เผยทุจริตจัดซื้อภัยคุกคามธุรกิจไทย

กรุงเทพฯ 7 มี.ค. –  PwC เผยการทุจริตจัดซื้อเป็นภัยคุกคามธุรกิจไทยปี 60 หลังผลสำรวจพบภาคธุรกิจกว่าร้อยละ 90 เชื่อปีนี้มีโอกาสเกิดการทุจริตจัดซื้อภายในองค์กรของตัวเอง  ระบุสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากคนในร่วมมือกับคู่ค้า  แนะตรวจเข้มคู่ค้าหวังลดปัญหาฮั้วประมูล


นายวรพงษ์ สุธานนท์ หุ้นส่วนสายงาน Forensic services บริษัท PwC Consulting (ประเทศไทย) เปิดเผยในงานสัมมนา PwC Forensics Summit ว่า จากการสำรวจผู้เข้าร่วมงานสัมมนาครั้งนี้กว่า 400 ราย พบว่าผู้ถูกสำรวจมากถึงร้อยละ 93 ระบุว่ามีโอกาสเกิดการทุจริตจัดซื้อกับธุรกิจที่ดำเนินการในไทยช่วงปี 2560-2561 ซึ่งการทุจริตจัดซื้อถือเป็นปัญหาและภัยร้ายแรงที่ตรวจพบมากที่สุดเป็นลำดับต้น ๆ ทั้งไทยและระดับโลก  สอดคล้องกับผลสำรวจอาชญากรรมทางเศรษฐกิจประจำปี 2559 ของ PwC ประเทศไทย พบว่า การทุจริตจัดซื้อจะเป็นปัญหาการทุจริตที่ตรวจพบมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของไทยปีนี้ รองจากการยักยอกสินทรัพย์  และการรับสินบนและคอร์รัปชันอันดับ 3

นอกจากนี้ ปัญหาอาชญากรรมทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่เกิดจากพนักงานภายในองค์กร ทำให้ยากต่อการตรวจสอบการทุจริต โดยผลสำรวจปีที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นถึงข้อเท็จจริงเรื่องนี้อย่างดี เพราะผู้ถูกสำรวจเกือบร้อยละ 80 ยอมรับว่าการกระทำทุจริตส่วนใหญ่เกิดจากคนในทั้งนั้น รวมถึงปัญหาการทุจริตจัดซื้อด้วย  ทั้งนี้ สาเหตุของการทุจริตจัดซื้อที่พบส่วนใหญ่เกิดจากพนักงานสมรู้ร่วมคิดกับคู่ค้า และบ่อยครั้งมีการฮั้วขั้นตอนการเลือกผู้ค้า ดั้งนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่องค์กรต่าง ๆ จะต้องมีการตรวจสอบวิเคราะห์คุณสมบัติพื้นฐาน ของพนักงานและคู่ค้า และควรครอบคลุมถึงความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานกับบุคคลที่  3 ที่เป็นผู้ค้าของบริษัทในปัจจุบัน หรือที่อยู่ระหว่างการพิจารณาให้เป็นผู้ค้าด้วย


นายวรพงษ์ กล่าวต่อว่า การทุจริตที่เกิดจากบุคคลที่  3 ซึ่งเป็นผู้ค้าและคู่ค้าทางธุรกิจของบริษัทอาจทำให้บริษัทเกิดความเสี่ยงที่จะถูกฟ้อง  เนื่องจากความเกี่ยวข้องกับคอร์รัปชัน  โดยผลการศึกษาขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา พบว่าร้อยละ 75 ของเหตุการณ์คอร์รัปชัน 427 เหตุที่เกิดขึ้นทั่วโลกตั้งแต่ปี 2542 เกี่ยวข้องกับการชำระเงินที่ไม่เหมาะสมผ่านตัวกลางซึ่งเป็นบุคคลที่  3

ส่วนประเทศไทย นายวรพงษ์ กล่าวว่า ทุกฝ่ายยังคงต้องร่วมกันป้องกันและปราบปรามปัญหาอาชญากรรมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น เพราะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประเทศ ทั้งนี้ จากผลการจัดอันดับ ดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชันประจำปี 2559 โดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติพบว่า ไทยตกมาอยู่ที่อันดับ 101 จากทั้งหมด 176 ประเทศ  ถือเป็นลำดับต่ำสุดในรอบ 3 ปีนับจากปี 2556 ซึ่งเวลานั้นไทยอยู่ในอันดับที่ 102

“ค่าคะแนนดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชันของไทยล่าสุด ถือว่ารั้งท้ายประเทศกลุ่มเศรษฐกิจบริคส์ และคิวบาที่ถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ สะท้อนให้เห็นว่าทุกฝ่ายยังคงต้องทำหน้าที่ให้ดีกว่านี้ หากต้องการให้ไทยเป็นประเทศที่น่าดึงดูดต่อการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ” นาย วรพงษ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