ขส.ทบ. 25 ม.ค.-ผบ.ทบ.เผยผลเยือนสหภาพเมียนมา ระหว่างวันที่ 23-25 ม.ค.ในฐานะแขกของกองทัพบกเมียนมา ผลักดันความร่วมมือหลายด้าน ให้ความสำคัญปัญหาก่อการร้าย ย้ำปัญหาชายแดนให้จบในพื้นที่
พล.อ. เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก แถลงผลการเยือนสหภาพเมียนมา ในฐานะแขกของกองทัพบกเมียนมา ระหว่างวันที่ 23-25 มกราคม ว่า ได้รับเกียรติจากผู้นำทางทหารในการหารือเรื่องต่าง ๆ เช่น การผลักดันความร่วมมือและดำเนินการตามข้อตกลงคณะกรรมการระดับสูง (HLC) ที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด 2 ประเทศ ลงนามไว้เมื่อปี 2559 อาทิ การลาดตระเวนร่วม การช่วยเหลือทางด้านการแพทย์ การจัดกำลังร่วมตามลำน้ำเมย
“การร่วมมือแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อการร้าย หรือ IS ซึ่งทางเมียนมามีความเป็นห่วงเรื่องนี้ แต่หลักฐานยังไม่ชัด จึงต้องแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน เพราะทุกฝ่ายตระหนักดีว่าการก่อการร้ายเป็นปัญหาใกล้ตัวที่ต้องเข้มงวดกวดขันให้มากขึ้น และสร้างมาตรการป้องกัน ส่วนการแก้ปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่ ให้ต่อสายตรงระหว่างประธานคณะกรรมการชายแดนไทย-พม่าระดับท้องถิ่น(RBC) ซึ่งฝ่ายไทยรับผิดชอบโดยแม่ทัพภาคที่ 1 และแม่ทัพภาคที่ 3 รวมทั้งผู้บังคับบัญชาในระดับพื้นที่ตามแนวชายแดน หากเกิดปัญหาต้องพูดคุยให้จบภายในพื้นที่” ผู้บัญชาการทหารบก กล่าว
พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า เมียนมาได้ร้องขอการส่งแพทย์เข้าสู่โครงการศูนย์แพทย์ทหารอาเซียน โดยขอให้ไทยช่วยถ่ายทอดเทคโนโลยีการรักษาโรคหัวใจ ซึ่งถือว่ารับได้เพราะเป็นเรื่องของมนุษยธรรม รวมทั้งการส่งผู้นำหน่วยทหารในพื้นที่เข้ามาเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ที่ห้วยฮ่องไคร้ จ.เชียงใหม่ ซึ่งกองทัพบกสนับสนุนงบประมาณในส่วนนี้อยู่แล้ว นอกจากนี้ยังขอให้ไทยช่วยสนับสนุนการสร้างสันติภาพเจรจากับชนกลุ่มน้อยในพม่า
“ขณะที่ไทยได้ร้องขอเมียนมาให้ขยับฐานต่าง ๆ ตามแนวชายแดนออกไป 500 เมตร ซึ่งเมียนมาก็รับเรื่องไป นอกจากนี้ยังขอความร่วมมือเรื่องการส่งกลับผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบในพื้นที่ ซึ่งกำลังจะดำเนินการในกรอบที่ 2 และ 3 โดยยอดผู้หลบหนีฯ ใน 7 ศูนย์ ขณะนี้มีอยู่ 90,000คน” ผู้บัญชาการทหารบก กล่าว.-สำนักข่าวไทย