บาทอ่อน หุ้นติดลบหลังเฟดชี้เตรียมขึ้นดอกเบี้ย

 


 

กรุงเทพฯ 19 พ.ย. -เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 5 สัปดาห์ หุ้นไทยปรับตัวลดลง เหตุเงินทุนไหลออก หลังเฟดชี้ชัดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยและนโยบาย”โดนัลด์ ทรัมป์” ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ อาจทำให้เงินทุนไหลออกเพิ่มขึ้น


 

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา (14-18 พ.ย.) เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 5 สัปดาห์ ที่ 35.62 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงปลายสัปดาห์ ท่ามกลางแรงหนุนที่แข็งแกร่งของเงินดอลลาร์ฯ หลังจากประธานประธานธนากลางสหรัฐ หรือ เฟดกล่าวต่อคณะกรรมาธิการในสภาคองเกรสว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ฯ ยังมีปัจจัยบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ (อาทิ ยอดค้าปลีก การเริ่มสร้างบ้าน จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์) ที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด ขณะที่ เงินบาทมีปัจจัยลบกดดันตลอดสัปดาห์จากแรงขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ ประกอบกับทิศทางสกุลเงินเอเชียในภาพรวมก็เคลื่อนไหวในทิศทางที่อ่อนค่าด้วยเช่นกัน

สำหรับในวันศุกร์ (18 พ.ย.) เงินบาทอยู่ที่ 35.58 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 35.31 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ (11 พ.ย.)


 

ด้านดัชนีหุ้นไทยปรับลดลงจากแรงขายอย่างต่อเนื่องของนักลงทุนต่างชาติ  โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,473.86 จุด ลดลง 1.38% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 23.26% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 56,039.80 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 568.65 จุด ลดลง 3.28% จากสัปดาห์ก่อน

หุ้น

ด้านตลาดหุ้นไทยปรับร่วงลงในวันจันทร์ โดยได้รับแรงกดดันจากกระแสเงินทุนไหลออก ก่อนที่ดัชนีจะฟื้นขึ้นในวันอังคารจากแรงหนุนของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น จากนั้น ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงต่อในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ ก่อนจะทรงตัวในวันศุกร์ โดยมีแรงกดดันจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่องท่ามกลางเงินบาทที่อ่อนค่าลง หลังประธานเฟดส่งสัญญาณถึงความพร้อมในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วๆ

 

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (21-25 พ.ย.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 35.30-35.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจของตลาดการเงินทั่วโลกน่าจะอยู่ที่สัญญาณของทิศทางนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีหน้า ทั้งในฝั่งมาตรการกระตุ้นของรัฐบาลทรัมป์ และสัญญาณแนวโน้มดอกเบี้ยของเฟด โดยเฉพาะจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่-บ้านมือสอง ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต-ภาคบริการ (ขั้นต้น) เดือนพ.ย. นอกจากนี้ นักลงทุนอาจรอติดตามบันทึกการประชุมเฟด (เมื่อต้นเดือนพ.ย.)  ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนต.ค. ของญี่ปุ่น และตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2559 ของไทย

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,450  และ 1,425 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,485 และ 1,500 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ การรายงานข้อมูลจีดีพีไตรมาส 3/2559 ของไทย และพัฒนาการทางการเมืองของสหรัฐฯ ตลอดจนสภาวะเงินทุนเคลื่อนย้ายในตลาดเกิดใหม่ ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ คำสั่งซื้อสินค้าคงทน ดัชนี PMI ภาคการผลิต ส่วนปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ การรายงานดัชนี PMI ของญี่ปุ่น และเยอรมนีนอกจากนี้ นักลงทุนอาจรอติดตามบันทึกการประชุมเฟด (เมื่อต้นเดือนพ.ย.)  ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนต.ค. ของญี่ปุ่น และตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2559 ของไทย-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ที่ทำการพรรคเพื่อไทยแห่งใหม่

ทำบุญเปิดที่ทำการพรรคเพื่อไทยแห่งใหม่

“แพทองธาร” ควง “ทักษิณ” ทำบุญเปิดที่ทำการพรรคเพื่อไทยแห่งใหม่ รมต.-แกนนำ-สส. พรรคเข้าร่วมพร้อมเพรียง ด้าน “ไชยชนก ชิดชอบ” เลขาธิการ ภท. มอบกระเช้าแสดงความยินดี

ชายฉกรรจ์ดักรุมทำร้ายหมอเจ้าของคลินิกเวชกรรม ย่านสีลม

ายฉกรรจ์ดักรุมทำร้ายหมอ หน้าคลินิกเวชกรรม ย่านธุรกิจสีลม จนเลือดอาบ เบื้องต้นไม่ทราบว่าคนร้ายเป็นใคร

ข่าวแนะนำ

ระทึก! ปิดล้อมก่อนปะทะ แนวร่วมดับ 4 ที่ยะลา คาดเตรียมก่อเหตุใหญ่

เหตุปิดล้อมปะทะกลุ่มคนร้าย ที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ยืนยันมีคนร้ายเสียชีวิต 4 ราย คาดเตรียมก่อเหตุใหญ่ในพื้นที่

ออกหมายจับ 2 ชายฉกรรจ์รุมทำร้ายหมอเจ้าของคลินิกเวชกรรม

ศาลอนุมัติหมายจับ 2 ชายฉกรรจ์รุมทำร้ายนายแพทย์ เจ้าของคลินิกเวชกรรม ย่านสีลม ด้านผู้เสียหายเชื่อมีคนบงการ เพราะมีการวางแผนเป็นระบบ ส่วนอาการบาดเจ็บดีขึ้นแล้ว

ญาติร้องสื่อ หนุ่ม ปวส.ฝึกงานที่ญี่ปุ่น ดับปริศนา

น้าสาวร้องสื่อ หลานชายจบ ปวส. ฝึกงานที่ญี่ปุ่น หายตัวปริศนา 1 เดือน สุดท้ายกลายเป็นศพ วอนช่วยประสานนำร่างกลับไทย เชื่อถูกฆาตกรรม เผยร้องหลายหน่วยงานนานนับเดือน แต่ไร้ความช่วยเหลือ

กดเงินหมื่น

ผู้สูงอายุชาวเชียงใหม่ฝ่าลมหนาวกดเงินหมื่นคึกคัก

เช้านี้ (27 ม.ค.) ผู้สูงอายุชาวเชียงใหม่ ฝ่าลมหนาวออกมากดเงิน 10,000 บาท จากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ไปใช้จ่าย แต่มีบางคนไม่ได้ลงทะเบียนไว้ ทำให้ชวดรับเงินหมื่น เฟส 2