กรุงเทพฯ 3 มี.ค.-3 มีนาคมของทุกปี เป็น “วันอนุรักษ์สัตว์ป่าโลก” วันนี้ถูกตั้งขึ้นมา เพื่อให้กลุ่มประเทศภาคีอนุสัญญาไซเตส และผู้คนทั่วโลก ตระหนักถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์ป่า สำนักข่าวไทย อสมท จะพาไปดูชีวิตของ “เต่า” สัตว์หายาก ซึ่งกำลังมีชะตากรรมที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บและตายเป็นจำนวนมาก
ปัจจุบันจำนวนเต่าในประเทศไทยลดลงต่อเนื่อง หาได้ยากในธรรมชาติ แต่กลับพบมากในวัด ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์วรวิหารเล่าว่า บ่อน้ำในวัดที่ไม่ได้ใช้ คนจึงนำมาปล่อยและไม่ดูแล บางตัวกลืนเหรียญและตายเป็นจำนวนมาก
สอดคล้องกับข้อมูลของศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ ตรวจสอบวัด 20 แห่ง พบเต่ากว่า 40,000 ตัว ทั้งหมดไม่แข็งแรง เนื่องจากบ่อน้ำในวัดเน่าเสีย ไม่มีแหล่งอาหารและที่วางไข่ บ้างได้รับบาดเจ็บ ผอ.ศูนย์วิจัยฯ แนะควรปล่อยเต่าในแหล่งธรรมชาติ มีพื้นที่ลาดเอียงและบ่อน้ำที่มีน้ำไหลเอื่อย เพื่อช่วยเพิ่มจำนวนเต่าในระบบนิเวศ ทำให้ไทยยังเป็นหนึ่งในประเทศที่มีสปีชีส์เต่ามากที่สุด
สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยร่วมกับกรมอุทยานและศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ ช่วยชีวิตเต่า 4 สายพันธุ์ ได้แก่ เต่านา เต่าบัว เต่าหับ และเต่าหวาย ที่ถูกทอดทิ้งและบาดเจ็บจากวัดต่างๆ ปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ เนื่องในวันอนุรักษ์สัตว์ป่าโลก
กังหันชัยพัฒนา คือ สิ่งประดิษฐ์ที่ช่วยบำบัดน้ำเสีย เป็นแหล่งน้ำให้เต่าอยู่อาศัย เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ เผยว่า ทุกครั้งที่มองกังหัน จะนึกถึงพระอัจฉริยภาพของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่ทรงทำเพื่อประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จึงตัดสินใจปล่อยเต่า 89 ตัว ตามพระชนมพรรษาด้วย
นอกจากการปล่อยเต่าแล้ว สถานทูตฯ ได้จัดกิจกรรมให้ความรู้กับเยาวชนเรื่องการอนุรักษ์สัตว์ป่า เพราะแนวคิดของงานวันอนุรักษ์สัตว์ป่าประจำปีนี้ในระดับโลกคือ “Listen to the Young Voices.” เพื่อกระตุ้นเยาวชน ตระหนักว่าชีวิตของสัตว์ป่าและทรัพยากรธรรมชาติกำลังถูกคุกคามอย่างหนักและควรช่วยกันดูแลรักษาก่อนจะสูญพันธุ์.-สำนักข่าวไทย