สนช.ผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม วงเงิน 1.9 แสนล้านบาท

a00111ห้องประชุม สนช.รัฐสภา 27 ม.ค.- สภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีมติเห็นชอบวาระ 3 ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ 2560 วงเงิน 190,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ รัฐบาลยืนยันจะใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่าและโปร่งใส


การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันนี้ พิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2560 วงเงิน 190,000 ล้านบาท โดยนาย   อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงว่า รัฐบาลจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนนี้ เพื่อเร่งพัฒนาตามแผนงานบูรณาการ เสริมสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและชุมชนเข้มแข็ง แบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม คือ แผนบูรณาการสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ ดำเนินโครงการตามแผนพัฒนากลุ่มจังหวัด สนับสนุนพัฒนา SME ตามแนวประชารัฐ  กองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ สำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย กองทุนหมู่บ้านและชุมชนหมู่บ้าน รายจ่ายเพื่อชดเชยเงินคงคลัง และเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เช่น งบช่วยอุทกภัยภาคใต้ งบช่วยเหลือผู้มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี โดยรัฐบาลยืนยันว่า จะใช้งบประมาณนี้อย่างโปร่งใสและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ

ขณะที่สมาชิกส่วนใหญ่เห็นด้วยกับหลักการ และมองเป็นเรื่องปกติที่ระหว่างปีงบประมาณ จะมีการขอเพิ่มเติมงบประมาณเพื่อใช้ตามสถานการณ์ หรือขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ดีขึ้น แต่ต้องระมัดระวังเรื่องงบขาดดุล ที่ขณะนี้ วงเงินสูงถึง 6 แสนล้านบาท ดังนั้นจึงขอให้รัฐบาลชี้แจงว่า จะสามารถหาเงินมาชดเชยกับงบขาดดุลได้หรือไม่ พร้อมกันนี้ ยังกังวลว่า งบประมาณนี้ จะไม่ลงไปสู่รากหญ้าตามแผนที่กำหนดไว้


จากนั้น ที่ประชุมลงมติรับหลักการวาระแรก ก่อนตั้งคณะกรรมาธิการเต็มสภาพิจารณาวาระ 2 ต่อเนื่อง โดยเป็นการอภิปรายรายมาตรา ซึ่งสมาชิก สนช. ได้สอบถามเกี่ยวกับงบประมาณที่วางไว้สำหรับใช้กรณีจำเป็นเร่งด่วน โดยผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ชี้แจงว่า รองรับค่าใช้จ่ายไว้ในกรณีฉุกเฉินที่หน่วยงานไม่ได้รองรับไว้ เช่น กรณีน้ำท่วม โดยสามารถรับผ่านรัฐมนตรีต้นสังกัดในวงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาท หลังจากรายงานให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ แต่หากเกิน 10 ล้านบาทถึง100 ล้านบาท อยู่ที่นายกรัฐมนตรีจะพิจารณาเห็นชอบอนุมัติแต่หากเกิน 100 ล้านบาท ให้คณะรัฐมนตรีเป็นผู้อนุมัติ

ด้านนายสมชาย แสวงการ สมาชิก สนช. อภิปราย เรียกร้องให้รัฐบาลตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณที่ไม่ถึงมือประชาชน ไม่กระจายถึงท้องถิ่นอย่างแท้จริง และมีการนำเงินงบประมาณไปใช้ไม่ตรงวัตถุประสงค์

จากนั้น ที่ประชุม สนช.ได้มีมติเห็นชอบในวาระที่ 2 ซึ่งเป็นการลงมติรายมาตรา และมีมติเอกฉันท์ เห็นชอบวาระที่ 3 ด้วยคะแนน 163 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง เพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

