประเทศไทย “อาหาร-สุขภาพ-อุตสาหกรรมใหม่” ดึงซอฟต์พาวเวอร์ไทย สร้างรายได้เข้าประเทศ ยันรัฐบาลอยู่ครบเทอม เตรียมแถลงผลงานรัฐบาล 90 วัน 12 ธ.ค.นี้ พร้อมนโยบายเศรษฐกิจใหม่-แพ็กเกจของขวัญปีใหม่

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานสัมมนา PRACHACHAT THAILAND 2025 โอกาส,ความหวัง,ความจริง และกล่าวปาฐกถาพิเศษ “ประเทศไทย : โอกาส- ความหวัง-ความจริง” มีนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เดินทางร่วมงาน


ก่อนเริ่มงาน นายกรัฐมนตรีเดินชมบูธหนังสือมติชน พร้อมกับซื้อหนังสือจำนวน 8 เล่ม อาทิ “สมรภูมิพลิกอำนาจโลก” ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองโลกในปัจจุบัน และทำความเข้าใจจุดปะทุทางภูมิศาสตร์ใหม่ภายใต้เกมอำนาจของสามขั้วพร้อมร่วมหาจุดยืนให้ไทยท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงสู่โลกหลายขั้ว ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็ววัน , หนังสือ ไทยในภายในระเบียบโลก, การออกแบบเมืองของญี่ปุ่น“ เป็นต้น และถ่ายภาพหมู่ร่วมกับคณะผู้บริหาร

น.ส.แพทองธาร กล่าวปาฐกถา ว่า รัฐบาลพยายามสร้างโอกาสให้กับประเทศไทยได้มากที่สุด ซึ่งจะเป็นโอกาสแบบไหนก็ต้องเป็นโอกาสที่จับต้องได้ส่วนตัวชอบคำนี้เพราะการที่จะทำให้คนมีชีวิตที่ดี โอกาสเป็นคำที่สวยหรูแต่โอกาสที่จะจับต้องได้ต้องดูว่าเป็นการที่เราจะใช้โอกาสนั้นให้เกิดประโยชน์กับชีวิตเราได้นี่ คือสิ่งสำคัญที่ต้องการให้เกิดขึ้น


เรามองเห็นศักยภาพของคนไทยว่ามีศักยภาพที่สูงมากแต่บางทีโอกาสเขาไม่ถึงหรือมีการซัพพอร์ตที่ไม่เพียงพอ ดังนั้นการกระจายโอกาสจึงสำคัญมาก รัฐบาลจึงเร่งทำในเรื่องนี้ แต่บางอย่างเกิดปัญหาสะสมมานาน เราไม่สามารถใช้วิธีสองวิธีเพื่อการแก้ปัญหาได้ต้องใช้หลายวิธีในการผลักดันประเทศชาติและผลักดันเศรษฐกิจให้ไปข้างหน้าได้อย่างแข็งแรง

อย่างแรกสิ่งที่รัฐบาลต้องการจะทำคือการกระตุ้นเศรษฐกิจการพัฒนาในเรื่องเศรษฐกิจเพราะเป็นสิ่งสำคัญทำให้ประเทศชาติและคนในประเทศมีการกินอยู่ที่สบายขึ้น ซึ่งเราพูดมาตลอดว่าถ้าคนไทยปากท้องอิ่ม จะดึงศักยภาพที่ซ่อนในตัวจะออกมาเอง ถ้าเบสิกพื้นฐานยังไม่ถูกเติมเต็มการที่จะมีความคิดสร้างสรรค์ การผลักดันประเทศจะเป็นไปได้ยาก ฉะนั้นเราถึงพยายามกระจายโอกาสให้ได้มากที่สุดเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ

