นายกฯสั่งพัฒนาเอสเอ็มอีแปรรูปสมุนไพรให้เป็นรูปธรรมภายในปี 60

กรุงเทพฯ 28 ธ.ค.- นายกฯสั่งกระทรวงอุตฯ บรูณาการหน่วยงานเกี่ยวข้องพัฒนาเอสเอ็มอีแปรรูปสมุนไพร ให้เป็นรูปธรรมในปีหน้า


นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้(27 ธ.ค.)นายกรัฐมนตรีสั่งการให้กระทรวงอุตสาหกรรมเชื่อมโยงและบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อขับเคลื่อน Smes  ให้เป็นรูปธรรมในปีหน้าโดยเริ่มต้นเน้นที่กลุ่มเกษตรแปรรูปสมุนไพรซึ่งเป็นวัตถุดิบทางการเกษตรที่ช่วยสร้างรายได้ ท้องถิ่นและในหลายพื้นที่ โดยมีกระทรวงพาณิชย์ช่วยดูแลด้านการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศเนื่องจากจะเป็นผลดีต่อเกษตรกรตั้งแต่ฐานรากและตลอดห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด โดยในวันพรุ่งนี้(29 ธ.ค.)จะมีการประชุมร่วมกันที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อเริ่มต้นบูรณาการทำงาน สำหรับหน่วยงานที่จะร่วมบรูณาการทำงานร่วมกันประกอบด้วย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อขับเคลื่อนตามนโยบายที่ได้รับจากนายกรัฐมนตรี

ส่วนการปรับบทบาทและโครงสร้างกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อรองรับยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 จะมีการเสนอกรอบการปรับบทบาทและโครงสร้างใหม่ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบภายในเดือนมีนาคมปีหน้าเป็นอย่างช้า หลังจากนั้น จะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยจะสามารถใช้โครงสร้างใหม่ของกระทรวงอุตสาหกรรมได้ในเดือนกรกฎาคมปี 2560


ส่วนงบประมาณสำหรับใช้ขับเคลื่อนกระทรวงอุตสาหกรรมนั้นตามการปรับบทบาทและปร้บโครงสร้างใหม่ จะเน้นไปในงานที่ตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ประเทศไทย 4.0 เป็นหลักในขณะที่งบประมาณปี 61 กระทรวงอุตสาหกรรมจะจัดทำให้สอดรับกับแผนการทำงานปรับโครงสร้างใหม่ของกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเน้นสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี)  โดยเชื่อมโยงบรูณาการการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจน ด้านการกำกับดูแลเข้มข้นยิ่งขึ้นให้เป็นตามกฎหมายกฎระเบียบพร้อมชี้แนะแนวทางการยกระดับให้ทันสมัยก้าวหน้ายิ่งขึ้น

การปรับโครงสร้างกระทรวง อุตสาหกรรมในด้านแรกจะเป็นการช่วยผู้ประกอบการให้สามารถปรับตัวได้รวดเร็วยิ่งขึ้นพร้อมกันนี้จะมีการสื่อสารกับประชาชนให้เข้าใจว่าการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติประเทศไทย 4.0 จะดำเนินการขับเคลื่อนทุกกลุ่มอุตสาหกรรมตั้งแต่ อุตสาหกรรม 0.5 ไปจนถึง 4.0  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ให้อุตสาหกรรมไทยก้าวทันโลก

นายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวถึงมีการปรับโครงสร้างกระทรวงอุตสาหกรรมว่า การปรับโครงสร้างกระทรวงอุตสาหกรรม จะทำให้การทำงานของกระทรวงอุตสาหกรรมยืดหยุ่นมากขึ้น เน้นการสนับสนุนมากขึ้น พร้อมกับมีการกระจายอำนาจไปยังหน่วยงานท้องถิ่นมากขึ้นในทางปฏิบัติ  การปรับโครงสร้างกระทรวงวอุตสาหกรรม จะมีการปรับเปลี่ยนใหม่จากที่เดิมมี 154 สํานัก การปรับโครงสร้างใหม่ จะมีผลทำให้มีสำนักเพิ่มขึ้น 10 และยุบสำนัก  2 สำนัก รวมเป็นหน่วยงานใหม่ 162 สํานักในจำนวนนี้มีการปรับเปลี่ยนบทบาท 124 สำนัก


