กรุงเทพฯ20 ต.ค.-ทองคำไทยทำนิวไฮ ตามตลาดโลกหวั่นสงครามในตะวันออกกลาง แนะนักลงทุนเข้าเร็วออกเร็ว
สมาคมค้าทองคำรายงานราคาทอง ไทยเปิดตลาดรอบแรกเมื่อเวลา 09.24 น. ราคาปรับขึ้น 450 บาท โดยทองคำแท่งรับซื้ออยู่ที่บาทละ 33,950 บาท ขายออก 34,050 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณรับซื้ออยู่ที่บาทละ 33,336.84 บาท ขายออก 34,550 บาท ส่วนราคาทองคำตลาดโลก (Gold Spot) อยู่ที่ 1,979.00 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์
ในขณะที่สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดตลาดเมื่อคืนนี้ (19 ต.ค.) สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 12.20 ดอลลาร์ หรือ 0.62% ปิดที่ 1,980.50 ดอลลาร์/ออนซ์ แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนเดินหน้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง
นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่ม บ.เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก กล่าวว่า วันนี้ทองคำไทยทำราคาสูงสุดในประวัติการณ์ สาเหตุจากสงครามอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ส่วนแนวโน้มราคาทองคำโลก ยังเป็นขาขึ้น จากความกังวลสงครามที่ยังไม่จบ และมีแนวโน้มบานปลาย หลังเกิดเหตุการณ์ระเบิดที่โรงพยาบาลในฉนวนกาซา โดยมีการคาดการณ์ไว้ 2 แนวทาง คือ สงครามดำเนินต่อไป แต่มีขอบเขตชัดเจน ไม่ขยายวงไปยังประเทศข้างเคียง จะทำให้ราคาทองคำค่อยๆขยับขึ้น ไปถึงระดับ2,000เหรียญต่อออนซ์ แต่หากสงครามทวีความรุนแรงมากขึ้น และมีประเทศที่3 เข้าร่วมวงด้วย จนกลายเป็นความขัดแย้งในระดับภูมิภาค ราคาทองคำก็จะทะลุสูงกว่า 2,000 เหรียญต่อออนซ์ ได้อย่างไม่ยาก ทั้งนี้ต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะราคาทองคำที่ปรับขึ้นในขณะนี้เป็นผลจากสงครามล้วนๆ
แนะนักลงทุนช่วงนี้ต้องเป็นผู้ที่รับความเสี่ยงได้อย่างดี แต่ต้องเข้าเร็วออกเร็ว สำหรับผู้ที่ถือทองอยู่ในมือหากไม่ได้ร้อนเงินก็ยังไม่ต้องขาย หรือแบ่งขายบางส่วน 20 – 30% ส่วนนักลงทุนรายย่อยหรือนักลงทุนหน้าใหม่หน้าใหม่ แนะนำให้สังเกตสถานการณ์อยู่นอกตลาดจะดีกว่า เพราะสงครามมีความผันสวนสูงหากจู่ๆสงครามจบ ราคาทองก็ลดฮวบ
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ระบุว่า ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงต่อเนื่อง จากที่สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางมีแนวโน้มบานปลาย ทำให้มีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ทั้งนี้ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงว่าเฟดมีความมุ่งมั่นควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในเป้าหมาย 2% ส่วนกองทุน SPDR ถือทองเท่าเดิม
ราคาทองคำคาดปรับขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญ 1,980 ดอลลาร์ แต่คาดจะเริ่มมีแรงเทขายทำกำไรออกมานักลงทุนจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์ในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด -สำนักข่าวไทย