ส่วนแบ็กกราวด์เศรษฐกิจมีการคาดเดาเรื่องการเติบโตของจีดีพีถ้ารวมทั้งปีประมาณ 2.7% ซึ่งเป็นช่วงที่อยู่ในระหว่างการฟื้นตัวแต่ละควอเตอร์ และเราทำได้ดีกว่าที่คาดการณ์โดยสภาพัฒน์ฯประกาศว่าจีดีพีโตขึ้น 3% เป็นสิ่งที่น่าภูมิใจโดยส่วนใหญ่ที่เศรษฐกิจเติบโตได้มาจากการลงทุนของรัฐบาลและภาครัฐและที่สำคัญคือการท่องเที่ยวเพราะก่อนหน้านี้ก่อน โควิด-19 มีนักท่องเที่ยวประมาณ 40ล้านคน และตัวเลขได้หายไปอย่างน่าตกใจ ก่อนที่ตนจะเข้ามาการเมืองได้ทำโรงแรมอยู่ เห็นได้ชัดว่าตัวเลขได้หายไปแบบน่าตกใจ และคาดว่าในปีนี้ตัวเลขของนักท่องเที่ยวน่าจะกลับใกล้ 36 ล้านคน และเพิ่มขึ้นกว่าปีที่แล้ว โอกาสที่ตัวเลขเพิ่มขึ้นมาจากการผลักดันหลายส่วน และโควิดเบาแล้ว มีฟรีวีซ่าตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน รวมถึงการพัฒนาสนามบิน ที่อยากให้เป็นสมาร์ทแอร์พอร์ตให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาสามารถเช็กอินได้โดยไม่ต้องเสียเวลาในการรอคิว แต่ทำเอกสารต่างๆ ที่สนามบินได้ และเราต้องการจะทำให้ต่อเนื่องมากขึ้นนอกจากนั้นยังมี festival country ทำให้เมืองไทยทุกที่สามารถท่องเที่ยวได้และให้ต่างชาติรู้จักเมืองรองด้วย โดยใช้วัฒนธรรมที่มีเสน่ห์ เช่น ลอยกระทง สงกรานต์ เพื่อให้ต่างชาติรู้ว่าไม่ได้ท่องเที่ยวแค่จังหวัดใดจังหวัดหนึ่งแต่สามารถเที่ยวได้ทั่วประเทศไทย และอยู่ได้ยาวนาน ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลกำลังรณรงค์อยู่


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในปีหน้าเศรษฐกิจที่เราต้องสร้างไว้จะโตกว่าปีนี้ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดี เพราะจากการที่ไปประชุมต่างประเทศได้คุยกับต่างชาติ ทุกคนสนใจลงทุนในประเทศไทยเพราะภาคการเมืองมีเสถียรภาพมากขึ้น นักธุรกิจและชาวต่างชาติ จะมั่นใจในการลงทุนมากยิ่งขึ้น ตนมีหน้าที่บอกทุกคนถึงความเชื่อมั่นว่าเราจะอยู่จนครบจนมีการเลือกตั้งได้ เพื่อให้ชาวต่างชาติมั่นใจว่าการลงทุนไม่ได้เปลี่ยนแปลง และสิ่งที่นายเศรษฐา เคยได้บอกทั่วโลกไว้ว่าไทยน่าลงทุนอย่างไร และตนก็สานต่อนโยบายเหล่านี้เพื่อให้การลงทุนไม่สะดุด เช่น การที่กูเกิลเข้ามาลงทุน ถือเป็นการตอกย้ำว่าเรายังทำสิ่งนี้อยู่

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลต้องรีบทำคือการใช้งบลงทุน 9.6 แสนล้านบาทให้มีประสิทธิภาพ รวมถึงงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ เพราะปกติยุคนี้จะใช้ไม่ค่อยหมด เนื่องจากความล่าช้า ของระบบราชการ ดังนั้นในปี 2568 กำชับต้องใช้เรื่องนี้ให้หมดให้คุ้มค่ากับภาษี

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ขณะนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงของโลกและสหรัฐได้ประธานาธิบดีคนใหม่ ซึ่งสิ่งที่เขาทำจะออกไปทางอนุรักษ์นิยมเล็กน้อยจึงมีมีคำถามว่าน่าเป็นห่วงหรือไม่ และเราจะมีการปรับเรื่องการค้าการลงทุนในประเทศอย่างไร เพราะสหรัฐฯจะพุ่งมาที่ประเทศที่มีสินค้าส่งออกเกินดุลการค้า และสินค้าไทยก็จะถูกจับจ้อง เช่นเดียวกับจีน เพราะไทยส่งออกไปอเมริกาจำนวนมาก ต้องพึ่งพาการส่งออก 60% ของจีดีพี และส่งออกอเมริกา10% ของการส่งออกทั้งหมด ตรงนี้เราต้องมาปรับว่าจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เสียโอกาส

