ค้นพบพรรณไม้ชนิดใหม่ของโลก 8ชนิด

ซ.อารีย์ 9 ก.พ.-กรมอุทยานฯ พบพรรณไม้ชนิดใหม่ของโลก 8 ชนิด หนึ่งในนั้นตั้งชื่อ “sirindhorniana” (สิรินธรเนียน่า ) เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี


ภาพกระทรวงทรัพยากร แถลงข่าว (6)

นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช แถลงว่า ได้สำรวจพบพืชชนิดใหม่ของโลกในประเทศไทยจำนวน 8 ชนิดแต่ละชนิดพบในพื้นที่แตกต่างกัน ซึ่งผ่านการรับรองตีพิมพ์และอยู่ระหว่างการตีพิมพ์ในวารสารด้านพฤกษศาสตร์ที่มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศ โดยพืชพันธุ์ใหม่ที่ค้นพบ ได้แก่


 

 

1.ช้องเจ้าฟ้า(ชื่อพฤกษศาสตร์ Buxus sirindhornianaW. K. Soh , von Sternb., Hodk. & J. Parn. วงศ์ Buxaceae ) เป็นไม้ต้นชนิดใหม่ของโลก ตีพิมพ์โดยทีมงานนักพฤกษศาสตร์แห่งทรินิตี้คอลเลจ มหาวิทยาลัยแห่งกรุงดับลิน ซึ่งมีศาสตราจารย์ ดร.จอห์น พาร์แนล ซึ่งเป็นกรรมการบรรณาธิการโครงการพรรณพฤกษชาติประเทศไทย (Flora of Thailand) รวมอยู่ในทีมผู้ตั้งชื่อด้วย  คำระบุชนิด “sirindhorniana” ตั้งขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งในวารสารดังกล่าวระบุว่าพระองค์ทรงเป็นผู้สนับสนุนอย่างเข้มแข็งในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพในประเทศไทย


 

ช้องเจ้าฟ้าพบได้ตามเขาหินปูนตั้งแต่บริเวณชายแดนเมียนมาใน จ.กาญจนบุรี ถึงดอยหัวหมด อ.อุ้มผาง จ.ตาก อุทยานฯแจ้ซ้อน จ.ลำปาง และดอยหลวงเชียงดาว จ.เชียงใหม่  พบได้ง่ายและพบมากที่สุดที่ดอยหัวหมด ซึ่งเป็นเขาหินปูนผุกร่อน เป็นแหล่งที่พบพืชชนิดใหม่ของโลกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศมากกว่า 10 ชนิด

โดยตัวอย่างช้องเจ้าฟ้าที่เก่าแก่ที่สุดเก็บโดยหมอคาร์ (A.F.G.Kerr) นายแพทย์ชาวไอริช ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์พืชแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันคือพิพิธภัณฑ์พืชกรุงเทพฯ กรมวิชาการเกษตร โดยหมอคาร์ได้เก็บตัวอย่างผลของช้องเจ้าฟ้าจากดอยหัวหมดเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.2465 เป็นเวลาเกือบร้อยมาแล้ว ซึ่งขณะนี้ตัวอย่างถูกเก็บรักษาไว้ที่หอพรรณไม้ สวนพฤกษศาสตร์คิว กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร

ทั้งนี้ แม้จะมีการเก็บตัวอย่างมานาน แต่ไม่มีการเขียนตีพิมพ์เป็นพืชชนิดใหม่เพราะนักพฤกษศาสตร์ไม่แน่ใจว่าจัดอยู่ในสกุลใด เพราะปกติพืชสกุลช้องจะมีรังไข่ 3 ช่อง แต่ช้องเจ้าฟ้ามีรังไข่แค่ 2 ช่อง เมื่อได้มีการศึกษาในระดับชีวโมเลกุลยืนยันได้ว่าช้องเจ้าฟ้าถูกจัดอยู่ในสกุลช้อง จึงมีการตีพิมพ์เป็นพืชชนิดใหม่ของโลก

ภาพกระทรวงทรัพยากร แถลงข่าว (4)

 

 

 

 