“อัศนี” ประกาศชัยชนะนายกเล็กเชียงใหม่ หลังนับคะแนนผ่านไป 78%

เชียงใหม่ 11 พ.ค. – “อัศนี บูรณุปกรณ์” ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย ประกาศชัยชนะ หลังนับคะแนนผ่านไปกว่า 78% ทิ้งห่างคู่แข่งจากพรรคประชาชน 4,000 คะแนน นายอัศนี บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย พร้อมผู้สนับสนุน ต่างปรบมือแสดงความดีใจ หลังการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการผ่านไปเกินร้อยละ 78 ได้คะแนนกว่า 17,000 คะแนน ทิ้งห่างนายธีรวุฒิ แก้วฟอง จากพรรคประชาชน กว่า 4,000 คะแนน พร้อมประกาศชัยชนะ โดยขอบคุณทุกคะแนนเสียง รวมทั้งพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าชัยชนะครั้งนี้มาจากความใกล้ชิดประชาชนในพื้นที่ ยืนยันเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ไม่ใช่เก้าอี้ที่สืบทอดของบ้านใหญ่บูรณุปกรณ์ แต่มาจากการทำงานใกล้ชิดประชาชนจนมีความเชื่อมั่น ยืนยันพร้อมเดินหน้านโยบายเร่งด่วนใน 100 วันแรก เร่งป้องกันปัญหาน้ำท่วม เพราะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เมื่อถามว่า หนักใจกับการถูกร้องเรียนหลังเลือกตั้งหรือไม่ นายอัศนี ยืนยันว่า ทีมงานของตนมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และพร้อมจะดูแลพี่น้องประชาชนต่อไป.-713-สำนักข่าวไทย

เฮลั่น “ธัญญก้าวหน้า” ชนะยกทีม เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี

ปทุมธานี 11 พ.ค. – นับคะแนนเสร็จสิ้นแล้วอย่างไม่เป็นทางการ เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี จ.ปทุมธานี “นายกเบี้ยว” ประกาศลั่น “ธัญญก้าวหน้า” คว้าชัยชนะยกทีม “ยุพเยาว์” นั่งนายกเทศมนตรี ส่วน “ลูกพีช” ได้เป็น สท. -สำนักข่าวไทย

กกต.พอใจภาพรวมเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศ

11 พ.ค. – กกต.พอใจภาพรวมการเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หวังมีผู้มาใช้สิทธิตามเป้า 70% พร้อมกำชับ จนท.ขานคะแนนให้ชัด และเตรียมแผนเผชิญเหตุกรณีฝนตก-ไฟดับ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจดูการใช้สิทธิของประชาชน ในการใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี พื้นที่เพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะที่สถานการณ์ทั่วประเทศที่ได้รับรายงานพบบางจังหวัดมีข่าวซื้อเสียงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ไม่พบตามที่มีการแจ้ง และไม่น่าจะส่งผลกระทบให้ต้องเลือกตั้งใหม่ ประธาน กกต. เผยในการเลือกตั้งตรวจดูตามหน่วยเลือกตั้ง ได้กำชับกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเรื่องการนับคะแนน เพื่อหลีกเลี่ยงการร้องเรียนว่าขานคะแนนไม่ชัด หรือไม่ได้ยิน แสงสว่างน้อย จึงขอให้ขานคะแนนช้าๆ ชัดๆ เพื่อไม่ให้ผู้สังเกตการณ์เกิดความสงสัย และหากมีฝนตกก็ต้องมีแผนเผชิญเหตุ โดยเฉพาะหากไฟฟ้าดับ ส่วนผู้ใช้สิทธิจะมากกว่าครั้งที่แล้ว โดยครั้งนี้ตังเป้าไว้ร้อยละ 70 เพราะดูจากการมาใช้สิทธิตลอดทั้งวันเป็นไปด้วยความคึกคัก แต่ในแต่ละจังหวัดจะไม่เท่ากัน ขณะที่การนับคะแนน หลังปิดการลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง โรงเรียนหัวหินวิทยาคม ซึ่งมี 6 หน่วยเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่แจ้งหมดเวลาปิดการลงคะแนน และเริ่มการนับคะแนนทันที โดยเป็นการนับคะแนนนายกเทศมนตรี และมานับคะแนนสมาชิกสภาเทศบาล ท่ามกลางตัวแทนผู้สมัครมาเฝ้าสังเกตการณ์ สำหรับการเลือกตั้งเทศบาลมีจำนวน 2,463 แห่ง และหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]