นอกจากนั้นต้องผลักดันเครื่องยนต์เศรษฐกิจตัวใหม่ต้องคำนึงถึง economy scale ที่ไทยเสียเปรียบจีน เพราะเขามีกำลังผลิตมากและการแข่งขันจะสูง จะเกิดสงครามการผลิตที่รัฐบาล จะต้องช่วยเรื่องของภาษีและการดูข้อกฎหมายและข้อบังคับต่างๆ ให้หนักขึ้น ทั้งการซื้อขายออนไลน์ให้ถูกกฎ ให้เคร่งครัดมากยิ่งขึ้น เพื่อสกรีนและช่วยในเรื่องของเอสเอ็มอีประเทศไทย โดยภาพรวมของประเทศจีน มีพื้นที่เกษตรของเขาไม่พอต่อการจะผลิตเพื่อบริโภคในประเทศ ยังต้องพึ่งพาสินค้าเกษตรจากประเทศอื่นและประเทศไทย ที่มีการเกษตรที่แข็งแรง การส่งออกแข็งแรง เราจึงต้องช่วยเพิ่มตรงนี้มากยิ่งขึ้น ทั้งการถนอมอาหาร ถนอมสินค้า ให้ไปถึงปลายทางอย่างมีคุณภาพเหมือนกับต้นทาง

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราต้องหาทางรอดว่าจะต้องทำอย่างไรให้คนไทยมีทางรอด และหาเม็ดเงินใหม่เข้าประเทศ เพราะขณะนี้หนี้ครัวเรือนมากมาย โดยเรามี 3 ทางรอด ที่เป็นโอกาสให้จับต้องได้และเรากำลังพัฒนาอยู่ 1.อาหาร ที่เรามีจุดเด่น คือครัวไทย ที่ต้องการฟื้นครัวไทยสู่ครัวโลก และประเทศไทย สามารถทำการเกษตรที่ฝากอาหารไว้ในประเทศเราได้โดยการถนอมอาหาร ก่อนการส่งออก ยกตัวอย่างในการประชุม GMS ที่ สปป ลาว ที่ทั่วโลกให้การยอมรับยอมและมีความ ต้องการเรื่องเนื้อวัว โดยให้ช่วยดูเรื่องคุณภาพ ความปลอดภัย และยังโครงการหนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งอาหารไทย ที่ได้การออกใบประกาศเป็นการรับรอง ให้กับเชฟและร้านอาหารไทย

2.สุขภาพ เรามี 30 บาทรักษาทุกที่ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงนโยบายได้อย่างง่ายดายและไม่เสียเวลาในการรอคอย โดยเป็นสิ่งที่ทั่วโลกยอมรับ นอกจากนั้นต้องพัฒนาโรงพยาบาลให้มีคุณภาพ ซึ่งเรามีโรงพยายาลเอกชนที่มีชื่อเสียง ทางการแพทย์และการบริการที่เป็นทองไทยในระดับโลก และมีธุรกิจที่เกี่ยวกับการออกกำลังกาย เช่น มวยไทย มวยไทย ที่เรามีค่ายมวยในต่างประเทศกว่า 40,000 แห่ง ที่ยังไม่ได้รับการรับรอง จึงต้องมาเพิ่มทักษะให้ได้รับการรับรองเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน และใช้เทคโนโลยีมาช่วยเรื่องการสกัดสมุนไพรให้เป็นยา เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของสุขภาพ

3.โอกาสทางอุตสาหกรรม ที่สร้างซอฟต์พาวเวอร์ ที่จะช่วยหาเม็ดเงินเข้าประเทศ และแข่งขันกับประเทศอื่นได้ โดยนำซอฟต์พาวเวอร์จากวัฒนธรรมไทย ที่มีมีโอกาสและมีเสน่ห์ที่ต่างชาติสนใจ จึงต้องให้คุณค่าในเรื่องนี้ โดยนำวัฒนธรรมของทุกจังหวัด เข้ามารวมด้วยกันเพื่อให้ประเทศน่าเที่ยวทั้งปี ให้มีเงินหมุนเวียนเข้าประเทศ เช่น การผลักดันเรื่องภาพยนตร์ เมื่อปี 2567 มี 40 ประเทศ เข้ามาถ่ายทำในประเทศไทยประมาณ 450 เลือก สร้างมูลค่า 190 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และส่วนใหญ่มาจากสหรัฐ ดังนั้นจะเพิ่มการลงทุนเรื่องนี้ 30% เพื่อให้เกิดการเงินหมุนเวียนและการจ้างงาน ทำเกมไทย เช่น โฮมสวีทโฮม ที่นำความเชื่อมาบวกรวมเรื่องราวไสยศาสตร์แบบไทยมาสร้างเอกลักษณ์ให้กับเกมไทยผสมกับเทคโนโลยี และภาพยนตร์เรื่องหลานม่า ที่ได้รับการชื่นชมในต่างประเทศอย่างมาก

