“เศรษฐา” บอกจะไม่เป็นคนแพ้ตลอดกาล ต้องชนะเลือกตั้งรอบหน้า

พรรคเพื่อไทย 5 เม.ย.-“เศรษฐา” บอกจะไม่เป็นคนแพ้ตลอดกาล ต้องชนะเลือกตั้งรอบหน้าด้วยผลงานรัฐบาล นำชัยชนะกลับมา ยอมรับเจ็บปวดรอบนี้เป็นผู้แพ้ น้อมรับผลที่ออกมา

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาในการประชุมใหญ่วิสามัญ ประจำปี 2567 ของพรรคเพื่อไทย โดยนายกรัฐมนตรีได้พูดถึงการทำงานต่างๆ ในตลอด 7 เดือนที่ผ่านมาของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวีซ่าฟรี การพักหนี้ การเดินทางไปเจรจา FTA โครงการแลนด์บริจด์


นายเศรษฐา กล่าวว่า การดำเนินงานการส่งเสริมการลงทุน ตนเดินทางไปต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ซึ่งความเป็นจริงจะไม่อยากบินไป จนถูกเปรียบเทียบว่าเป็นแมลงวัน หรืออะไรก็ตามที่ ซึ่งฟังดูแล้วก็ตลกดีเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คิดว่าเป็นสีสันในชีวิต ซึ่งไปสอบถามคณะทำงานของตนได้ว่า การเดินทางไปแต่ละครั้งไม่ได้สบายเลย อย่างไรก็ตามการลงทุนหลักแสนล้าน นักลงทุนเหล่านี้คงไม่ใช้เวลาเพียง 7 เดือน

นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า ในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย เป็นน้องใหม่ที่นี่ เข้าใจว่า 13 เดือนเป็นระยะเวลาอันสั้น ถือว่าการต้องเรียนรู้เรื่องใหม่ ๆ ตอนอายุ 60 ไม่ใช่เรื่องง่าย สองวันที่ผ่านมาก็เป็นประสบการณ์ที่ไม่เคยคิดว่าต้องไปยืนบนเวที และต้องถูกต่อว่าในหลายเรื่อง ที่ไม่เป็นความจริง แต่ก็ต้องกัดฟัน และรับรู้ เพราะตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยคิดว่าจะต้องเจอเรื่องพวกนี้ แต่ไม่เป็นไร ซึ่งหากย้อนกลับไป 13 เดือนที่ผ่านมา ตนเองได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นจาก สส. อายุน้อย ผู้อาวุโสในพรรค ขอบคุณทุกท่านที่ให้การต้อนรับอย่างจริงใจ  และอบอุ่นที่ดีมาตลอด


“การเลือกตั้งที่ผ่านมา เราแพ้เลือกตั้ง ฟังแล้วบีบหัวใจ แต่คือความจริง เราได้ 141 เสียง จาก 500 เสียง ตนเองในฐานะสมาชิกพรรค ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ก็เจ็บปวด ก็ต้องรับผิดชอบส่วนหนึ่งด้วย ทั้งการเข้าถึงพี่น้องประชาชนไม่เต็มที่ การไม่ไปดีเบท ตนเองคงไม่มาแก้ตัวใดๆ ทั้งสิ้น ขอน้อมรับกับผลที่ออกมา กับข้อกล่าวหา แต่ตนเองเป็นคนที่ไม่แพ้ตลอดกาล” นายเศรษฐา กล่าว

นายเศรษฐา กล่าวว่า เมื่อสักครู่ที่ผู้นำจิตวิญญาณของพรรค บอกว่าตอนนี้เหมาะสม เพราะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน เนื่องจากมีนัยสำคัญเยอะมาก  หากไปดูประวัติของตนเอง เชื่อว่าชีวิตตนเองครบหมดทุกอย่างแล้ว ทั้งครอบครัว ความสำเร็จในการบริหาร แต่การก้าวเข้ามาตรงนี้ เรื่องเดียวที่มีความปราถนา คือการนำชัยชนะกลับมาให้พรรคเพื่อไทยอีกครั้ง

“ผมบอกทุกคนว่า ผมต้องชนะเลือกตั้งครั้งต่อไป ไม่มีอะไรที่จะมาทำให้ผมไม่สามารถทำได้ จะทุ่มเทกายและใจ ในอีก 3 ปีครึ่งข้างหน้า เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของทุกคนในพรรค เพื่อไปถึงจุดนั้นให้ได้” นายเศรษฐา กล่าว


นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า อดีตที่ผ่านมามีทั้งความขมขื่นของพวกเราตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา ทั้งการถูกยุบพรรคสองครั้ง วาทกรรมที่ถูกต่อว่า ถูกนำมาใช้กับพวกเราทุกคน และตนเองแม้จะเป็นคนหน้าใหม่ แต่ก่อนหน้านี้ก็มีจิตวิญญาณเหมือนทุกท่าน ความเจ็บปวด ขมขื่นกับเรื่องที่เกิดขึ้นทุกเรื่อง และเราทุกคนในที่นี้ เรามองอนาคตที่สดใสดีกว่า ที่เรามาอยู่ในที่นี้ เรามี 141 เสียง จาก 500 เรามีประธานสภาฯ รองประธานสภาฯ มีนายกฯ มีรองนายกฯ มีรัฐมนตรีในกระทรวงต่าง ๆ เรามีเรา เราควรโฟกัสเรื่องเหล่านี้แทนที่จะโฟกัสกันว่าคนอื่นเขามีอะไร พรรคอื่นเขาได้อะไร ควรมองแค่นี้หรือไม่

“วันนี้สนามหญ้าหน้าบ้านเรา อาจไม่เขียวเท่าเขา แต่เรามีปุ๋ย มีน้ำ มีรถตักที่ดีกว่า แทนที่มัวแต่มองไปบ้านเขา ลุกขึ้นมาได้ไหม เอาน้ำมารด เอาปุ๋ยมาเท มาช่วยกันทุกคน เพื่อให้สนามหญ้าบ้านเราเขียวขจีอย่างเขาได้หรือไม่” นายเศรษฐา กล่าว

นายเศรษฐา  ยกตัวอย่าง เรื่องครอบครัว การตัดสินใจแต่งงานกัน เราไม่มีทางรักกันหรือรับได้ทั้งหมด 100% เราอาจชอบแค่ 80% ดังนั้น เราอย่าไปโฟกัส 20% ให้โฟกัสแค่ 80%  เราต่อสู้กับอดีตที่ขมขื่น เรามีอนาคตที่แสงสว่าง แม้วันนี้เราจะมี 141 เสียง แต่ในอนาคตเราจะมีเพิ่มขึ้นอีก เราทุกคนอยากให้พรรคของเราเจริญเติบโต ก้าวหน้าไปได้ด้วยดี เรามีคนรุ่นใหม่ที่พร้อมจะฉายแวว มีผู้นำจิตวิญญาณที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ท่านกลับมาแล้ว

นายเศรษฐา กล่าวในช่วงท้ายว่า ตนเองมีจุดประสงค์เดียวในชีวิต คือการชนะการเลือกตั้งครั้งต่อไป องค์ประกอบเหล่านี้เพียงพอหรือไม่ที่จะพาทุกท่านไปข้างหน้าได้ ขอให้มั่นใจว่านายกรัฐมนตรีคนนี้ ตลอดระยะเวลาอีก 3 ปีครึ่ง  ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดเล็กๆ เราจะทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง รับฟังประชาชนทุกคน และตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนทุกคน.-317.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลั่นมหาดไทยพร้อมสับสวิตช์ หาก สมช.สั่งหยุดจ่ายไฟ

“อนุทิน” ลั่นมหาดไทยพร้อมสับสวิตช์ หาก สมช. สั่งหยุดจ่ายไฟ ชี้หากเพื่อนบ้านทำผิดกระทบความมั่นคง เตรียมหาแหล่งพลังงานใหม่ มอง กฟภ. ทำเกินหน้าที่ร่วมลงพื้นที่ บอกเป็นหน่วยงานรับปฏิบัติ

นายกฯ​ เปิดงาน Amazing Thailand Grand Tourismand Sports Year 2025

นายกฯ​ ขอการท่องเที่ยวปีนี้ปังๆ ร่วมเปิดงาน Amazing Thailand Grand Tourismand Sports Year 2025 ย้ำรัฐบาลหวังจีดีพีเติบโตจากการท่องเที่ยว มอบผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด จัดกิจกรรมดึงนักท่องเที่ยวทั้งปี ปลุกคนไทยช่วยแชร์ข่าวจริง หลังถูกบิดเบือน​ “สรวงศ์” ตั้งเป้าการท่องเที่ยว 35 ล้านคน

เร่งล่าหนุ่มบุกเดี่ยวชิงทองกว่า 100 บาท ในห้างดังย่านลำลูกกา

ตำรวจเร่งล่าคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ร้านทองในห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี กวาดทองในถาดกว่า 100 บาท หลบหนีลอยนวล

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]