2.ยมหินปูน (ชื่อพฤกษศาสตร์ Toona calcicola Rueangr., Tagane & Suddee วงศ์ Meliaceae ) เป็นไม้ต้นชนิดใหม่ของโลก พบขึ้นตามซอกหินปูนที่บริเวณสวนสวรรค์ วนอุทยานสวนหินผางาม อ.หนองหิน จ.เลย

ตีพิมพ์ในวารสาร Thai Forest Bulletin (Botany) เล่มที่ 43 หน้า 79-86 ปี 2015 โดยทีมงานนักพฤกษศาสตร์จากสำนักหอพรรณไม้ ร่วมกับทีมงานนักพฤกษศาสตร์ญี่ปุ่น

ยมหินปูนมีลักษณะเด่นตรงที่เกสรเพศผู้ไม่เชื่อมติดกันเป็นหลอดเหมือนพืชวงศ์เลี่ยน (Meliaceae) สกุลอื่นๆ ผลลักษณะคล้ายยมหินแต่ใบแตกต่างกันมาก เมื่อใบร่วงมีรอยแผลใบบนกิ่งชัดเจน คำระบุชนิด“calcicola” หมายถึงหินปูนซึ่งเป็นแหล่งที่พืชชนิดนี้ขึ้นอยู่

ภาพกระทรวงทรัพยากร แถลงข่าว (2)

 

 

 

 

3.ชะนูดต้นแก่งกระจาน (ชื่อพฤกษศาสตร์ Prunus kaengkrachanensis Nagam., Tagane & Suddee วงศ์ Rosaceae ) พบขึ้นตามป่าดิบเขาบริเวณพะเนินทุ่ง อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ตีพิมพ์ในวารสาร Thai Forest Bulletin (Botany) เล่มที่ 43 หน้า 43-45 ปี 2015 โดยทีมงานนักพฤกษศาสตร์สำนักหอพรรณไม้ร่วมกับทีมงานนักพฤกษศาสตร์จากญี่ปุ่น

ชะนูดต้นแก่งกระจานมีลักษณะเด่นที่ผนังผลชั้นในมีขนหนาแน่น ก้านใบมีต่อมที่ด้านในกลวง

 

4.หญ้าคางเลือยตะนาวศรี (ชื่อพฤกษศาสตร์ Scutellaria tenasserimensis A. J. Paton วงศ์ Lamiaceae ) เป็นไม้พืชล้มลุกชนิดใหม่ของโลก พบขึ้นตามเขาหินปูนตามแนว เทือกเขาตะนาวศรีในไทยและเมียนมา ตีพิมพ์ในวารสาร Kew Bulletin เล่มที่ 71(1)-3 หน้าที่ 2 ปี 2016 โดย ดร.อลัน พาร์ตัน แห่งสวนพฤกษศาสตร์คิว กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร

ในไทยพบหญ้าคางเลือยตะนาวศรีได้ที่บริเวณ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี และดอยหัวหมด อ.อุ้มผาง จ.ตาก

5.หญ้าคางเลือยเขาใหญ่  (ชื่อพฤกษศาสตร์ Scutellaria khaoyaiensis A. J. Paton วงศ์ Lamiaceae ) เป็นไม้พืชล้มลุกชนิดใหม่ของโลก พบขึ้นตามป่าดิบเขา โดยเฉพาะบริเวณเขาเขียว อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตีพิมพ์ในวารสาร Kew Bulletin เล่มที่ 71(1)-3 หน้าที่ 5 ปี 2016 โดยทีมงานชุดเดียวกันกับที่ศึกษาหญ้าคางเลือยตะนาวศรี

 

นอกจากนี้ยังพบเป็นพืชตระกูลกล้วยไม้ชนิดใหม่ของโลก 3 ชนิด คือ  6.ว่านแผ่นดินเย็นแม่โขง (ชื่อพฤกษศาสตร์ Nervilia mekongensis S. W. Gale, Schuit. & Suddee วงศ์ Orchidaceae ) โดยเป็นกล้วยไม้ดินชนิดใหม่ของโลก พบตามป่าผลัดใบ พบในไทยทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในลาวตอนเหนือ ในเวียดนามตอนเหนือและตอนใต้ และทางด้านตะวันออกของกัมพูชา ตีพิมพ์ในวารสาร Phytotaxa เล่มที่ 247(4) หน้า 267-273 ปี 2016 โดยทีมงานนักพฤกษศาสตร์ไทยและต่างชาติ