นอกจากนั้นยังมีเรื่องของพลังงานพลังงาน คือ ก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย ที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าอีกประมาณ 10 ปี ก๊าซเหล่านี้หมดไปและขณะนี้เป็นกระแสกันอยู่เรื่องเอ็มโอยู 44 กับทางกัมพูชา ที่เราจะต้องคุยเรื่องนี้ว่าจะต้องแบ่งใช้ก๊าซธรรมชาติร่วมกันอย่างไร จึงต้องมีคณะกรรมการพูดคุยในเรื่องนี้ด้วยโดยไม่เกี่ยวเรื่องเกาะกูด ไม่เกี่ยวและไม่ใช่เพราะเป็นของเราอยู่แล้ว นอกจากนั้นรัฐบาลและเน้นเรื่องพลังงานสะอาดและพลังงานทางเลือก รวมถึงโซลาร์เซลล์ที่จะต้องผลักดัน และโอกาสที่เราจะผลักดันเรื่องเซมิคอนด็อกเตอร์ ที่กำลังศึกษาว่าประเทศไทยจะเข้าไปมีส่วนร่วมกับอุตสาหกรรมนี้ได้อย่างไร เพื่อให้ทุกคนจับต้องเข้าถึงโอกาสได้และรัฐบาลกำลังทำให้เกิด

ช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทั้งหมดนี้รัฐบาลมองเห็นโอกาสของประเทศไทยและพยายามหาเม็ดเงินมาเพิ่มทั้งจากต่างชาติและสร้างงานใหม่ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย จึงขอฝากทุกคนว่ารัฐบาลจะมีการแถลงสิ่งที่ได้ทำมาในรัฐบาลครบ 90 วันในวันที่ 12 ธ.ค.โดยรับรองว่าจะมีเรื่องของนโยบายที่ดีมาเล่าให้ฟังว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตและจะมีของขวัญปีใหม่ ที่จะมอบอย่างไรให้กับประชาชน.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ชะตากรรมชาวตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านคลองลึก

สระแก้ว 25 มิ.ย. – เสียงสะท้อนจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านพรมแดนคลองลึก จากที่ต้องดิ้นรนค้าขายในยุคเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งย่ำแย่ลงกว่าเดิม.-สำนักข่าวไทย

EOD ทำลายระเบิดซุก จยย.จอดทิ้งหน้าอาคารสนามบินภูเก็ต

ภูเก็ต 25 มิ.ย. – ตำรวจชุด EOD ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซุกระเบิด จอดทิ้งหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ต ล่าสุดยิงทำลายวัตถุระเบิดได้แล้ว อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ ยืนยันมีลูกเดียว ไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือคนไทยออกจากอิสราเอล-อิหร่าน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือ-อำนวยความสะดวกคนไทยต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่าน เผยล่าสุดมี 73 คน ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน และ 18 คนจากอิสราเอลต้องการกลับไทย ขอคนที่อยู่ต่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุรัฐบาลได้เตรียมการดูแลพี่น้องคนไทยทั้งในอิสราเอลและอิหร่าน ในกรณีที่ต้องการเดินทางกลับไทย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้วางแผนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่านโดยรวดเร็วและปลอดภัยค่ะ ในอิหร่าน มีคนไทยรวมประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานและนักศึกษา ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยเหลือให้ไปพำนักชั่วคราวที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Amol ในอิหร่านแล้ว 35 คน และอีก 4 คนไปที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Van ในตุรกี นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งประสานงานให้คนไทย 73 คนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับฝ่ายอิหร่าน เพื่อให้เร่งออก exit visa ให้ ในส่วนของอิสราเอล มีคนไทยอยู่ประมาณ 40,000 คน เกือบทั้งหมดเป็นแรงงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสอบถามความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไปเยี่ยมเยียนด้วย ซึ่งในชั้นนี้ […]

นายกฯ เปิดประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ไร้ตัวแทนกัมพูชาร่วม

พัทยา 25 มิ.ย.-ไร้เงาตัวแทนกัมพูชา นายกฯ เปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ชมสาธิตวิธีการช่วยอากาศยานประสบภัยในทะเล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และกล่าวเปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเชียน (ASEAN Coast Guard Forum 2025: ACF 2025) และการฝึกค้นหา และช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยในทะเล และการแพทย์ฉุกเฉินในทะเล ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2568 เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย มั่นคง มั่งคั่ง ในอาเซียน ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศผู้สังเกตการณ์ และพันธมิตรสำคัญที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้สู่เมืองพัทยา และแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในพิธีเปิดเวทีความร่วมมืออันสำคัญของภูมิภาค ซึ่งเป็นเวทีที่หน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับความมั่นคงทางทะเลร่วมกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความสำคัญของความมั่นคง และความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภูมิภาค เนื่องจากท้องทะเลไม่เพียงเป็นเส้นทางการค้าสำคัญ […]