การปรับโครงสร้างกระทรวงสหกรรมใหม่ จะแบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกกลุ่มขับเคลื่อนอุตสาหกรรมและพัฒนาผู้ประกอบการ ประกอบด้วย 2 หน่วยงานคือ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม(กสอ.)ซึ่งจะเปลี่ยนชื่อเป็นกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) ซึ่งจะเปลี่ยนชื่อเป็นสำนักงานคณะกรรมการการพัฒนาสาหกรรมแห่งชาติโดยมีพรบ.พัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติและกองทุนเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา มีกองขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติ และมีสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ ซึ่งจะเปลี่ยนชื่อเป็นสำนักงานส่งเสริมผลิตภัณฑ์แห่งชาติโดยมีพรบ.ส่งเสริมผลิตภัณฑ์แห่งชาติรองรับ

 

กลุ่มงานที่ 2 คือสนับสนุนการประกอบการ ประกอบด้วย กรมโรงงานอุตสาหกรรม(กรอ.)และสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.) โดยสมอ.จะเปลี่ยนชื่อเป็นสำนักงานการมาตรฐานแห่งชาติ

กลุ่มงานที่ 3 คือ งานขับเคลื่อนการเพิ่มมูลค่าวัตถุดิบขั้นต้นประกอบด้วย กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่(กพร.) ซึ่งจะเปลี่ยนชื่อเป็นกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและวัตถุดิบ และมีสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(สอน.)ซึ่งจะเปลี่ยนชื่อเป็นสำนักงานคณะกรรมการอุตสาหกรรมชีวภาพ ขณะที่สำนักงานปลัดกระทรวง และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด จะคงอยู่ตามเดิมโดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด จะดูแลผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในส่วนภูมิภาคทั้งหมด

ส่วนการปรับบทบาทสถาบันเครือข่ายทั้ง 11 หน่วยงานภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมนั้นจะเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมาย S-Curve  -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

ตึกถล่ม

วันที่ 6 ปรับแผนใช้เครนยักษ์ยกปูนค้นหา 72 ชีวิต

เข้าสู่วันที่ 6 ทีมงานกู้ซากตึกถล่ม ปรับแผนค้นหา 72 ชีวิต ด้านญาติผู้สูญหายยังคงรอความหวัง บางส่วนจุดธูปปักลงดิน ขอแม่ธรณีเปิดทางช่วยทุกคนรอดชีวิต

นายกฯ เยี่ยมญาติตึกถล่ม

นายกฯ เยี่ยมให้กำลังใจญาติผู้ประสบภัยตึกถล่มที่ศูนย์พักคอย

นายกฯ เข้าเยี่ยมให้กำลังใจญาติผู้ประสบภัยตึกถล่มที่ศูนย์พักคอย “ขอให้ดูแลตัวเอง อย่าพึ่งป่วย”

กิจการร่วมค้าซีไอเอส

สั่งฟัน “กิจการร่วมค้าซีไอเอส” จ่อยกเลิกสัญญาจ้างสร้างเทอร์มินัลใหม่

“มนพร” รมช.คมนาคม สั่งฟัน “กิจการร่วมค้าซีไอเอส” เตรียมยกเลิกสัญญาจ้างสร้างเทอร์มินัลใหม่ “สนามบินนราธิวาส” พร้อมขึ้นแบล็คลิสต์เป็นผู้ทิ้งงาน ห้ามรับงานภาครัฐ หลังพบสร้างช้ากว่าแผน 60.76% งานอืดรวม 631 วัน มอบ ทย. ลุยตรวจสอบวัสดุอุปกรณ์ จี้ให้รายงานกลับมาภายใน 3 วัน ยันทุกโปรเจกต์ต้องผ่านมาตรฐาน-การตรวจเช็กจากวิศวกร

จำคุกชาวจีน

ศาลสั่งจำคุก 4 ชาวจีน ขนเอกสาร ตึก สตง.ถล่ม

ศาลพิพากษาจำคุก 4 ชาวจีน เข้าไปขนเอกสาร จากพื้นที่ อาคาร สตง. ถล่ม คนละ 2 เดือน ปรับ 6,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี