กรุงเทพฯ 24 ธ.ค.-สวนดุสิตโพล เปิดเผยผลการสำรวจ พบประชาชนร้อยละ 60.09 ค่อนข้างพอใจการปรับ ครม.ประยุทธ์ 4 เชื่อบุคคลที่เข้ามามีคุณสมบัติเหมาะสมกับตำแหน่ง ขณะที่ร้อยละ 23.91 ไม่ค่อยพอใจ เพราะการปรับ ครม.ทำให้งานหยุดชะงัก ไม่ต่อเนื่อง รัฐมนตรีใหม่ต้องใช้เวลาศึกษางาน ชื่นชอบ “ม.ล.ปนัดดา” รมช.ศธ.เป็นอันดับที่ 1 แต่หนักใจแทนนายกฯ เรื่องความเดือดร้อนของประชาชน ปัญหาปากท้อง ปัญหาเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว
สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,363 คน ระหว่างวันที่ 19-23 ธันวาคม 2559 กรณีที่หลังจากมีการปรับ ครม.ประยุทธ์ 4 ทั้ง 12 ตำแหน่ง โดยมีการสลับตำแหน่งและปรับเสริมตำแหน่งที่ว่าง เพื่อให้การทำงานของรัฐบาลในช่วงเวลาที่เหลือมีความเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพมากขึ้น พบว่า 5 อันดับรัฐมนตรีที่ประชาชนชื่นชอบ ประกอบด้วย อับดับที่ 1 ร้อยละ 70.58 ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ อันดับ 2 ร้อยละ 61.34 นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อันดับ 3 ร้อยละ 58.75 นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ อันดับ 4 ร้อยละ 55.18 นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม และอันดับ 5 ร้อยละ 54.22 น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เมื่อสอบถามถึงภาพรวมของการปรับ ครม.ครั้งนี้ ประชาชนพอใจมากน้อยเพียงใด พบว่า ประชาชนร้อยละ 60.09 ค่อนข้างพอใจ โดยให้เหตุผลว่า บุคคลที่เข้ามามีความรู้ความสามารถ มีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับตำแหน่ง มีหลายคนที่มาจากกระทรวงเดิม น่าจะทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ร้อยละ 23.91 ไม่ค่อยพอใจ โดยให้เหตุผลว่าการปรับ ครม.ทำให้งานหยุดชะงัก ไม่ต่อเนื่อง รัฐมนตรีใหม่ต้องใช้เวลาศึกษางานสักระยะ บางคนไม่ค่อยมีผลงานให้เห็น ร้อยละ 11.01 พอใจ โดยให้เหตุผลว่าทำให้รัฐบาลทำงานได้ดียิ่งขึ้น บริหารงานคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการปรับเปลี่ยน และร้อยละ 4.99 ไม่พอใจ โดยให้เหตุผลว่าเป็นเพียงแค่การสลับสับเปลี่ยนตำแหน่งใน ครม.เดิม ควรเลือกผู้ที่เหมาะสม มีความรู้ความสามารถ ตรงกับตำแหน่งที่ได้รับ และเป็นที่ยอมรับมากกว่า
เมื่อสอบถามว่า ณ วันนี้ ประชาชนหนักใจแทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในเรื่องอะไรบ้าง พบว่าร้อยละ 82.17 ความเดือดร้อนของประชาชน ปัญหาปากท้อง ข้าวของแพง มีหนี้สิน ขณะที่ร้อยละ 73.22 ปัญหาเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน การท่องเที่ยว ร้อยละ 71.61 การช่วยเหลือเกษตรกร แก้ปัญหาราคาข้าว ราคายางตกต่ำ ร้อยละ 67.35 การต่อต้านคัดค้านร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และร้อยละ 66.03 การทำงานตามโรดแมปในช่วงเวลาที่เหลือก่อนจะถึงการเลือกตั้ง.-