 

7.ว่านแผ่นดินเย็นเมืองตรัง (ชื่อพฤกษศาสตร์ Nervilia trangensis S. W. Gale, Suddee & Duangjai, sp. nov. ined. วงศ์ Orchidaceae ) พบในป่าดิบชื้นที่สวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่ายและสวนพฤกษศาสตร์เขาช่อง จ.ตรัง ดอกกับใบออกไม่พร้อมกัน ออกดอกช่วงต้นฤดูฝนก่อนออกใบ อยู่ระหว่างการเตรียมเขียนตีพิมพ์

 

ว่านแผ่นดินเย็นเมืองตรังค้นพบครั้งแรกโดยเจ้าหน้าที่สวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่าย ได้ส่งภาพถ่ายมาให้หอพรรณไม้ตรวจสอบ หลังจากนั้นจึงได้มีการติดตามเก็บตัวอย่าง และพบเพิ่มเติมที่สวนพฤกษศาสตร์เขาช่อง

 

8.ว่านแผ่นดินเย็นล้านนา (ชื่อพฤกษศาสตร์ Nervilia marmorata S. W. Gale, Suddee & Duangjai, sp. nov. ined. วงศ์ Orchidaceae ) พบตามเขาหินปูนในแถบ จ.เชียงรายและเชียงใหม่ ดอกกับใบออกไม่พร้อมกัน ออกดอกช่วงต้นฤดูฝนก่อนออกใบ อยู่ระหว่างการเตรียมเขียนตีพิมพ์โดย คำระบุชนิด “marmorata” หมายถึงใบที่มีลายคล้ายหินอ่อน

 

ทั้งนี้ตัวอย่างของพืชชนิดใหม่ของโลกทั้งหมดถูกเก็บรักษาไว้ที่สำนักหอพรรณไม้ กรมอุทยานฯ ส่วนในธรรมชาติจะเน้นการอนุรักษ์ให้คงอยู่ เพราะเป็นพรรณไม้หายาก ยังไม่ได้มีการประเมินสถานภาพและการใช้ประโยชน์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” ย้ำชัดเขมรเริ่มก่อน 100% ไม่พอใจเข้มปราบแก๊งคอลฯ

กระทรวงวัฒนธรรม 26 ก.ค.- “แพทองธาร” เปิดใจ ขอคนไทยรักกัน หันไปทะเลาะกับคนนอกประเทศก่อน ชี้ขัดแย้งกันเองยังรอได้ แฉกัมพูชาไม่พอใจไทยร่วมมือลาว – เมียนมา ปราบคอลเซ็นเตอร์ เผยสื่อนอกยังตั้งข้อสังเกต “กพช.” สั่งปิด รร.ยิงวันแรก เหมือนรู้ล่วงหน้าจะมีการรบ ย้ำชัดเขมรเริ่มก่อน 100% นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมติดตามมาตรการการรับมือ และช่วยช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 4 จังหวัด ที่กระทรวงวัฒนธรรม โดยนางสาวแพทองธารได้ยืนยันแถลงการณ์ของรัฐบาล ตามที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้แถลงไปเมื่อวานนี้ ที่ระบุว่ากัมพูชาถือว่าเป็นอาชญากรรมสงครามขั้นรุนแรง วิธีการต่าง ๆ ขัดต่อหลักสันติวิธีของกฎหมายระหว่างประเทศ และขัดหลักมนุษยธรรมที่ได้ปฏิบัติมาตลอด สถานการณ์ความรุนแรง เป็นสิ่งที่รัฐบาลได้ย้ำตลอดว่าไม่อยากให้เกิดขึ้น สิ่งสำคัญที่สุด คือชีวิตของประชาชน เป็นสิ่งที่เรายึดถือ และพยายามไม่ให้เกิดการเสียเลือดเสียเนื้อ จนฝ่ายกัมพูชาได้ยิงก่อน ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา นางสาวแพทองธารยังกล่าวว่า มีสำนักข่าวต่างประเทศตั้งข้อสังเกตว่า จริงๆ แล้วเรามีหลักฐาน มีดิจิทัลฟุตปริ้นท์ที่สามารถทำให้เห็นว่าใครเป็นคนเริ่มก่อน และมีการตั้งข้อสังเกตว่าในวันนั้นนักเรียนของเราที่อยู่ชายแดนไปโรงเรียนตามปกติ […]

