กรุงเทพฯ 14 ธ.ค. – บริษัท กฟผ.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (EGATi) ยืนยันลงทุนซื้อหุ้นเหมืองถ่านหินในอินโดนีเซียโปร่งใส สร้างความมั่นคงทางพลังงาน เข้าจังหวะราคาดิ่งแต่ตอนนี้ขยับขึ้นกำไรส่วนต่างขั้นต่ำ 30 ดอลลาร์/ตัน
นายวัชรา เหมรัชตานันต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ EGATi กล่าวถึงการลงทุนเข้าซื้อหุ้นบริษัท Adaro Indonesia (AI) เหมืองถ่านหินในประเทศอินโดนีเซีย ว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2559 มูลค่าการลงทุนรวม 325 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 11,700 ล้านบาท ตามสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 11 – 12 ซึ่งการที่ EGATi เข้าไปลงทุนซื้อหุ้นบริษัทดังกล่าวนั้น ถือว่ามีความคุ้มค่าในการลงทุน เพราะมูลค่าภาพรวมของบริษัท AI จากที่มีการประเมินมีกว่า 100,000 ล้านบาท ซึ่ง EGATi มีเงินที่สามารถไปลงทุนได้เพียงร้อยละ 11.53 เท่านั้น แต่ EGATi มีสิทธิการร่วมบริหารโดยได้ส่งตัวแทนเข้าไปเป็น 1 ใน 6 ของคณะกรรมการบริษัท AI (Board of Commissioners) และยังได้สิทธิในการจัดสรรถ่านหินสำหรับบริษัทตามสัดส่วนที่ EGATi ถือหุ้นอยู่
นอกจากนี้ ราคาที่ซื้อขายกับ AI เป็นช่วงที่ถ่านหินมีราคาต่ำถือว่าลดความเสี่ยงในการลงทุนไปมากแล้ว โดยช่วงเวลาที่ซื้อราคาถ่านหินในตลาดโลกอยู่ที่ตันละประมาณ 50 – 55 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ปัจจุบันราคาของถ่านหินขึ้นไปอยู่ที่ประมาณตันละ 80 – 100 ดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ EGATi จะได้กำไรจากเงินปันผลในช่วงปลายปี ซึ่งจะส่งผลดีต่อความมั่นคงของบริษัท
“การเข้าซื้อหุ้นบริษัท AI มีการจ้างบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลกเข้ามาศึกษาด้านกฎหมาย การตรวจสอบทรัพย์สิน บัญชีและภาษีและด้านเทคนิค ตรวจสอบความถูกต้องและโปร่งใส และ AI มีบริษัทแม่คือ บริษัท Adaro Energy ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ของอินโดนีเซียที่ได้รับการตรวจสอบการดำเนินงานจากหน่วยงานภาครัฐของอินโดนีเซีย ทำให้มีความน่าเชื่อถือในการดำเนินธุรกิจ ขณะที่ EGATiมีขั้นตอนตรวจสอบเข้มตามระเบียบการบริหารรัฐวิสาหกิจ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องปกติที่สำนักงานการตรวจ เงินแผ่นดิน (สตง.) จะตรวจสอบโครงการลงทุนนี้อยู่แล้ว แม้ไม่มีผู้ร้องเรียนให้มีการตรวจสอบก็ตาม” นายวัชรา กล่าวยืนยัน
ทั้งนี้ การลงทุนดังกล่าวยังถือเป็นการสร้างความมั่นคงและประกันความเสี่ยงด้านเชื้อเพลิงให้กับการลงทุนของ EGATi ในโรงไฟฟ้าถ่านหินกวางจิ 1 ซึ่ง EGATi เข้าไปลงทุนก่อสร้างในสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามและลักษณะการลงทุนดังกล่าวก็เป็นไปในแนวทางเดียวกับการดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าในหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ที่มีการถือหุ้นในธุรกิจต้นน้ำ คือ เหมืองถ่านหิน เพื่อลดความเสี่ยงในการจัดหาเชื้อเพลิงของโรงไฟฟ้า อีกทั้งเหมืองถ่านหินของบริษัท AI มีกำลังการผลิตสูงเป็นอันดับ 2 และมีปริมาณถ่านหินสำรองเป็นอันดับ 3 ของประเทศ ซึ่งจะมีความมั่นคงในการดำเนินกิจการไปอีกอย่างน้อย 20 ปี เป็นถ่านหินซับบิทูมินัส มีแบรนด์การค้าที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกว่า Envirocoal มีลูกค้าถึง 14 ประเทศทั่วโลก เช่น ญี่ปุ่น จีน อินเดีย เกาหลีใต้ สเปน เป็นต้น
“ข้อมูลการลงทุนถือเป็นความลับทางธุรกิจที่จะไม่เปิดเผยต่อบุคคลหรือสาธารณชน ทางบริษัทพร้อมจะรับการตรวจสอบจาก สตง. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือหน่วยงานตรวจสอบอื่นของภาครัฐ ซึ่งการที่บริษัท EGATi เป็นรัฐวิสาหกิจ ทำให้การดำเนินการของบริษัทจะมีการตรวจสอบมากกว่าบริษัทเอกชนทั่วไป” นายวัชรา กล่าว.-สำนักข่าวไทย
