นายกฯ ยันถ่ายเองเซลฟีคาดเข็มขัดนิรภัยเป็นตัวอย่าง


กรุงเทพฯ 25 มี.ค.-นายกรัฐมนตรีถ่ายเซลฟีรณรงค์คาดเข็มขัดนิรภัย หวังลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ อีกทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายจราจรทางบก และความปลอดภัยในรถโดยสารสาธารณะ ตามมาตรา 44 ที่จะใช้บังคับในวันที่ 5 เมษายนนี้ 


นี่เป็นภาพถ่ายเซลฟี ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ถ่ายเอง ขณะนั่งอยู่เบาะด้านหลัง พร้อมคาดเข็มขัดนิรภัย เพื่อเป็นตัวอย่างหวังลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทีแรกท่านถ่ายเองแต่มือไม่นิ่งจนต้องเรียกเจ้าหน้าที่ทส. มาช่วยถ่ายอีกครั้ง สรุปกดไป 4 ภาพ

โดยนายกรัฐมนตรี หวังให้ประชาชนมีจิตสำนึกความรับผิดชอบว่าชีวิตเป็นสิ่งมีค่า พร้อมยืนยันว่าการออกคำสั่งตามมาตรา 44 เรื่องมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพ การบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก ในช่วงสงกรานต์นี้จะไม่ออกมาตรการอะไรมาเพิ่มเติม แต่อยากให้ทุกฝ่ายปรับความเข้าใจกันในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนให้ได้ก่อน  


สตช. และกรมการขนส่งทางบกชี้แจงการบังคับใช้กฎหมายตามมาตรา 44 อย่างเข้มข้น โดยหากรถคันใดถูกใบสั่งจะงดออกป้ายวงกลม ส่วนการติดตั้งเข็มขัดนิรภัยรถส่วนบุคคล รถแท็กซี่ และรถที่ใช้รับส่งจากสนามบิน หรือรถลีมูซีน รถที่จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2554 เป็นต้นไป ต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง รถตู้ส่วนบุคคล รถปิคอัพและรถสองแถว รถที่ผลิต หรือนำเข้า ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน  2555 เป็นต้นไป ต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง      

สำหรับรถตู้โดยสารจดทะเบียนตั้งแต่ 1 เมษายน 2555 ต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่งทุกคันและทุกเส้นทาง รวมทั้งรถโดยสารวิ่งระหว่างกรุงเทพไปต่างจังหวัด ที่จดทะเบียนตั้งแต่วันที่  1 เมษายน 2557 นอกจากนี้ยังเข้มงวดกับรถโดยสารสาธารณะ หากผู้ประกอบการไม่ดูแลพนักงานขับรถจนเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุร้ายแรง บรรทุกผู้โดยสารเกิน ทิ้งผู้โดยสาร เก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่กำหนด กรมขนส่งทางบกจะเพิกถอนการจดทะเบียนรถระงับใช้รถหรือพักใช้ใบอนุญาตทันทีไม่เกิน 6 เดือน  

ด้านกรรมการและรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส. ได้เรียกผู้ประกอบการรถตู้โดยสารวิ่งเส้นทางระหว่างจังหวัด เข้ามากำชับให้ปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ต้องติดตั้งจีพีเอสให้เสร็จภายในวันที่ 31 มีนาคมนี้ และต้องปฏิบัติตามประกาศมาตรา 44 อย่างเคร่งครัด หากละเลยแล้วถูกจับดำเนินคดีนอกจากโทษปรับแล้ว จะมีโทษตั้งแต่เบาไปหาหนัก คือพักใช้ใบอนุญาต 6 เดือน ระงับใช้ใบอนุญาตไม่มีกำหนด และหากเกิดอุบัติเหตุรุนแรงจะยกเลิกไม่ให้เดินรถในเส้นทางนั้นอีกต่อไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]