“เสธ.เบิร์ด” ชี้เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” ถือเป็นภัยคุกคาม

26 ก.ค.- “เสธ.เบิร์ด” ชี้ เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” วิถีไกล 130 กม. ถือเป็นภัยคุกคาม มองไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากกรณีกองทัพภาคที่ 2 เตือนเฝ้าระวังกัมพูชายิงขีปนาวุธ PHL-03 วิถีไกล 130 กม. เพื่อพุ่งเป้าหมายพื้นที่ยุทธศาสตร์และที่ตั้งทหารนั้น ล่าสุด พล.ต.วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวว่า การขยับขีปนาวุธ PHL-03 เป็นการขู่ และถือเป็นภัยคุกคาม ดังนั้นถ้าไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากการที่กัมพูชากล่าวหาว่า ไทยใช้ปฏิบัติการทางอากาศเกินกว่าเหตุนั้น เราไม่ทำเกินกว่าเหตุ แต่สิ่งที่เราทำนี้เป็นเหตุผล เพราะฝ่ายกัมพูชา เคลื่อนกำลังจำนวนมากมาประชิดชายแดน ใช้อาวุธยิงระยะไกลทำร้ายประชาชนของไทย ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน สถานีบริการน้ำมัน ทำให้ประชาชนชาวไทยบาดเจ็บ และเสียชีวิต จากการมีภาพข่าวการเคลื่อนอาวุธยิงระยะไกล ถือว่าเป็นการข่มขู่คุกคามความมั่นคงของไทยอย่างชัดเจน ดังนั้นการปฏิบัติการทางอากาศ เพื่อลดการสูญเสีย สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้การปฏิบัติการทางอากาศของไทยทำลายเป้าหมายทางทหารเท่านั้น และมีความแม่นยำ -สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านลดต่อเนื่อง ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย

น่าน 26 ก.ค.- สถานการณ์น้ำท่วมตัวเมืองน่าน ลดลงต่อเนื่อง ส่วนอีกหลายจุดยังอ่วม ท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย ย่านการค้าและเศรษฐกิจสำคัญของเมืองน่าน บริเวณถนนสุมณเทวราช ซึ่งเคยน้ำท่วมสูงเกือบถึงคอ แต่ตอนนี้น้ำลดลงเหลือประมาณหน้าขา เท่ากับลดไปราว 1 เมตร แต่บริเวณโดยรอบยังมีน้ำท่วมเต็มพื้นที่ โดยเฉพาะที่ลุ่มต่ำ ยังท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทีมข่าวได้เข้าไปสำรวจความเสียหายของโรงแรงแห่งหนึ่งกลางเมืองน่าน ซึ่งสภาพภายในเต็มไปด้วยคราบโคลน รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ที่จอดไว้เสียหายจำนวนมาก ขณะที่เจ้าของร้านค้าย่านนี้ เริ่มสำรวจความเสียหายจากน้ำท่วม อีกจุดหนึ่งที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักคือที่โรงพยาบาลน่านที่ถูกน้ำท่วมสูงเต็มพื้นที่ 40 ไร่ บางจุดท่วมเกือบมิดหัว ตอนนี้น้ำลดแล้ว แต่ตามอาคารต่างๆ น้ำทะลักท่วมยาเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ได้รับความเสียหาย แต่ผู้ป่วยใน ราว 3 ร้อยคน ยังปลอดภัย คุณหมอ พยาบาลและเจ้าหน้าที่เร่งช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาด เพื่อให้โรงพยาบาลกลับมาเปิดบริการตามปกติให้เร็วที่สุด ช่วงสายที่ผ่านมา นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายใจกลางเขตเศรษฐกิจเมืองน่านด้วย -สำนักข่าวไทย